Home » ข่าว » สมาคมผู้ประกอบหลีเป๊ะขอชะลอปิดรีสอร์ต-ให้คุยหาทางออก

สมาคมผู้ประกอบหลีเป๊ะขอชะลอปิดรีสอร์ต-ให้คุยหาทางออก

นายอมรินท์ ศาลากิจ เลขาธิการสมาคมการค้าผู้ประกอบการธุรกิจเกาะหลีเป๊ะ ระบุการสั่งรื้อ 8 รีสอร์ตโดยกรมอุทยานฯ ยังไม่กระทบการท่องเที่ยว พร้อม “ขออย่าเพิ่งบังคับใช้กฎหมาย” ให้ใช้รัฐศาสตร์ร่วม และ “เปิดใจคุย” เพื่อหาทางออก พร้อมผลักดันแก้กฎกระทรวง ย้ำปิดรีสอร์ตกระทบทุกธุรกิจ ทุกคน

“ตอนนี้ยังไม่กระทบต่อเกาะหลีเป๊ะมากนักเพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เข้าพักจองล่วงหน้าก่อนแล้ว ต่อให้มีข่าวออกมาก็ไม่มีผล” นายอมรินท์ ศาลากิจ เลขาธิการสมาคมการค้าผู้ประกอบการธุรกิจเกาะหลีเป๊ะ กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สั่งรื้อถอนรีสอร์ตบนเกาะหลีเป๊ะ 8 แห่ง เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ประกอบด้วย 1) หลีเป๊ะ ซันเซต ฟอเรส รีสอร์ท, 2) หลีเป๊ะ ซันเซต บีช รีสอร์ท, 3) สไมล์ & บาร์ หลีเป๊ะ, 4ลองเบย์ หลีเป๊ะ บังกะโล 5.) เอสรา ไพรเวท บีช รีสอร์ท, 6) สวรรค์ รีสอร์ท, 7) รายา รีสอร์ท และ 8) เดอะฮัท รีสอร์ท และว่า

ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ อาจจะเสียหายเพราะอาจจะมีคนที่ไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร อาจจะมีการเข้าใจผิดว่า สร้างรีสอร์ทในพื้นที่ป่าอุทยาน

“ประเด็นการรื้อถอนอาคารสำคัญมากสำหรับตอนนี้ คณะทำงานของบิ๊กโจ๊ก(พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.) เข้ามาแก้ไขปัญหาที่ดิน เเต่เข้ามาตรวจสอบเรื่องอื่นด้วย จนเรื่องบานปลาย จนกระทั่งรื้อถอนปิดรีสอร์ท โรงแรม เป็นการทำลายระบบการท่องเที่ยวอย่างเต็มระบบ เพราะโรงแรมและรีสอร์ทเป็นจุดแรกที่นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ ส่วนระบบขนส่ง รถ เรือ ร้านอาหาร ร้านค้า ไกด์นำเที่ยว คือส่วนที่เกี่ยวข้อง ถ้าโรงแรมรีสอร์ทถูกปิด ธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องจะถูกปิดตามไปด้วย”

นายอมรินท์ กล่าวต่อว่า การปิดเกาะหลีเป๊ะเป็นการทำลายระบบการท่องเที่ยวของหลีเป๊ะทั้งระบบ ส่งผลให้ภาพรวมทั้งประเทศ เพราะเกาะหลีเป๊ะคือจุดหมายสำคัญของทั้งท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ

ที่ผ่านมา สมาคมฯ รับรู้ปัญหาตั้งเเต่เริ่มต้นมาโดยข้อพิพาทที่ดินเป็นเรื่องละเอียดอ่อน การเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าโดยไม่คัดกรองไม่มีความรอบคอบจะสร้างความสูญเสียมากกว่าแก้ปัญหา

“สมาคมฯได้ปรึกษาเจ้าของที่ดินและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องว่า จะมีทางออกอย่างไรบ้าง ที่จะทำให้การพิพาทเบาบางลง”

เเต่ด้วยปัญหาที่ดิน ซึ่งไม่มีใครยอมใคร จึงยังหาทางตกลงลงไม่ได้ ทางสมาคมฯ ได้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางร่วมปรึกษาหารือในการแก้ปันหาข้อพิพาทเบื้องต้นก่อน เเต่ในเมื่อปัญหาบานปลาย ถึงจะมีการตรวจสอบอาคารโรงแรม สมาคมฯมีบทบาทในการประสานกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องทุกช่องทาง เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องรับทราบปัญหา ขอให้ช่วยทุเลาการบังคับใช้กฎหมายแบบเข้มข้นก่อน ด้วยเหตุที่ทุกโรงแรมบนเกาะหลีเป๊ะไม่มีใบอนุญาต

“กฎกระทรวงฉบับที่ 35 พ.ฯ. 2535 ระบุไว้ชัดเจนสิ่งปลูกสร้างบนเกาะหลีเป๊ะเป็นเพียงที่พักอาศัย ทำเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ค่อนข้างล้าสมัย เกาะหลีเป็นเกาะเดียวที่ทำโรงแรมไม่ได้ ทั้งที่มีเอกสารสิทธิที่ดิน”

นายอมรินท์ มองว่า การแก้ปัญหาถ้าระยะสั้น อยากให้ชะลอการบังคับใช้กฎหมายไปก่อน “เราจะพูดคุยกันทุกภาคส่วน” ส่วนระยะกลาง อยากให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องช่วยผลักดันการแก้กฎกระทรวง ฉบับที่ 35 ให้โรงแรมสามารถเปิดดำเนินการได้

สำหรับการแก้ปัญหาระยะยาว ควรตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ไขปัญหาข้อพิพาทต่างบนเกาะ ทั้งจากผู้ประกอบการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง คู่กรณีหรือเอกชนบางรายที่มีข้อพิพาท ร่วมกันแก้ไขปัญหาภายใต้หลักการที่ทุกฝ่ายพูดข้อเท็จจริง ร่วมกันแก้ไขบนหลักนิติศาสตร์ ร่วมกับหลักรัฐศาสตร์

“ใช้การพูดคุย ให้ทุกฝ่ายถ้าเห็นตรงกัน ทุกอย่างจะจบ”

นายอมรินท์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของชาวเกาะหลีเป๊ะ เมื่อก่อนอาศัยอยู่กันแบบเป็นมิตร พึ่งพาอาศัยกัน เเต่ปัจจุบันอาจจะแบ่งเเยกกัน จึงอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาพูดคุยกัน เพื่อร่วมกันพัฒนาเกาะหลีเป๊ะเพื่อประโยชน์สุขของทุกฝ่าย

สุดท้ายอยากเชิญชวนทุกคนมาเที่ยวเกาะหลีเป๊ะกันเยอะ เกาะสวย เที่ยวสนุก ปลอดภัย หากมีปัญหาอะไรทางสมาคมจะเป็นตัวกลางแก้ปัญหาติดขัดต่างๆให้นักท่องเที่ยว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *