นายกสมาคมผู้ประกอบการรักษ์ด่านนอก วอนนายกรัฐมนตรีรับข้อมูลจากผู้ประกอบการ การเปิดใช้ด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ ปิดด่านฯเก่า ชี้ผลกระทบธุรกิจนับหมื่นล้าน หลังจากเพิ่งฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิดได้แค่ 60 เปอร์เซ็นต์ เสนอ 3 ข้อพิจารณา
นางณัฐฌา แซ่เตียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรักษ์ด่านนอก เปิดเผย “ผู้สื่อข่าว” กรณีนายกรัฐมนตรีหารือทวิภาคีกลุ่มเล็กกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ณ ด่านศุลกากรสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ในเวลา 11.00 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ว่า
อยากให้นายกรัฐมนตรีได้รับรู้ข้อมูลและความจริงในพื้นที่เรื่องการเปิดด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ โดยจะทำการปิดด่านฯเก่า โดยอยากให้นายกรัฐมนตรีได้รับข้อมูลและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากมีการปิดด่านฯเก่า ซึ่งจะมีผลกระทบต่อธุรกิจเมืองด่านนอกมูลค่านับ 10,000 ล้านบาท
“วิงวอนให้นายกมาดูนิดนึง เรารู้ว่าท่านนายกมีงานเยอะ แต่อยากจะให้ท่านได้รับข้อมูลอีกด้านจากพวกเราในฐานะผู้ประกอบการว่าเกิดอะไรขึ้นตรงนี้ อย่ามองว่าด่านนอกเป็นแค่ตำบลเล็ก ๆ ตำบลหนึ่งเท่านั้น แต่อย่าลืมว่าธุรกิจของเมืองนี้มีมูลค่าเป็น 10,000 ล้านบาท”
สำหรับข้อเสนอของผู้ประกอบการด่านนอก 3 ข้อ1 ทบทวนเส้นทางการเชื่อมระหว่างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่กับประเทศมาเลเซีย 2 เปิดใช้งานด่านศุลกากรแห่งใหม่สำหรับรองรับการขนส่งสินค้าหรือโลจิสติกส์เท่านั้น และเปิดใช้งานด่านศุลกากรสะเดาปัจจุบันสำหรับรองรับรถยนต์ส่วนบุคคลและรถทัวร์เพื่อการท่องเที่ยว
3 แต่งตั้งตัวแทนผู้ประกอบการเข้าไปมีส่วนร่วมในการรับทราบและข้อเสนอแนะในส่วนที่จะมีผลกระทบต่อภาคเอกชนโดยเฉพาะในการวางแผนดำเนินการกำหนดเส้นทางเดินรถระหว่างด่านกับประเทศมาเลเซีย เพราะหากมีการปิดด่านฯเก่าจะทำให้เมืองด่านนอกกลายเป็นเมืองร้างอย่างแน่นอน
“เราเพิ่งฟื้นจากสถานการณ์โควิดมาได้ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ ถ้าปิดด่านฯเก่าทำกับฆ่าเราเลย และไม่เฉพาะแค่ประกอบการเท่านั้นห่วงโซ่ธุรกิจท่องเที่ยวทั้งหมดก็ไม่รอด บางคนต้องกู้หนี้ยืมสินมา ขายทรัพย์สินเพื่อมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่ก็ไม่รู้จะไปยังไงต่อ เดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ได้” นายกสมาคมผู้ประกอบการรักษ์ด่านนอก กล่าว
