คอลัมน์ PSU Alumni Talk โดย สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ฉบับนี้ แวะมาคุยกับ “เสี่ยเนียง” วรวิทย์ พงษ์จีน ประธานกรรมการ NEO GROUP ศิษย์เก่าดีเด่น ม.อ. ด้านประสบความ สำเร็จในหน้าที่การงานและอาชีพ จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ รหัส 32 (Neer 23)
“ผมเกิดและเติบโตที่ควนเนียง เรียนประถมที่ควนเนียง และมาต่อมัธยมที่โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย หรือ ญว. จากนั้น เข้ามหาวิทยาลัยที่ ม.อ. เลือกเอ็นตรงคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกลด้วยเชื่อว่าจะทำงานได้หลายประเภท และกำลังมาแรงในขณะนั้น”
ที่เลือกเรียนวิศวะ คณะเดียวเท่านั้น เพราะเป็นสิ่งที่ชอบ เราชอบคิดทำอะไรด้วยตนเองอยู่แล้ว มองว่าสามารถตอบโจทย์เราได้
4 ปีในรั้วมหาวิทยาลัย นอกจากเรียนแล้วยังทำกิจกรรมมากมาย ตั้งแต่ปี 1 ถูกทาบทามให้ช่วยงาน
กิจกรรม ม.อ.เทคโนโลยี ซึ่งเป็นงานใหญ่ และยังช่วยหารายได้เข้าโครงการ รู้สีึกสนุก ได้เรียนรู้การทำงานตั้งแต่ยังเรียน และยังทำกิจกรรมมาตลอด
“ผมเรียนไปด้วยทำกิจกรรมไปด้วย จบในอันดับต้น ๆ ของภาควิชาในขณะนั้น” หลังเรียนจบ ด้วยภาระที่ต้องดูแลน้อง ๆ ที่กำลังเรียน จึงเลือกทำงานในหาดใหญ่ที่บริษัท อีซูซุ หาดใหญ่ จำกัด ด้านศูนย์บริการ 2 ปี จากนั้น อยาก ทำงานที่ท้าทาย จึงได้มาทำที่บริษัท เซฟสกิน คอร์ ปอเรชั่น จำกัด ด้านเครื่องกลทุกระบบ ได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่อย่างเต็มที่ ควบคู่กับการศึกษาต่อ
ด้าน MBA ที่คณะวิทยาการจัดการ ม.อ. รุ่น 7 เพราะ คิดว่า ยังขาดทักษะการบริหาร
“เรามีทักษะ Hard skill แล้ว แต่ยังขาดในส่วน Soft skill เช่น การจัดการ การบัญชี การเงิน จึงได้เข้าไปเรียนรู้ด้านนี้เพิ่ม”
ด้วยประสบการณ์ด้านโรงงานทุกระบบ ทั้งด้าน เครื่องกล การผลิต ระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งได้ทำให้หลายโรงงาน เพื่อน ๆ ได้ชักชวนมาร่วมกันก่อตั้ง บริษัทรับเหมาก่อสร้าง จึงตัดสินใจลาออกจากบริษัท เซฟสกินฯ มาทำธุรกิจอย่างเต็มตัว ในปี 2539 และผ่านวิกฤติ 2540 “ยุคฟองสบู่แตก” มาได้ เพราะขณะนั้น โรงงานที่ส่งออกผลประกอบการดี และมีงานให้ทำต่อเนื่อง
“ผมโชคดีที่ตัดสินใจเรียน MBA ม.อ.ได้ความรู้ทักษะการบริหารจัดการหลายด้าน โดยเฉพาะการบัญชี การเงิน เพราะธุรกิจก่อสร้าง เกิดง่ายตายเร็วเช่นกัน ดังนั้น การที่จะให้อยู่อย่างยั่งยืน เราต้องมีการ
จัดการที่ดี จะช่วยได้มาก” เสี่ยเนียง กล่าว และว่า
NEO GROUP เราเลือกที่จะทำงานออกแบบรับเหมาก่อสร้าง เฉพาะโรงงานและคลังสินค้าเป็นหลัก ในส่วนที่เราไม่ถนัดก็จะอดทนรอไปก่อน เน้นสิ่ง ที่เรามีความสามารถและถนัด ที่สำคัญเราไม่เอาเปรียบใคร ดังคำสอนของพระราชบิดา “ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง” เรากำหนดพันธกิจขององค์กรอย่างชัดเจนที่ว่า “เราคือผู้นำด้านธุกิจก่อนสร้าง ด้วยโครงสร้างเหล็กสำเร็จรูป สร้างอาคารทุกรูปแบบ ตามความต้องการของลูกค้าในราคาที่เหมาะสม ส่งมอบงานที่มีคุณภาพ ตรงต่อเวลา ปลอดภัย ตรวจสอบได้ทำงานด้วยความซื่อสัตย์และรักษาความลับของลูกค้า”
สิ่งเหล่านี้ทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่น และใข้บริการกับเราต่อเนื่อง จนถึงวันนี้บริษัทใกล้เข้าสู่ปีที่ 30 ปี
“นิยามของความสำเร็จของผมคือ การประสบผลสำเร็จตามเป้าประสงค์ที่เราตั้งไว้”
เราประสบความสำเร็จในทุกระยะ เดิมเราเช่าบ้านเป็นออฟฟิศที่ 1 จนกระทั่งสร้างเป็นออฟฟิศที่ 3 จนสร้างเป็นออฟฟิศที่ 4 ในปัจจุบัน มีพัฒนาการของความสำเร็จมาเรื่อย ๆ ไม่ได้โตอย่างรวดเร็ว การที่เราทำธุรกิจอยากให้ทุกคนในองค์กรอยู่ร่วมกัน มีสถานที่ทำงานที่สะดวกสบาย ทำงานด้วยความเป็นกันเอง จึงลงทุนสร้างอาคารสำนักงานที่มีความพร้อม เพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการทำงาน
ปัจจุบัน NEO GROUP มีธุรกิจในเครือหลายบริษัท ทั้ง NEO PALM ธุรกิจการเกษตร (ปาล์มน้ำมัน)
มีสวนปาล์มกว่า 1,500 ไร่ ที่อำเภอระโนด, NEO BUILDING ธุรกิจให้เช่าคลังสินค้า เริ่มในปี 2564 ซึ่งมีในทุกภูมิภาค รวมพื้นที่ประมาณ 200,000 ตร.ม. ขณะที่ “เสี่ยเนียง” นอกจากความสำเร็จในธุรกิจแล้ว ยังทำงานสังคมหลากหลายบทบาท อาทิ รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา(ปี 2567-69). ประธานภูมิภาคไลออนส์ 310B และอดีตกรรมการสมาคมศิษย์เก่า ม.อ. (ปี 2564-66)
แตกไลน์ธุรกิจ
เสี่ยเนียง มองจังหวัดสงขลาว่า เป็นศูนย์กลางของ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง การขนส่งสินค้าต้องมีศูนย์การกระจายสินค้าไปยังพื้นที่ต่าง ๆ เราจึงให้บริการคลังสินค้าในหลายพื้นที่รวมแล้วเกือบ 1 แสนตารางเมตร ทั้งในหาดใหญ่ สงขลา สุราษฎร์ธานี พิษณุโลก และมีในเชียงใหม่ด้วย ถือเป็นบทบาทใหม่ของ NEO จากธุรกิจรัยเหมาก่อสร้างอาคารโรงงาน สู่ผู้ประกอบการให้เช่าพื้นที่สำหรับประกอบกิจการด้านนี้ และเติบโตอย่างรวดเร็ว NEO ที่กำลังก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 กำลังมองหาผู้บริหารยุคใหม่เข้ามาบริหารจัดการ จะสร้างกำลังคน
ที่มีคุณภาพเพื่อต่ออดจุดแข็ง สร้างโอกาสใหม่ ๆ
“การทำอะไรก็แล้วแต่ เราไม่สามารถทำทุกอย่างให้ดีได้ แต่เราสามารถพัฒนาสิ่งที่เราทำดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เป็นสิ่งที่ง่ายกว่า”
