ประชาธิปัตย์ สงขลาเร่งหาเสียงเปิดปราศรัยย่อยช่วย’โกถึก’ ผู้สมัครส.ส.เขต 3 สงขลา “นิพนธ์” มั่นใจ กวาด ส.ส.ใต้ ไม่ต่ำกว่า 40 ที่นั่ง เชื่อมั่น’โกถึก’ ทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนได้
การหาเสียงคึกคัก ระยะเวลาที่กระชั้นชิดทำให้ผู้สมัครต้องเร่งพบปะประชาชนให้ได้มากที่สุด โดยได้ปรับกลยุทธ์เน้นการปราศรัยย่อย โดยวันที่ 21 เมษายน 2566 เวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งสส.เขต 3 สงขลา ซึ่ฝขณะนี้เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีผู้สมัครในเขตนี้ จำนวน 12 คน ซึ่งพรรคการเมืองใหญ่ อย่างพรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคภูมิใจไทย และ พรรคเพื่อไทย ต่างก็ส่งผู้สมัครลงชิงเก้าอี้ สส.ในพื้นที่นี้
โดยวันที่ 21 เมษายน 2566 เวลา 17.30 น. พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเวทีปราศรัยย่อย ที่บริเวณถนนนวลแก้ว ต.คอหงห์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาลตำบลคอหงส์ และแกนนำผู้สนับสนุน สลับกันขึ้นเวทีปราศรัยขอคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขต 3 ช่วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายสมยศ พลายด้วง เบอร์ 4 โดยนำเสนอนโยบายทั้งนโยบายของพรรคและนโยบายในระดับพื้นที่ ทั้งนโยบายนมโรงเรียน นโยบายเรียนฟรี ที่ได้ทำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนโยบาย ประกันรายได้เงินส่วนต่าง ข้าว มัน ยาง ปาล์ม ข้าวโพด และการพัฒนาให้สอดคล้องตามข้อเสนอแนะของประชาชนในพื้นที่พร้อมกับขอคะแนนเสียงสนับสนุนเลือกพรรคประชาธิปัตย์เบอร์ 26 โดยมีพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลคอหงส์ ที่มาร่วมฟังการปราศรัยกว่า 5,000 คน
จากนั้นนายสมยศ พลายด้วย ผู้สมัครส.ส.หมายเบข 4 ได้ขึ้นเวทีโดยมีผู้สนับสนุนมาร่วมมอบดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจ และนายสมยศได้กล่าวทักทายกับพี่น้องประชาชนที่มาร่วมฟังก่รปราศรัยพร้อมกล่าวถึงความตั้งใจที่อาสาเข้ามาทำงานให้กับพี่น้องประชาชนชาวเขต 3 เพื่อให้เกิดการพัฒนาในเขต 3 ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ภายใต้นโยบายต่างๆของพรรคประชาธิปัตย์
ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี ได้กล่าวถึง ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ ได้มาบรรยายที่หาดใหญ่เมื่อวันที่ผ่านมาว่า เป็นความตั้งใจของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีเป้าหมายให้ทีมเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์มาพูดเกี่ยวกับเมกกะโปรเจ็คในภาคใต้ และพูดถึงโครงสร้างที่จะพัฒนาหาดใหญ่ โดยเฉะาะอย่างยิ่งท่านอาจารย์สามารถ ราชพลสิทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญเมกกะโปรเจ็คได้มาพูดชัดเจนถึงเรื่องของรถไฟรางคู่ ที่จะต่อจากปาดังเบซาร์มาหาดใหญ่ เชื่อมกับมาเลเซีย นี่จะเป็นการเปิดศักราขการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับมาเลเซียใหม่ จะทำให้หาดใหญ่มีนักท่องเที่ยวมากขึ้น การเดินทางสะดวกขึ้น ประการต่อมาก็คือความเร่งรัดในการผลักดันมอเตอร์เวย์ จากหาดใหญ่ไปสะเดา ไปด่านนอก นั่นคือสองโปรเจ็คใหญ่ ตามด้วยโมโนเรลที่ครั้งหนึ่งผมเคยศึกษาไว้สมัยเป็นนายก อบจ. สงขลา และบัดนี้ได้มีการศึกษาสิ่งแวดล้อม และออกแบบเสร็จหมดแล้ว ฉะนั้นเหลือแต่ว่าจะทำอย่างไรที่จะร่วมมือกับภาคเอกชนที่จะทำโครงการนี้ให้เดินหน้าให้ได้ สิ่งสำคัญนั่นคือสิ่งที่ ท่านพิสิษฐ์ ลี้อาธรรมได้ประกาศว่า พร้อมที่จะผลักดันให้หาดใหญ่เป็นศูนย์กลางการเงินของภูมิภาคเอเซีย ซึ่งเราจะไปดูต้นแบบฮ่องกงก็ดี สิงคโปร์ก็ดีหรือลาบวนก็ดี สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ท่านพิสิษฐ์ ลี้อาธรรมบอกว่าหาดใหญ่มีความพร้อมทุกอย่างที่จะทำให้หาดใหญ่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคใต้ และของเอเซียให้ได้
ฉะนั้นประชาธิปัตย์จึงกล้าประกาศว่าถ้าเราเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เราจะผลักดันหาดใหญ่ให้เป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจ ให้เป็นเมืองศูนย์กลางการเงิน เพราะหาดใหญ่มีพร้อมทั้งโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคมทางอากาศ และสงขลาเราจะปรับให้มีท่าเรือน้ำลึกให้เกิดขึ้นจริงให้ได้ นี่คือศักยภาพของจังหวัดสงขลา จึงเป็นที่มาของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ส่งทีมเศรษฐกิจมาพูดที่หาดใหญ่ และประกาศที่หาดใหญ่ว่า นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์จะทำ
และวันนี้ผมตระเวนขอคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชน ทั้งเขต 2 หาดใหญ่ คุณนิพัฒน์ อุดมอักษร และเขต 6 คุณสุภาพร กำเนิดผล ที่สะเดาและเขต 3 นายสมยศ พลายด้วง ไว้รับใช้พี่น้องประชาชน ซึ่งบรรยากาศการตอบรับของประชาชนดีขึ้นมาก ผมจึงมีความมั่นใจว่าจากเดิมที่ประชาธิปัตย์มีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่นว่า อย่างไร 40 ที่นั่ง ต้องได้ และวันนี้ผมมีความมั่นใจมากขึ้นว่าขั้นต่ำเราต้องได้ 40 ที่นั่ง เพราะในสามจังหวัดชายแดน ที่จังหวัดปัตตานี ซึ่งผมได้เดินทางไปทั้ง เขต 1 และเขต2 ผมยืนยันว่ากระแสตอบรับจากประชาธิปัตย์ดีขึ้นเป็นลำดับ
ในส่วนของกระแสโพลนั้น โพลเองก็บอกถึงเป้าหมายในสามจังหวัดก็ดีขึ้น โพลเองไม่ได้วิเคราะห์ลงไปในรายเขต วิเคราะห์เพียงภาพรวมทั่วไป วิเคราะห์ถึงพรรค ถึงตัวนายกรัฐมนตรี ซึ่งตัวนายกไม่มีให้เลือกในบัตรเลือกตั้ง และในสามอาทิตย์ที่เหลือพรรคจะเร่งหาเสียงเต็มที่ทุกเขตเลือกตั้ง