หนังสือพิมพ์ภูมิภาค รายสัปดาห์ ของคนใต้
ปีที่ 26 ฉบับที่ 1,332
วันที่ 29 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2567
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระนามเดิมว่า พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระราชโอรสใน สมเด็จ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ และ หม่อมสังวาล ที่ต่อมาได้รับการเฉลิมพระนามาภิไธย เป็น สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเสด็จพระราชสมภพ เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๐ ณ โรงพยาบาล MOUNT AUBURN รัฐ MASSACHUSETTS ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ทางโรงพยาบาลได้ลงบันทึกพระนามแรกของพระองค์ ไว้ที่โรงพยาบาลว่า “Baby Songkla” ที่ชื่อ สงขลา พระนามทรงกรมของพระราชบิดา คือกรมหลวงสงขลานครินทร์ มาเป็นพระนามแรก ที่ถือเป็นความภูมิใจ ความเป็นสิริมงคลสูงสุดของเมืองสงขลา
เมื่อพระองค์มีพระชนมายุ ๑๘ พรรษา รัฐบาลไทยได้กราบบังคมทูลอัญเชิญพระองค์ขึ้นครองราชย์ เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๙ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ จากนั้น ทรงเสด็จพระราชดำเนินกลับไปศึกษาต่อ ณ เมืองโลซานน์ ประเทศฝรั่งเศส
แม้พระองค์จะทรงโปรดวิชาวิศวกรรมศาสตร์ แต่เพื่อประโยชน์ในการปกครองประเทศ พระองค์ทรงเลือกเรียนในวิชาอันจะเป็นประโยชน์ในการปกครองประเทศคือ วิชากฏหมาย วิชาอักษรศาสตร์ วิชารัฐศาสตร์ วิชาภูมิศาสตร์ วิชารัฐประศาสนศาสตร์ และทรงศึกษาดนตรี
ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๒ เป็นต้นมา พระองค์ และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกระชับสัมพันธไมตรี กับประเทศต่าง ๆ ทั้งในยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และ เอเชีย และได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร
ในภูมิภาคต่างๆ ทุกภูมิภาคของประเทศไทย
เสด็จพระราชดำเนินมายังจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๒ โดยประทับรถยนต์พระที่นั่งเข้าสู่อำเภอรัตภูมิ เสด็จที่หน้ามุขของที่ว่าการอำเภอ ถือเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ที่ได้ มีภาพปรากฏ ที่เป็นความภูมิใจของอำเภอรัตภูมิ ก่อน ที่จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงประทับที่ตำหนักเขาน้อย เมืองสงขลา ทรงประทับที่สงขลา และทรงประกอบพระราชกรณียกิจที่เมืองสงขลาหลายวัน อาทิ ๑๘ มีนาคม เสด็จไปประทับทรงร่วมพิจารณาพิพากษาคดีความ ณ บัลลังก์ศาลจังหวัดสงขลา เสด็จไปประกอบพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลทักษินานุปทาน ถวายแด่สมเด็จพระศรีสวรินทิรา พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และสมเด็จพระราชบิดากรมหลวงสงขลานครินทร์ ณ วัดมัชฌิมาวาส
วันที่ ๑๙ มิถุนายน เสร็จประทับเรือยนต์พระที่นั่ง พัทลุง เสด็จทอดพระเนตรทะเลสาบสงขลา ก่อนเสด็จพระราชดำเนินต่อไปยังอำเภอหาดใหญ่ ทอดประเนตรกิจการสถานีการยางคอหงส์
วันที่ ๒๐ มีนาคม เสด็จพระราชดำเนินไปยังจังหวัดสตูล และเสด็จกลับมาประทับที่ตำหนักเขาน้อยเป็นวันที่ ๔
วันที่ ๒๑ มีนาคม ทรงชมการแสดงมโนรา ของจังหวัดสงขลาโดยพระองค์ทรงถ่ายทำภาพยนตร์ในท่ารำท่าต่างๆ ของมโนรา ที่เป็นท่าแม่บท และต่อไป ชมทัศนียภาพความสวยงามของแหลมสมิหลา
วันที่ ๒๒ มีนาคม เป็นวันสุดท้ายของการเสด็จประทับที่สงขลา เสด็จต่อไปยังจังหวัดปัตตานี ตามเส้นทาง สงขลา-หาดใหญ่-คลองแงะ-นาทวี-โคกโพธิ์
การเสด็จพระราชดำเนินมายังจังหวัดสงขลา ชื่อเมืองที่เป็นพระนามแรกในวันประสูติ ของพระองค์ คือ Baby Songkla และชื่อเมืองสงขลาที่เป็นพระนามทรงกรมของกรมหลวงสงขลานครินทร์ พระราชบิดาของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ที่พระองค์
ทรงได้รับการยกย่องให้เป็นพระมหากษัตริย์ที่เป็น King of the King ที่ยิ่งใหญของพระมกากษัตริย์บนโลกใบนี้ และ ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์เสด็จมายังเมืองสงขลาถึง ๔๗ ครั้ง
ถือเป็นเรื่องราวของเมืองสงขลา เปรียบเสมือนเมืองอันศักดิ์สิทธิ์..เป็นแผ่นมหัศจรรย์ ที่มีมนตรา ที่เป็นความภูมิใจสูงสุดของประชาชนสงขลานครแห่งศรัทธาที่ทุกภาคส่วนของสงขลาต่างนำสงขลาเดินหน้าสู่เมืองมรดกโลก ให้เป็นเมืองแห่งความสุข ความภูมิใจ และความศรัทธาของประชาชนบนโลกใบนี้
คอลัมน์ “สงขลาสู่มรดกโลก” หนังสือพิมพ์ภาคใต้โฟกัส รายสัปดาห์ ขอนำเรื่องราวที่สำคัญนี้มาบันทึกให้เป็นหน้าประวัติศาสตร์ของสงขลาด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ให้ได้สืบต่อกันต่อไป