ผู้ประกอบการด่านนอกเรียกร้องทบทวนแนวทางการเปิดใช้งานด่านฯสะเดาแห่งใหม่ ขอให้เปิดใช้งานด่านฯสะเดาแห่งใหม่สำหรับรถบรรทุก และคงเปิดใช้งานด่านฯสะเดาปัจจุบันสำหรับรถนักท่องเที่ยว เตรียมยื่นหนังสือนายกรัฐมนตรีที่ลงมาตรวจเยี่ยมพื้นที่ด่านฯสะเดาเร็วๆนี้
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ณ ห้อง Tulip โรงแรม MBI Resort ด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลาผู้ประกอบการในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ (ด่านนอก)
มีการรวมตัวของผู้ประกอบการในพื้นที่ด่านนอก เพื่อ แสดงออกถึงความต้องการในแนวทางการเปิดใช้งานด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ ที่ไม่ให้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในชุมชน
ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่ สงขลา ในฐานะ ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการด่านนอก กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางด่านฯ ไม่เคยเปิดพื้นที่ให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการออกแบบเส้นทางเชื่อมระหว่างประเทศ
“เสมือนรัฐติดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก ทำให้การเปิดด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ ตามแนวเส้นทางที่รัฐได้เสนอกับทางมาเลเซียเมื่อเดือน พฤษภาคม 2566 จะมีผลกระทบอย่างมหาศาลต่อเศรษฐกิจในพื้นที่ด่านนอก”
จึงขอให้ทางรัฐได้ทบทวนแนวทางการเปิดใช้งานด่านฯสะเดาแห่งใหม่ โดยขอให้เปิดใช้งานด่านฯสะเดาแห่งใหม่สำหรับรถบรรทุก
และคงเปิดใช้งานด่านศุลกากรสะเดาปัจจุบันไว้สำหรับรถนักท่องเที่ยว เพื่อรองรับสองอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อชุมชนในพื้นที่และเศรษฐกิจภาพรวมของจังหวัดสงขลาทั้งสองกลุ่ม
ขณะที่นายเกชา เบญจคาร อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสำนักขาม (ตำแหน่งในขณะนั้น) กล่าวว่า สมัยที่ตนดำรงตำแหน่งนั้น ทางด่านได้มาขอมติจากสภาเพื่อขอใช้พื้นที่ด่านศูลกากรสะเดาแห่งใหม่
โดยทางด่านฯย้ำกับตนว่า ด่านใหม่จะเพื่อการขนส่ง และด่านปัจจุบันจะไม่ปิดให้บริการ และจะเปิดให้ใช้งานสำหรับรถยนต์นักท่องเที่ยวเท่านั้น ตนและสภาอีกหลายๆคน จึงได้อนุมัติในหลักการเห็นชอบให้ใช้พื้นที่แปลงดังกล่าวในการสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่
จึงเรียกร้องขอให้ด่านฯดำเนินการตามที่เคยให้คำมั่นสัญญาไว้ ไม่ควรจะหลอกประชาชน ซึ่งจะเกิดความเสียหายกับพื้นที่เป็นอย่างมาก
ด้านนางณัฐชา แซ่เตียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรักษ์ด่านนอก กล่าวว่า การเปิดใช้งานของด่านจะต้องเปิดแบบคู่ขนานทั้งด่านฯสะเดาเดิมและด่านฯสะเดาแห่งใหม่
โดยด่านฯสะเดาเดิมให้เป็นเส้นทางของรถยนต์ทั่วไป และด่านฯสะเดาแห่งใหม่ให้เป็นเส้นทางของรถบรรทุก ส่วนการเปิดช่องให้เลี้ยวเข้าด่านเดิมทางด้านขาเข้าประเทศไทยนั้น ก็ไม่มีอะไรมารับประกันว่าจะเปิดให้บริการอย่างถาวร
เพราะตัวอย่างมีให้เห็นแล้ว ถึงการย้ายด่านฯปาดังเบซาร์ไปเปิดที่ใหม่ ที่ในช่วงแรกมีการเปิดช่องขาวแดง ที่คนนิยมเดินทาง แต่ต่อมาภายหลังมีการปิดช่องดังกล่าว ทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ปาดังเบซาร์ตายสนิท
“จึงไม่อยากให้ด่านนอกเป็นเช่นปาดังเบซาร์ในอดีต ขอให้รัฐได้ทบทวนตรงนี้ด้วย”
ทั้งนี้ทางกลุ่มผู้ประกอบการเตรียมยื่นเสนอข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี ในช่วงที่ลงมาตรวจเยี่ยมพื้นที่ด่านฯสะเดา เพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบข้อเท็จจริงถึงความต้องการจากภาคเอกชน