“ประธานจ๊อส” แสดงวิสัยทัศน์บริหารหอการค้าจังหวัดสงขลา สานต่อ 7 ด้าน เชื่อมต่อ 19 องค์กร-ร่วมภาครัฐและเอกชน ดึงสมาชิกเข้าถึงข้อมูล-โอกาสทางธุรกิจ เติบโตไปด้วยกัน “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
8 มีนาคม 2566 ณ โรงแรมบุรีศรีภู คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ หาดใหญ่ หอการค้าจังหวัดสงขลา จัดประชุมใหญ่สามัญสมาชิก ประจำปี 2566 และเลือกตั้งคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดสงขลา ปีบริหาร 2566-2567 (สมัยที่ 20) และประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา โดย นายธนวัตน์ พูนศิลป์ เสนอชื่อและคณะกรรมการฯได้ให้การรับรอง นายทรงพล จังศิริวัฒนธำรง หรือ “เสี่ยจ๊อส” รองประธานฯ ดำรงตำแหน่งประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา ปีบริหาร 2566-2567
ขณะที่ นายกวิศพงษ์ สิริธนนนท์สกุล ประธานที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดสงขลา ได้เสนอรายชื่อคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดสงขลา ปีบริหาร 2566-2567 จำนวน 46 คน เพิ่มขึ้นจากคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดสงขลา ปีบริหาร 2564-2565 ที่มีจำนวน 42 คน
“ประธานจ๊อส” ได้แสดงวิสัยทัศน์ในการบริหารหอการค้าจังหวัดสงขลาว่า เราเป็นสถาบันหลักของภาคเอกชนที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจทุกมิติภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจ BCG โมเดล หรือการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy Model) ด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมให้ภาคธุรกิจ รวมทั้งส่งเสริมการค้าการลงทุนและกิจกรรมทางเศรษฐกิจทุกอย่างที่ให้กับจังหวัดสงขลาเชื่อมต่อทั้งโอกาสและความร่วมมือ ทั้งภาครัฐและเอกชนสู่การเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน
ถามว่าหอการค้าจังหวัดสงขลาทำไมต้องมาขับเคลื่อน BCG โมเดล โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัว เพราะการทำการค้าเราจะทำเรื่องนี้ได้อย่างไร “อยากจะบอกว่า ทุกวันนี้ถ้า
เราสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นกับโลกใบนี้ในระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทุกอย่างเกิดอะไร คือเราสร้างมลภาวะจากการบริโภคเกินการผลิตที่เกินปริมาณแล้วก็ไม่ได้วางแผนว่าของที่ผลิตไว้สุดท้ายสิ้นสุดแล้วไม่เกิดของเสียที่ตรงไหนก็จะหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ยังไง”
เกิดของเสียต่าง ๆ ขึ้นมากมายในโลกใบนี้ จากอาหาร จากพลาสติก วันนี้ประเทศไทยเป็นอันดับ 6 ขยะลงทะเลมากที่สุดในโลก ติดอันดับ 6 ของเสียจากอาหาร ทุกคนสร้างมลภาวะจากการใช้ กินอาหารและทิ้งลงไป แล้วไม่สามารถคัดแยกได้ เพราะปนเปื้อนถุงพลาสติก ทุกคนคนละหนึ่งกิโลกรัมกว่าบาทต่อวัน วันหนึ่งประเทศไทยรับของเสีย 73,000 ตัน
ตัวเลขพวกนี้ รวมทั้งการที่เราปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศต่าง ๆ สิ่งที่เกิดขึ้น คือโลกเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนกลับมากระทบสิ่งแวดล้อมเกิดผลกระทบต่อธุรกิจทางอ้อม ฟ้าฝนไม่เป็นไปตามฤดูกาล พืชผลทางการเกษตรคาดหวังไม่ได้ น้ำท่วม
ในพื้นที่ ๆ ไม่เคยท่วม ภาคธุรกิจก็ได้รับผลกระทบ “นี่คือความเสี่ยงอันนึงในการดำเนินธุรกิจที่เราควรต้องบริหารจัดการ” ประธานจ๊อส กล่าว และว่า
