เวลา 18.00 น. วันที่ 11 พฤษภาคม 2566 พรรคภูมิใจไทย จัดเวทีปราศรรัย ณ ชุมชนสถานี 2 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดย “รองฯรักษ์” นายเจษฎาพงษ์ ชูแก้ว ผู้สมัครส.ส. เขต 2 สงขลา พร้อม “นายกไพร” ดร.ไพร พัฒโน ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3, “นายกแบน” นายประสงค์ บริรักษ์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 ร่วมเวที มีประชาชนรับฟังจำนวนมาก
สิ้นเสียงวีทีอาร์แนะนำตัว นายเจษฎาพงษ์ ปรากฏตัวบนเวที กล่าวว่า ด้วยความเป็นคนพื้นที่ ที่ถูกส่งมาให้พี่น้องคนพื้นที่เลือก ตนมั่นใจว่ามีความรู้ความเข้าใจพื้นที่จริง เพราะทำงานเป็นอดีต สจ.เขต 4 มาเกือบ 7 ปี และอดีตเคยเป็นนายกฯเทศมนตรีนครหาดใหญ่ อีกทั้งมีความตั้งใจอยู่แล้วในการสมัครเข้ามาเป็นผู้สมัครเป็นตัวแทนชาวหาดใหญ่ หลังจากทำงานช่วยเหลือประชาชนชาวหาดใหญ่มาตลอดหลายปีร่วมกับนายฉัตรชัย ชูแก้ว หรือ “ทนายหมู” พี่ชายผู้ล่วงลับ
“หลายคนหาว่าผมเอาทนายหมูมาหาเสียง ผมได้ยินแล้วนึกเสียใจ ผมไม่ได้แอบอ้าง ความจริงแล้วผมกับทนายหมูเป็นพี่น้องที่แท้จริง แม่ของผมเป็นพยาน ทนายหมูตั้งใจช่วยพี่น้องในฐานะผู้สมัคร ส.ส.และดูแลพี่น้องพื้นที่เป็นอย่างดี ทั้งเขตเทศบาลหาดใหญ่และพี่น้องตำบลคลองอู่ตะเภา ช่วยเหลือพี่้น้องยามได้รับผลความเดือดร้อนจากพิษโควิด 19 ผมเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังทนายหมูมาตลอด ไม่ว่าทนายหมูทำอะไร ผมรู้หมดทุกอย่าง เพราะเราวางแผนด้วยกัน พี่น้องจะทิ้งกันอย่างไร แต่วันนี้เขาทิ้งผมไปแล้ว” รองรักษ์ กล่าว และว่า
วันนี้พรรคภูมิใจไทยได้ตัดสินใจ มีมติกับกรรมการบริหารพรรค ให้ตนสานปณิธานของทนายหมูได้ดีที่สุด จึงเสนอตนเป็นผู้แทนให้ประชาชนเลือก “เลือกผมเหมือนได้ทนายหมู”
“รองรักษ์” กล่าวถึงความรับผิดชอบดูแลประชาชนของพรรคภูมิใจไทยและการทำนโยบายต่าง ๆ ของสมาชิกผู้แทนราษฏรในการพัฒนาจังหวัดพัทลุง ซึ่งพรรคภูมิใจไทยได้ที่นั่งส่วนใหญ่ในการเลือกตั้งครั้งก่อน เป็นแนวทางให้กับตนในการพัฒนาอ.หาดใหญ่
“ปี 62 รมต.พิพัฒน์ และ ดร.นาที รัชประกิจประการ ได้ให้แนวทางไว้ว่า ถ้าภูมิใจไทยมี ส.ส. ในเพัทลุง 2 ขึ้นคนขึ้นไป ท่านจะผลักดันสะพานมโนราห์ให้เกิดให้ได้ ในเดือนกรกฎาคมนี้ได้ตอกเสาเข็มแน่นอน สะพานข้ามไปเกาะลันตาใหญ่เสร็จไปแล้” นายเจษฎาพงษ์ กล่าว และว่า
เช่นเดียวกับ การกีฬาและการท่องเที่ยว ที่ท่านพิพัตน์ ทำไว้เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขัน อี-สปอร์ต ที่วัยรุ่นรู้จักเป็นอย่างดี จากแค่กิจกรรมเล่นเกม ตอนนี้กลายเป็นกีฬาอาชีพถูกต้องตามกฎหมาย สามารถเล่นเกมแล้วได้เงิน สามารถเลี้ยงชีพตัวเองได้
การแก้ปัญหาหลังโควิด การเปิดเมือง ท่านติดต่อกับมาเลเซีย เพื่อให้มาเลเซียเปิดด่าน เพราะถ้าไทยเปิด แต่ฝั่งมาเลเซียไม่เปิด นักท่องเที่ยว)ก็เข้ามาไม่ได้ เพราะฉะนั้นท่านจึงประสานงานให้มาเลเซียเปิดท่าน เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามา พร้อมจัดงานต่าง ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยว มีที่กิน ที่เที่ยว ที่เดิน จัดสตรีทฟู้ด ทั้งปีใหม่ ตรุษจีน มิดไนท์สงกรานต์ ทำให้เศรษฐกิจในหาดใหญ่ฟื้นขึ้นอย่างรวดเร็ว
พี่น้องอาจมองไม่เห็นว่า การจัดงานในเมืองแล้ว พี่น้องได้อะไร พี่น้องชาวเขต 4 ขายของในตลาดสดมากพอสมควร เพราะฉะนั้น นักท่องเที่ยวมาก แม่ค้าในตลาดก็ขายของได้ รถโดยสารรับจ้างก็จะมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการ มีรายได้เข้ามาหมุนเวียนในท้องถิ่น ในชุมชน
“ถ้าผมได้เข้าไปในฐานะตัวแทนของพี่น้อง ผมจะไปต่อยอดนำความเดือดร้อนของพี่น้องไปบอกรัฐมนตรี ไปบอกรัฐบาล หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อไหร่ที่พรรคภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาล ผมจะผลักดันทุกอย่าง งบประมาณต่าง ๆ มาสู่หาดใหญ่” นายเจษฎาพงษ์ กล่าว