ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชน้ำตกปาโจ ในพื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส น้ำตกปาโจเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ของผืนป่าบูโด มีน้ำไหลตลอดปี ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันลือชื่อแห่งหนึ่งของ จ.นราธิวาส มีน้ำตลอดปี มีทางขึ้นไปสู่ต้นน้ำรวม 7 ชั้น นับว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดใน จ.นราธิวาส โดยทั้ง 7 ชั้น ชั้นแรกมีขนาดใหญ่และสวยที่สุด สายน้ำไหลตกจากลานผาหินกว้าง สูง 60 เมตร ลงสู่แอ่งน้ำใหญ่ ในช่วงฤดูฝนน้ำตกปาโจจะยิ่งสวยงามมาก สภาพป่า เป็นป่าดิบชื้นที่สมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้หลายชนิด เช่น กะลอ หลุมพอฯลฯ ตามพื้นป่ามีหวาย ปาล์ม หลากหลายชนิด สัตว์ที่พบเห็นง่ายได้แก่ ค่างแว่นถิ่นใต้ นกกาฝากท้องสีส้ม และผีเสื้อเป็นต้น นอกจากนี้ บริเวณป่าโดยรอบก็ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หายากนานาชนิด เช่น ชะนีมือดำ นกเงือกพันธุ์หายากที่ใกล้จะสูญพันธุ์ ได้แก่ นกเงือกหัวแรด และนกเงือกชนหิน ซึ่งในช่วงสายๆ ถ้าใครโชคดีมาเที่ยวน้ำตกปาโจ อาจจะพบเห็นนกเงือกบินโฉบเฉี่ยวไปมาเพื่อหาอาหารในบริเวณป่ารกทึบที่สมบูรณ์แห่งนี้ ซึ่งมีความสวยงามแตกต่างกันไป ในแต่ละชั้นจะมีกระแสน้ำไหลลัดเลาะมาตามก้อนหินเล็กใหญ่ และมีแอ่งน้ำขังขนาดใหญ่ให้ประชาชนได้เลือกเล่นน้ำตามใจชอบ
โดยช่วงนี้เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดนั้นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมไปก็คือน้ำตกปาโจ มีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวพาครอบครัวเดินทางมาหลบร้อน พักผ่อนเล่นน้ำตกปาโจเพื่อคลายร้อน และนั่งรับประทานอาหารกันอย่างคึกคัก ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากหลายพื้นที่ ทั้งในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงตลอดจนนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียพาครอบครัวเข้ามาเล่นน้ำเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะมาเป็นครอบครัว และหมู่คณะ โดยน้ำตกป่าโจแห่งนี้สามารถมาเล่นน้ำได้ทั้งเด็กเล็กๆ วัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนถึงผู้สูงอายุ เพราะที่แห่งนี้มีน้ำใสไหลเย็น ระดับน้ำไม่ลึก เด็กเล็กๆ สามารถลงเล่นน้ำได้ โดยมีผู้ปกครองคอยดูแลอย่างใกล้ชิด โดยในช่วงนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังส่งผลดีต่อธุรกิจการขายสามารถสร้างรายได้ให้กับพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่กว่า 1 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งหากนักท่องเที่ยวท่านใดที่จะมากางเต็นท์ค้างคืนก็สามารถประสานเจ้าหน้าที่อุทยาน โดยจะมีเจ้าหน้าที่อุทยานดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
นายสนธยา กาญจนะ พนักงานราชการหัวหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติบูโด สุไหงปาดี เผยว่าในช่วงนี้นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเข้ามาเที่ยวในอุทยานเป็นจำนวนมาก ต่อวันมากกว่า 1000 คน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งจะมีชาวมาเลเซียเข้ามาค่อนข้างเยอะมากกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา ซึ่งปกติแล้วทางอุทยานจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 8:30 – 4:30 เนื่องด้วยนักท่องเที่ยวได้เข้ามาใช้บริการ ค่อนข้างมากส่งผลให้มีรายได้มากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งสามารถสร้างรายได้ถึง 300,000 -500,000 บาท ในส่วนของอุทยาน ซึ่งในช่วงนี้คาดว่านักท่องเที่ยวจะเยอะทุกๆอุทยานในประเทศไทย ซึ่งอาจจะเป็นเพราะในช่วงนี้อยู่ในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองฮารีรายอและในช่วงปิดเทอมด้วย ก็ขอฝากประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยว ที่เข้ามาเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี นอกจากจะมาเที่ยวน้ำตกแล้วจะยังมีสัตว์ป่า อาทิเช่น ผีเสื้อที่ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ค่อนข้างที่จะชุกชุม ยิ่งในช่วงฤดูร้อนจะมีผีเสื้อเป็นจำนวนมากโบยบินให้เราดูอยู่ โดยทางเราจะมีเส้นทางดูผีเสื้อให้นักท่องเที่ยวทีาชื่นชอบ ซึ่งถ้าหากว่าสนใจในเรื่องของผีเสื้อก็สามารถเข้ามาติดต่อสอบถามข้อมูลที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวได้ตามเบอร์โทร 092-5206968 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะแนะนำให้ผู้ที่ชื่นชอบและสนใจได้เยี่ยมชม
