“สาธารณสุขอำเภอเมืองสงขลา” เลือกพื้นที่ตำบลเขารูปช้าง โดยใช้ “วัดแช่มอุทิศ” นำร่อง แก้ปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน ชุมชน ตามนโยบายรัฐบาล และคำสั่งผู้ว่าฯ สงขลา
กลุ่มผู้ป่วยติดยาเสพติด ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ต.เขารูปช้าง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา จำนวน 19 คน ที่สมัครใจเข้าร่วมกิจกรรมบำบัดยาเสพติดในชุมชน จะมารวมตัวที่ “ศาลาการเปรียญ วัดแช่มอุทิศ” ในช่วงเช้าของทุกวัน เพื่อทำกิจกรรม ร้องเพลง เล่นฟุตบอล หรือกิจกรรมสันทนาการ ที่ครูฝึกจะออกแบบและสอดแทรกความรู้เกี่ยวผลกระทบจากการใช้สารเสพติดไปด้วย
นางสาว สตดะ ดีนธุสะ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ สาธารณสุขอำเภอเมืองสงขลา หรือ “ครูดี” บอกว่า กิจกรรมนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชน และอยากให้ทุกชุมชนเริ่มต้นแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง
แม้ช่วงแรกอาจทำไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ทำให้ทุกคนในชุมชนตระหนักว่า นี่คือปัญหาร่วมกัน ต้องช่วยกันเอ็กซเรย์หรือสำรวจปัญหา ดึงลูกหลานออกมาจากขบวนการยาเสพติด“เป็นการปฎิบััติตามนโยบายรัฐบาล และคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน ชุมชน” ครูดี กล่าว และว่า
โดยใช้ชุมชนบำบัดผู้ป่วยติดยา และใช้พื้นที่ “ตำบลเขารูปช้าง” นำร่อง เนื่องจากเป็นพื้นที่ ที่มีความเข้มแข็ง และมีศักยภาพ รวมถึงได้ร้บความร่วมมือของคนในชุมชนเป็นอย่างดี และคาดหวังว่าผู้ที่เข้ารับการบำบัดจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และสามารถกลับตัวเป็นคนดีในสังคมได้ต่อไป นายเค ชายวัย 33 ปี หนึ่งในผู้ร่วมโครงการ เข้ามาเพราะอยากเลิกสารเสพติด และก่อนหน้าเข้าร่วมโครงการ เขาเพิ่งถูกตำรวจจับ
นายเค เล่าว่า เสพยาบ้ามาตั้งแต่อายุ 20 ปี จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากความเครียดกับปัญหาครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกัน ประกอบก้บ ตัวเองอยู่ในกลุ่มเพื่อน ที่เสพยา และอยากลองจึงเป็นจุดเริ่มของการใช้ยาเสพติด
“วันนี้อยากจะเลิกเพราะสงสารเแม่ และมีภาระต้องเลี้ยงหลาน จึงสมัครใจมาบำบัด เพราะอยากหายจากอาการติดยา และยืนยันว่าจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพอีก” ไม่ต่างกับ นายโจ อายุ 43 ปี มีอาชีพเป็นช่างเชื่อมโลหะ ที่ยอมรับว่า เสพยาบ้ามาแล้วกว่า 3 ปีแต่ละวันต้องเสพยาบ้าวันละ 3-4 เม็ด เพื่อให้สามารถทำงานได้มากขึ้น จนกลายเป็นคนติดยา ที่สมัครมาบำบัดเพราะยากหายจากการติดยา และอยากมีชีวิตเหมือนคนปกติในสังคม พร้อมกับยีนยันว่าจะไม่หันกลับมาเสพยาอีกต่อไป
โครงการชุมชนบำบัด ที่จัดขึ้นโดย สาธารณสุขอำเภอเมืองสงขลา ร่วมกับฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน รับผู้บำบัดแบบสมัครใจ เข้ามารับการบำบัด โดยจะไม่มีการจับกุม หรือบังคับโดยใช้สถานที่ภายใน “วัดแช่มอุทิศ” เป็นหลักในการทำกิจกรรม ระหว่างวันที่ 12 -16 ธันวาคม 2566 เพื่อให้ผู้บำบัดได้ใช้ชีวิตตามปกติ แต่อาศัยความหนักแน่นทางด้านจิตใจ ที่จะไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด หลังจากผ่านการบำบัด เจ้าหน้าที่จะสุ่มตรวจทุกเดือน ซึ่งหากพบก็จะตักเตือน และให้กำลังใจ เริ่มต้นใหม่ และคอยสนับสนุนด้านอาชีพ ให้เขากลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ได้
นอกจากนี้ โครงการนี้ ยังช่วยสร้างความเข้าใจกับชาวบ้าน เพราะปัญหายาเสพติด ไม่สามารถแก้ไขได้เพียงหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากครอบครัวและชุมชน
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหาผู้ป่วยยาเสพติด เริ่มจากการค้นหา และนำเข้าสู่การบำบัดรักษาตามรูปแบบที่รัฐกำหนดไว้ เช่น การบำบัดโดยสถานพยาบาล การบังคับบำบัดในศูนย์ฟื้นฟูการบำบัดในเรือนจำ เป็นต้น
“การบำบัดดังกล่าว เน้นที่ตัวผู้ป่วยที่ต้องรับผิดชอบ แก้ไขตนเอง ผู้ติดมีโอกาสกลับมาเสพติดซ้ำ เมื่อผู้ป่วยกลับไปสู่สภาพแวดล้อมเดิม ประสบปัญหาเดิมๆ ในชีวิต การบำบัดรักษาจึงไม่สามารถใช้การแพทย์แต่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาอื่นๆ” ผู้ว่าฯ สมนึก กล่าว และว่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจัยด้านชุมชนและครอบครัวของผู้ป่วย เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนและภาคีเครือข่ายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ผู้ที่ผ่านการบำบัดรักษาได้กลับไปใช้ชีวิตในสังคมอย่างปกติสุข
