Home » ข่าว » เอกชนขานรับ‘ผู้ว่าฯ โชตินรินทร์’ตรงสเป็ค-พร้อมร่วมพัฒนาศก.

เอกชนขานรับ‘ผู้ว่าฯ โชตินรินทร์’ตรงสเป็ค-พร้อมร่วมพัฒนาศก.

ภาคเอกชนในพื้นที่ขานรับ “ผู้ว่าฯ โชตินรินทร์” หวังเดินหน้าร่วมพัฒนาเศรษฐกิจ เชื่ออายุราชการ 4-5 ปี สร้างความต่อเนื่อง ขณะที่ “รองอธิการบดี ม.หาดใหญ่/อดีตผู้ว่าฯ นิวัติ” การันตี เป็นคนดี มีฝีมือ มุ่งมั่น ทุ่มเท ฟังเสียงสะท้อนจากประชาชน

หลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง สังกัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 โดยให้ นายโชตินรินทร์ เกิดสม พ้นจากตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสงขลา

นายทรงพล จังศิริวัฒนธำรง ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การที่ได้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีอายุราชการอีก 4-5 ปี เป็นเรื่องที่ดี เมื่อมาทำงานแล้วเข้าใจบริบทของจังหวัดสงขลามีเวลาในการขับเคลื่อนแนวทางหรือผลักดันนโยบายต่าง ๆ ที่ได้มอบหมายให้กับทีมงานหรือหน่วยงานต่าง ๆ สามารถติดตามเดินหน้า เพื่อให้บรรลุผลในระยะเวลา 4-5 ปี ก็จะมีความต่อเนื่องในการดำเนินนโยบายต่าง ๆ

“ไม่ใช่ว่าทำได้ 1 ปีแล้วก็ต้องเปลี่ยนคน พอเปลี่ยนคนเราไม่รู้ว่านโยบายจะไปต่อหรือจะต้องเปลี่ยนใหม่ ซึ่งจะทำให้ขาดความต่อเนื่อง แต่หากมีความต่อเนื่องก็จะเป็นการดี”

เพราะการจะผลักดันเรื่องอะไรต้องผ่านความเห็นชอบของมวลชน บางทีต้องผ่านการขับเคลื่อนของงบประมาณที่ต้องอาศัยเวลาและความต่อเนื่องและต้องอาศัยความเข้าใจของคนทำงานในบริบทต่าง ๆ ที่เห็นภาพรวม เข้าใจ และเดินหน้า รู้งาน ทำงานต่อเนื่องได้ ซึ่งภาคเอกชนมองว่าเป็นความจำเป็นที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดควรจะมีเวทีที่จะทำงานร่วมกับภาคเอกชนในการขับเคลื่อน ในการทำงานร่วมกันไม่ว่าจะเป็นมิติที่ภาคเอกชนอยากจะผลักดัน ก็อยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนมิติทางเศรษฐกิจร่วมกันกับภาคเอกชน โดยหอการค้าจังหวัดสงขลาก็จะมีเวทีคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ(กรอ.) อยู่แล้วในการที่จะนำเสนอประเด็นต่าง ๆ ของภาคเอกชน ให้ทางจังหวัดได้รับทราบและร่วมแก้ปัญหาไปด้วยกัน หรือการผลักดันเข้าในนโยบายอย่างตอนนี้ที่อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา (ท่านสมนึก พรหมเขียว) ซึ่งท่านก็ให้ความสำคัญกับประเด็นเหล่านี้ โดยมีการบรรจุเรื่องต่าง ๆ เข้าไปในเวที กรอ. อย่างต่อเนื่อง เป็นประโยชน์ในการทำงานร่วมกันโดยผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความสำคัญกับภาคเอกชนเดินหน้าเศรษฐกิจในมิติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการท่องเที่ยว ด้านการค้าการลงทุน ก็จะทำให้โอกาสในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปได้และต่อเนื่องถ้าผู้ว่าราชการจังหวัดลงมาใส่ใจในรายละเอียด

ขณะที่ ดร.ไพโรจน์ ชัยจีระธิกุล อุปนายกสมาคมโลจิสติกส์และขนส่งภาคใต้ กล่าวว่า ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ท่านมาจากสายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ซึ่งก็เป็นสิ่งที่จังหวัดสงขลาต้องการ และเคยทำงานที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) มาก่อน และมาอยู่สายมหาดไทย

ทั้งได้รับความไว้วางใจจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คิดว่าท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ
“น่าจะช่วยพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจของจังหวัดสงขลาได้ รวมถึงสาธารณภัยต่าง ๆ คิดว่าท่านจะมีจุดเด่นทางด้านนี้”
แม้ท่านจะใหม่สำหรับจังหวัดสงขลา สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการคือ เรื่องปากท้องของคนจังหวัดสงขลาเพราะเรื่องเศรษฐกิจเป็นที่สำคัญ เนื่องจากในขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศและของโลกไม่ดี ดังนั้น ถ้าท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลามาอยากให้จัดลำดับความสำคัญเรื่องเศรษฐกิจเป็นลำดับต้น ๆ และถ้าหากท่านผู้ว่าฯ เดินทางมาในเดือนนี้หรือสองเดือนหรือสามเดือน ก็จะเข้าสู่หน้าฝนสำหรับจังหวัดสงขลา ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดสงขลาก็มีหลายอำเภอที่เคยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากอุทกภัย จึงอยากให้ท่านผู้ว่าฯ ได้มาดูอย่างเร่งด่วน
ด้วยการย้อนมาดูพื้นที่ในอดีตว่าพื้นที่ไหนเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม ที่เคยเกิดวิกฤติหนัก ๆ และมาแก้ปัญหาทั้งในเชิงกายภาพ การขุดลอกคูคลอง การตั้งศูนย์ช่วยเหลือต่าง ๆ

