วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 นายธีะนันท์ วงศ์หล่อ ผู้แทนผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนสงขลาวิทยามูลนิธิ ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ได้ลงนามในประกาศโรงเรียนสงขลาวิทยามูลนิธิ เรื่อง มาตรการในการวางตัวเป็นกลางกรณีพิพาทระหว่างสมาคมฮกเกี้ยนสงขลากับศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา
ตามที่ทุกฝ่ายทราบกันดีว่า ในขณะนี้มีเหตุการณ์ปัญหาเกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างสมาคมฮกเกี้ยนสงขลา กับศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ทางโรงเรียนสงขลาวิทยามูลนิธิ มูลนิธิสงขลาวิทยามูลนิธิ และสมาคมศิษย์เก่าสงขลา วิทยามูลนิธิ ได้มีมติร่วมกันเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น
โรงเรียนสงขลาวิทยามูลนิธิ มูลนิธิสงขลาวิทยามูลนิธิ และสมาคมศิษย์เก่าสงขลาวิทยามูลนิธิ ขอให้คณะกรรมการ ผู้บริหาร ครู และบุคลากร วางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัด โดยไม่ส่งเสริม เอื้อประโยชน์สนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ในทางตรงและทางอ้อม ทั้งส่วนตัวและส่วนราชการทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๗
ทั้งนี้ โรงเรียนสงขลาวิทยามูลนิธิ ก่อตั้งขึ้นตามแนวคิดของชาวจีนที่มีพื้นฐานในอำเภอเมืองสงขลา เพื่อให้บุตรหลานของชาวจีนได้รับการศึกษา โดยมีชื่อว่า “โรงเรียนฮั่วเชียว” ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า “โรงเรียนชนจีนต่างด้าว” ในปีพุทธศักราช 2472 โรงเรียนเริ่มดำเนินการโดยใช้พื้นที่ของศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา เปิดสอนทั้งภาษาไทยและจีนในระดับประถมศึกษา โดยนายชีอึ่ง แซ่ซี เป็นผู้จัดการ และนายเภ็กซู้ สัตถานนท์ เป็นครูใหญ่
โรงเรียนเริ่มต้นด้วยนักเรียน 77 คน แบ่งเป็น 3 ชั้นเรียน และเพิ่มจำนวนนักเรียนขึ้นตามลำดับ จนถึงปีพุทธศักราช 2483 เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงเรียนจึงต้องปิดโดยชั่วคราว เช่นเดียวกับโรงเรียนอื่นๆ ในช่วงเวลานั้น
ในปีพุทธศักราช 2494 โรงเรียนได้เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนสงขลาวิทยามูลนิธิ” และได้รับการสนับสนุนจาก “มูลนิธิสงขลามูลนิธิ” โดยมีบุคคลด้านบริหารและครูที่มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการและสอนสอนที่เน้นการศึกษาืทั้งในด้านภาษาไทยและจีน
โดยสรุปแล้วเป็นการเล่าเรื่องราวของโรงเรียนที่มีความสำคัญในชุมชนชาวจีนในอำเภอเมืองสงขลาและมีบทบาทที่สำคัญในการส่งเสริมการศึกษาในพื้นที่นั้นด้วยวิสัยทัศน์ที่มีเชื่อมโยงกับสังคมและวัฒนธรรมในพื้นที่นั้นๆ และสืบทอดความเป็นไทย-จีนในชุมชนไปต่ออย่างมีความสำเร็จและยั่งยืนตลอดเวลา เชื่อว่าโรงเรียนนี้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการศึกษาและเสริมสร้างอัตลักษณ์ของชุมชนในพื้นที่นั้นๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยการศึกษาที่มีคุณภาพและวัฒนธรรมที่คงทนในยุคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว