ผลการคัดสรรจุฬาราชมนตรีคนที่ 19 โดยคณะกรรมการคัดสรรที่มาจากคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดจำนวน 40 จังหวัดทั่วประเทศ ได้ลงคะแนนคัดสรร อ.อรุณ บุญชม เป็นจุฬาราราชมนมตรี คนที่ 19 ของประเทศไทย โดยได้รับคะแนน 471 คะแนนจากผู้ลงคะแนนทั้งหมด 723 คน
ผศ.ดร.ชาฟิอี อาดำ ผู้จัดการสถาบันความคิดอิสลามนานาชาติ อดีตรองประธานสภาอาจารย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า ในฐานะนักวิชาการ ตนมีความเห็นว่า การเลือกตั้งผู้นำมีความสำคัญต่อประชาชาติ ถ้าดูจากประวัติศาสตร์ของอิสลามตั้งแต่สมัยคอลิฟะฮ์ทั้งสี่รวมทั้งสมัยยะซีซ บิน มุอาวียะฮ์ จะเห็นว่าให้ความสำคัญของการมีอาวุโสเป็นลำดับแรก โดยเหตุผลที่เป็นผู้มีประสบการณ์และอายุในการอยู่ในตำแหน่งอาจไม่นานมาก ก็จะมีการหมุนเวียนสับเปลี่ยน ในช่วงการทำงานบุคลิกภาพของผู้นำก็ได้เติมเต็มให้กับคนอื่นๆ ในขณะเดียวกันหากเป็นผู้มีอาวุโสน้อยที่อยู่ในตำแหน่งนานมากๆ ก็อาจนำไปสู่การเสพอำนาจเรื้อรัง ทำให้เกิดความขัดแย้งได้ อันนี้โดยหลักจากที่ได้จากการวิจัย
“ในสังคมพหุวัฒนธรรมแบบประเทศไทย อ.อรุณ ท่านได้ทำงานอยู่ในศูนย์กลางขององค์กรศาสนามานานก็เป็นผู้ที่มองเห็นปัญหาต่างๆ ในส่วนของผู้อาวุโสน้อยที่มีความรู้ความสามารถก็สามารถร่วมกันทำงาน เมื่อถึงเวลาหนึ่งก็มีประสบการณ์และความอาวุโสที่มากขึ้นก็มีความเหมาะสมได้รับการยอมรับ และสามารถเข้ามาสู่ตำแหน่งผู้นำได้ในที่สุด”ผศ.ดร.ชาฟิอี กล่าวและว่า
สิ่งหนึ่งที่จำเป็นคือการมีบุคลิกภาพที่เป็นสากล โดยที่ผ่านมาเราขาดการสื่อสารกับต่างประเทศที่เป็นผู้นำมุสลิมโดยตรง เราต้องมีผู้ที่สามารถเป็นตัวแทนของเราได้โดยตรงพื่อสื่อสารกับประชาชาติมุสลิมทั้งตะวันออกกลาง และโลกมุสลิมอื่นๆ
ในขณะนี้สังคมต้องการความประณีประนอมอย่างมาก ต้องการผู้ที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องนี้นอกเหนือจากความรู้คือด้านบุคลิกภาพด้วยเป็นสำคัญ
“ท่านอ.อรุณ มีความรู้ด้านวิชาการ เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม และเชี่ยวชาญด้านหะดิษซึ่งเป็นหลักในการทำความเข้าใจอัลกุรอาน ซึ่งได้กล่าวถึงมิติทางสังคม ศิลปวัฒนธรรม การเมือง และเรื่องอื่นๆ ” ผศ.ดร.ชาฟิอี กล่าว