ศาลปกครองสงขลาพิพากษา ให้กรมโยธาฯรื้อถอนเขื่อนหาดม่วงงาม

ศาลปกครองสงขลา พิพากษาให้กรมโยธาธิการและผังเมือง–กรมเจ้าท่า–ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสงขลา รื้อถอนโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่ชายฝั่ง ตำบลม่วงงาม จังหวัดสงขลา พร้อมทั้งปรับสภาพชายหาดม่วงงามให้กลับคืนสู่สภาพเดิม ภายใน 60 วัน

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 25 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์ศาลปกครอง เผยแพร่ข่าวศาลปกครอง คดีที่ศาลปกครองสงขลาพิพากษาให้กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมเจ้าท่า และผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สงขลา รื้อถอนโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่ชายฝั่งหมู่ที่ 7 ตำบลม่วงงาม อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา และโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลพร้อมปรับปรงภูมิทัศน์พื้นที่ชายฝั่งหมู่ที่ 7 หมู่ที่ 8 หมู่ที่ 9 ตำบลม่วงงาม อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ระยะที่ 2 พร้อมทั้งปรับสภาพชายหาดม่วงงามให้กลับคืนสู่สภาพเดิม ภายใน 60 วัน

วันนี้ (25 ธันวาคม 2567) เวลา 11.00 นาฬิกา ศาลปกครองสงขลาอ่านผลแห่งคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ส.3/2563 คดีหมายเลขแดงที่ ส.2/2567 กรณีผู้ฟ้องคดีทั้งห้าฟ้องว่า ได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่ชายฝั่งหมู่ที่ 7 ตำบลม่วงงาม อำเภอสิงหนครจังหวัดสงขลา และโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิงริมทะเลพร้อมปรับปรงภูมิทัศน์พื้นที่ชายฝั่งหมู่ที่ 7 หมู่ที่ 8 หมู่ที่9 ตำบลม่วงงาม อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา (ระยะที่ 2) ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (กรมโยธาธิการและผังเมือง) และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (กรมเจ้าท่า) โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 (ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขา สงขลา) ที่ออกใบอนุญาตก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำแม่น้ำ ประเภทเขื่อนกันน้ำกัดเชาะ ให้แก่ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

จึงนำคดีมายื่นฟ้องต่อศาลปกครองสงขลา ขอให้ยกเลิกโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ดังกล่าว และเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำแม่น้ำที่ผู้ถูกฟ้องฟ้องคดีที่ 3 ออกให้แก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 รวมทั้งให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ร่วมกันหรือแทนกันรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามโครงการที่พิพาทออกจากบริเวณชายหาดม่วงามทั้งหมด และปรับสภาพให้พื้นที่ชายหาดกลับคืนสู่สภาพเดิม

ศาลปกครองสงขลาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โครงการของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่งบริเวณชายหาดม่วงงาม ลดการสูญเสียพื้นที่และลดความเสียหายของทรัพยากรชายฝั่ง เพื่อให้ชายฝั่งมีทัศนียภาพที่สวยงาม เมื่อพิจารณาข้อมูลเอกสาร ภาพถ่าย ประกอบกับการตรวจสถานที่ที่ดำเนินโครงการพิพาทบริเวณชายหาดหมู่ที่ 7 หมู่ที่ 8 หมู่ที่ 9 ตำบลม่วงงาม อำเภอสิ่งหนคร จังหวัดสงขลา

แม้มีปัญหาการถูกคลื่นกัดเชาะบางจุดในช่วงมรสุม แต่ไม่รุนแรง และชายหาดสามารถฟื้นตัวกลับสู่สภาพปกติได้ จัดเป็นพื้นที่ชายฝั่งที่มีการกัดเซาะน้อย แต่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เลือกใช้มาตรการป้องกันปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง คือโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล ที่เป็นโครงสร้างคอนกรีตแข็งแบบขั้นบันไดบนชายหาดม่วงงาม ซึ่งมาตรการดังกล่าวเหมาะสมกับสภาพชายฝั่งที่มีปัญหาการกัดเซาะปานกลางถึงรุนแรง และเมื่อพิจารณาถึงประโยชน์อันเป็นความคุ้มค่าที่จะได้รับจากการสร้างเขื่อนคอนกรีตเพื่อป้องกันตลิ่งริมทะเลกับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติของชายหาดที่จะต้องสูญเสียไปจากการดำเนินการดังกล่าวแล้วการดำเนินโครงการของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จะเกิดผลเสียต่อทรัพยากรธรรมชาติของชายหาดม่วงงามมากกว่าประโยชน์ที่จะได้รับ

กรณีจึงเป็นการเลือกใช้มาตรการป้องกันและแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งหาดม่วงงามที่ไม่ได้สัดส่วนต่อการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะในพื้นพื้นที่ดังกล่าว อันเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักความได้สัดส่วน ทั้งกรณีดังกล่าวยังถือเป็นการจำกัดสิทธิในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 ให้การรับรองและคุ้มครองไว้อีกด้วย

การดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการกระทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดีทั้งห้า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จึงต้องดำเนินการเยียวยาความเสียหายจากการทำละเมิดโดยการทำให้ชายหาดม่วงงามกลับคืนสู่สภาพเดิมด้วยการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างตามโครงการดังกล่าวที่ได้ดำเนินการไปแล้วออกไปให้พ้นจากชายหาดม่วงงาม และปรับสภาพชายหาดม่วงงามให้กลับคืนสู่สภาพเดิม

พิพากษาให้ยกเลิกโครงการก่อสร้างเชื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ชายฝั่งหมู่ที่ 7 ตำบลม่วงงาม อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา และโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลพร้อมปรับปรงภูมิทัศน์ พื้นที่ชายฝั่งหมู่ที่ 7 หมู่ที่ 8 หมู่ที่ 9 ตำบลม่วงงาม อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา (ระยะที่ 2) ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ดำเนินการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างตามโครงการดังกล่าวที่ได้ดำเนินการไปแล้ว และปรับสภาพชายหาดม่วงงามให้กลับคืนสู่สภาพเดิมภายในหกสิบวันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด และให้คำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 มีผลต่อไปจนกว่าคดีถึงที่สุดหรือจนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น 

ขอบคุณข้อมูล : สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org)