“อยากให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดรีบลงมาดู เพราะตอนนี้ใกล้หน้าน้ำ และก็มีแนวโน้มปีนี้ พอฝั่งทางภาคเหนือรุนแรงก็มีโอกาสที่ภาคใต้เราจะหนักเหมือนกัน” จึงอยากฝากท่านผู้ว่าฯ ให้ดู 2 ประเด็นหลัก ๆ คือเรื่องเศรษฐกิจและเรื่องสาธารณภัย

“การที่อายุราชการของท่านผู้ว่าฯ 4-5 ปี เป็นสิ่งที่ดี จะทำให้สามารถทำงานกันได้ต่อเนื่องมากขึ้นกับภาคเอกชน” ฉะนั้น ขึ้นอยู่กับว่าการดำเนินการ การพูดคุยกับภาคเอกชน ความร่วมมือต่างๆ ศักยภาพของจังหวัดสงขลามีคนเก่งเยอะ อยู่ที่ท่านผู้ว่าฯ จะสามารถประสานงานและดึงศักยภาพคนเก่ง ๆ เหล่านี้ขึ้นมาช่วยพัฒนาจังหวัดได้อย่างไร

“เรามีทุนเดิมอยู่เยอะ มีทรัพยากร มีที่ตั้งภูมิศาสตร์ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดี เมื่อท่านผู้ว่าฯ ลงมาแล้ว ดูว่าโครงการไหน ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือ การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ การพัฒนาด่านฯต่าง ๆ ที่ท่านผู้ว่าฯ อาจจะต้องลงไปเจาะรายละเอียด แล้วดูว่าตรงไหนจะต้องเร่งรัด จุดไหนที่จะต้องติดตาม และดึงภาคเอกชนเข้ามาเสริมศักยภาพ”

ซึ่งภาคเอกชนยินดีที่จะช่วยท่านผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะเราก็อยากเห็นบ้านเมืองพัฒนาไปในทางที่ดีและเร็วที่สุด เพราะฉะนั้น ภาคเอกชนพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

“ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกท่านที่ทางกระทรวงมหาดไทยเลือกมา ก็เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถอยู่แล้ว ภาคเอกชนก็ต้องการ เพราะภาคเอกชนเองก็ไม่ได้มีกำลัง ไม่ได้มีกฎหมายอยู่ในมือ เราไม่ได้มีทรัพยากร เครื่องมือต่าง ๆ”

สิ่งที่ภาคเอกชนมี คือศักยภาพและเครือข่ายที่มีความเหนียวแน่น และพร้อมที่จะสนับสนุนทางราชการ ตอนนี้ก็อยู่ที่ทางราชการแล้วว่าจะดึงศักยภาพของพวกเรา แล้วก็จะรวมพลังของภาคเอกชนให้เดินไปสู่เป้าหมายเดียวกันได้อย่างไร

“เร็ว ๆ นี้ ก็น่าจะมีโอกาสที่ภาคเอกชนจะได้เข้าพบท่านผู้ว่าฯ สงขลา เพื่อขอคำแนะนำและได้นำเสนอปัญหาอุปสรรค รวมถึงวิธีการพัฒนาจังหวัดสงขลา การพัฒนาเมืองหาดใหญ่ หรือการพัฒนาด่านฯ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้รับทราบ” ดร.ไพโรจน์ กล่าว

นายสมพล ชีววัฒนาพงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เรื่องอายุราชการของผู้ว่าฯ สงขลา ถือว่าเป็นไปตามที่ภาคเอกชนอยากได้

“เรื่องประสบการณ์ก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะท่านผู้ว่าฯ โตมาทั้งสายปกครองและฝ่ายบริหาร ซึ่งสายปกครองก็คือเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดที่ผ่านมา ส่วนฝ่ายบริหารในฐานะรองปลัดกระทรวงมหาดไทย”

ประเด็นต่อมา คือความเข้าใจในมิติด้านเศรษฐกิจ ซึ่งท่านมีประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) มาก่อน

ในวันที่ 16 ตุลาคม 2567 จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ก็คงจะมีการพูดคุยกันภาคเอกชนด้วยกันว่า ถ้าท่านผู้ว่าฯ มาเราจะนำเสนออะไร จะมีข้อมูลอะไรที่จะไปนำเสนอท่านผู้ว่าฯ บ้าง จึงมองว่าเป็นโอกาสของจังหวัดสงขลา

“หลาย ๆ เรื่องอาจจะต้องใช้เวลาในการแก้ไข ซึ่งถ้าท่านผู้ว่าฯ มาแล้วอยู่ต่อเนื่อง ท่านก็จะได้เห็นภาพว่าประเด็นปัญหาเป็นยังไง การวางกลยุทธ์ การวางกรอบเวลาในการแก้ปัญหาต่าง ๆ” นายสมพล กล่าว และว่าระยะเวลาแค่ปีเดียวอาจจะไม่ทัน แต่ถ้าเรามีเวลา 2-3 ปี น่าจะทำได้ ฉะนั้น การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดยังเหลืออายุราชการหลายปี เป็นบวกสำหรับจังหวัดสงขลาแน่นอน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *