ในห้วงเวลาใกล้เข้าสู่การเลือกตั้งใหม่ “นายกอบจ.สงขลา” ที่นายกฯคนปัจจุบัน นายไพเจน มากสุวรรณ์ จะหมดวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี ในช่วงปลายปี 2567 นี้
ปรากฏกระแสข่าวผ่านวงเสวนาการเมืองต่าง ๆ ที่พูดคุยไปในแนวทางกันว่า นายกอบจ. สงขลา คนโต “กรมชลฯ ขนกันเอง”
ที่มา และตัวบุคคลในกระแสดังกล่าว นอกจาก “นายกไพเจนฯ ซึ่งเป็นอดีตรองอธิบดีกรมชลประทาน ที่มาเกษียณอายุราชการในตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว
ยังหมายรวมถึง “อธิบดีสุพิศ” หรือ นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ซึ่งมีชื่อเสียงมาจาการเติบโตในกรมชลประทาน จรถึงตำแหน่งรองอธิบดีฯ รวมถึงบทบาททางสังคมอื่น ๆ มากมาย ทั้งด้านกีฬาและการศึกษา
และอีกท่านหนึ่ง ที่ตกเป็นประเด็นข่าวในกระแสนี้เข่นกันคือ “อธิบดีประพิศ” หรือนายประพิตร จันทร์มา ที่เพิ่งเกษียณอายุราชการในตำแหน่ง และมาพัฒนาโครงการโคก หนอง นา ที่อำเภอระโนด บ้านเกิด รวมถึงเป็นที่ปรึกษาให้พรรคพวก และเครือญาติ
“คนอื่นผมไม่รู้ แต่ข่าวลือ กรมชลฯ ชนกันเองนั้น ไม่เกี่ยวกับผมแน่นอน”
อธิบดีประพิศ เปิดใจคุยกับ “สงขลาโฟกัส” พร้อมย้ำว่า ไม่มีเป้าหมายทางการเมือง และจะไม่ทำในสิ่งที่ไม่ใช่ความถนัด เรื่องนี้ คนในครอบครัวยังไม่รู้เลย แล้วคนภายนอกจะไปรู้ได้อย่างไร
“ลูกชายมาถามผมว่า ข้างนอกเขาคุยกันมากว่าพ่อจะไปลงการเมือง ผมบอกเขาต่อหน้าเพื่อน ๆ เขาจำนวนมาก โดยยืนยันว่า ที่ลือกันนั้น ไม่ใช่ผม และผมไม่ได้สนใจการเมือง”
อธิบดีประพิศ ยังกล่าวว่า ชีวิตหลังเกษียณมีความสุขกับการได้กลับมาดูแลครอบครัว พ่อแม่ ให้คำปรึกษาเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง ไปเยี่ยมเยือนตามโอกาสต่าง ๆ
ทั้งยังได้ทำโครงการโคก หนอง นา บนที่ดิน ที่บ้านเกิด อำเภอระโนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกต้นยางนา ที่เปรียบเสมือนการเล่นหุ้นที่เปรียบเสมือน “หุ้นขึ้น” เพราะมันเติบโตขึ้นทุกวัน