ปัจจุบัน การทำธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถ้าเราไม่ปรับตัวอาจทำให้ธุรกิจล้มหายตายจากไปได้ ดังนั้น การก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 เป็นเรื่องของการปรับตัวให้ Smart เข้ากับโลกเทคโนโลยี ที่มีการแข่งขันกันเอง และแข่งขันกับ AI
ในช่วงวิกฤติโควิด-19 เราโชคดีที่ทำธุรกิจกับโรงงาน โดยเฉพาะโรงงานถุงมือที่มีการขยับขยายเกือบทุกแห่ง ถือเป็นโอกาสทองของเรา และรักษามาตรฐานที่ดี แต่หลังโควิดธุรกิจก่อสร้างซบเซา โชคดี
ที่เรามีหลายธุรกิจ ทั้งคลังสินค้าและธุรกิจเกษตรสามารถประคับประคองไปได้
“ปัจจุบันเราจะเรียนรู้การทำงานของเราเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องรอบรู้ในหลายด้าน ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ”
เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
เสี่ยเนียง มองว่า การพัฒนาหาดใหญ่ สงขลา ซึ่งตนมีโอกาสเดินทางไปทำงานในหลายจังหวัดทั่วประเทศ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของสงขลายังน้อยเกินไป แต่จังหวัดที่เล็กกว่าในภาคอื่น ๆ เขามีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนวงแหวน เป็นเรื่องของภาครัฐที่เอกชนยังทำไม่ได้
หาดใหญ่โชคดีที่มีนักท่องเที่ยวมาเลเซีย มีสถาบันการศึกษา แต่ยังไม่ขยาย Facility หรือสิ่งอำนวยความสะดวก สาธารณูปโภคต่าง ๆ
ภาคใต้ในภาพรวม ก็เช่นกันมีศักยภาพมาก แต่ยังไม่สามารถขยาย Facility เช่น การส่งออก ท่าเรือน้ำลึกสงขลา ก็เป็นรองที่ปีนัง
สนับสนุนม.อ.-พัฒนาบ้านเกิด
เสี่ยเนียง กล่าวถีงม.อ. ว่าเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของประเทศ ถือเป็นจุดขายของภาคใต้
ซึ่งมีทรัพยากรที่มีคุณค่ามาก นั่นคือ บุคลากรตั้งต้น
แต่พวกเขาเลือกที่จะออกไปเรียนรู้ต่อยอดที่อื่นมาก
กว่า หลังจากนั้น บุคลากรเหล่านี้ก็ไปตั้งถิ่นฐานที่อื่นมากกว่ามาตั้งรกรากอยู่ที่บ้านเกิด
หาก ม.อ.ทำให้บุคลากรที่มีคุณค่าเหล่านี้มาต่อยอด มาพัฒนาเรียนรู้ลงหลักปักฐานที่บ้านเกิดได้ เราจะเกิดการพัฒนาที่ดีได้ รวมถึงเราต้องหาจุดขาย
ใหม่ๆ และต้องมีบุคลากรที่มีความพร้อม ทำให้เกิดโอกาสอีกมากมายที่เข้ามา
“ผมภูมิใจที่เกิด เติบโต เรียน และทำงานที่สงขลา ผมสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับที่นี่ ผมจะสนับสนุน ม.อ. แบบนี้ต่อไป และอยากให้เพิ่มทักษะที่จะดึงบุคลากรที่มีคุณค่ามาทำงานที่บ้านเกิด มาช่วยกันพัฒนาสงขลา ทำให้ก้าวสู่มหาวิทยาลัยที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป” เสี่ยเนียง กล่าว