ถ้าเอกชนอย่างหอการค้าตื่นตัว เราผลักดันให้ทุกภาคส่วนธุรกิจเห็นด้วยและขับเคลื่อนไปด้วยกัน มาให้สงขลาเป็นเมืองที่น่าอยู่ เป็นเมืองธุรกิจสีเขียว เป็นเมืองที่มีการรณรงค์การคัดแยกขยะที่ถูกต้อง เปลี่ยนจากการดำเนินการธุรกิจที่มีต้นทุนสูงสิ้นเปลือง แต่มองให้เป็นโอกาสในการสร้างคุณค่าให้จังหวัดเดินไปสู่สิ่งใหม่ ๆ พร้อมกับเรื่องอื่น ๆ ที่เราจะต้องเชื่อมต่อการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว
“นี่ประเด็นสำคัญ บทบาทหลักของหอการค้าคือเรื่องนี้”
ประธานจ๊อส กล่าวต่อว่า สมัยท่านประธานธนวัตน์ พูนศิลป์ ทำไว้ดีมาก เรื่องการเชื่อมโยง 19 องค์กร โดยหอการค้าเป็นแกนกลาง ตรงนี้ ในสมัย
ต่อจากนี้เราจะต้องทำหน้าที่ Connect the dot ทำทุกอย่างให้เชื่อมต่อกัน เชื่อมโอกาส ๆ ที่คนได้รับรู้ข้อมูลทางธุรกิจ โอกาสนี้ควรจะไปถึงสมาชิกหอการค้า ไม่แค่คณะกรรมการ หรือคนที่ทำงาน แต่ไปถึงสมาชิก ให้เข้าถึงข้อมูล เข้าถึงโอกาสต่าง ๆ ในทางธุรกิจ ซึ่งส่วนนี้เราสามารถเชื่อมต่อโอกาส เชื่อมต่อความร่วมมือภาครัฐ ภาคเอกชน ทำงานในกรอบทิศทางเดียวกัน
“เรื่องนี้ท่านประธาน ธนวัตน์ ได้ทำมาโดยตลอด เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในการทำงานของหอการค้า และเป็นทิศทางที่ดีแล้ว เราจะต้องทำต่อไป ที่เป็นรูปธรรม”
และนำมาซึ่งภารกิจทั้ง 7 ด้านที่จะดำเนินการ
1. ด้านการพัฒนาองค์กร หอการค้าจะส่งเสริมงานพัฒนาองค์กรหอการค้าให้เป็นองค์กรที่ทันสมัย มีการบริหารข้อมูลข่าวสารทางเศรษฐกิจเป็นประโยขน์ต่อสมาชิกและธุรกิจทุกภาคส่วน รวมทั้งสร้างมาตรฐานการทำงานให้หอการค้าเป็นที่อำนวยความสะดวกให้คนมาติดต่อภายนอกองค์กรมีความสะดวก และลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็นลง “หอการค้าต้องทำเป็นตัวอย่างให้ดูว่า เราทำได้”
2. ด้านการขับเคลื่อน BCG โมเดล อย่างที่ได้ยกตัวอย่างว่า BCG โมเดล ได้เข้ามามีบทบาทกับเราได้ทั้งทางตรง ทางอ้อม อยากให้สงขลาเป็นจังหวัดแรกที่ริเริ่มทำด้านนี้ โดยภาคเอกชนขับเคลื่อนให้เกิดการเริ่มต้นขึ้นมา “การทำ BCG เป็นเรื่องยาว ประเทศต่าง ๆ ที่ประสบความสำเร็จในโลกนี้ อย่างเนเธอร์แลนด์ มีฟินแลนด์ ญี่ปุ่น ที่พอจะทำด้านนี้เห็น มันเป็นหนังยาวที่รัฐบาลต้องให้การส่งเสริม เราอาจจะต้องมีความร่วมมือกับภาคมหาวิทยาลัยกับภาคธนาคารเพื่อส่งเสริมจูงใจให้คนเข้ามาตรงนี้”
จริง ๆ แล้วหอการค้าเราก็สามารถเริ่มได้ด้วยภาคการค้า การบริการ ถ้าสมมุติเราเริ่มการคัดแยกขยะ จัดการบริหารขยะให้เป็นรูปธรรม สมมุติสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา มีการรวมได้ว่าขยะจากการก่อสร้างสิ่งไหนที่เป็นรีไซเคิลได้ เราแยกแยะ
และรวมวอลุ่ม ทำเป็นกระบวนการในการหาคนที่มาซื้อเศษพวกนี้ต่อ เปิดประมูลให้ได้ราคาที่ดีที่สุด เพื่อให้เขาสามารถแยกไปกำจัดได้ถูกวิธี ไม่ต้องไปต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างทิ้ง แล้วบางคนไม่มีวิธีจัดการที่ดีก็ทิ้ง
“ผมว่าเราอาจจะทำอะไรในวิธีแบบนี้ได้”ฉะนั้น BCG โมเดล เราอยากเริ่มต้นในยุคนี้ และ หลังจากนั้นต่อยอดขึ้นไป เพราะมันไม่ใช่ทำได้ในระยะสั้น ๆ แต่เราจะทำโครงการริเริ่มขึ้นมาแล้วก็อยากให้สงขลาเป็นต้นแบบด้าน BCG
3. ด้านฝ่ายพัฒนาเศรษฐกิจ เสริมสร้างให้จังหวัดสงขลารวบรวมข้อมูลสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นข้อมูลทางด้านการค้า การลงทุน ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน เพื่ออะไร เพราะบางทีนักลงทุนที่เข้ามาจากต่างประเทศเข้ามาหาโอกาสในสงขลา เช่น วันก่อนมีกลุ่มนักลงทุนจากปีนังเข้ามา อยากมาลงทุนด้านอุตสาหกรรม เขาถามว่า หอาการค้าพอจะมีข้อมูลทางด้านนี้มั๊ย ซึ่งจริง ๆ เราก็มี แต่ไม่ได้รวมรวมไว้เป็นข้อมูลดี ๆ ที่สามารถเผยแพร่ได้เป็นลักษณะที่ให้เขามองเห็นโอกาสว่า จังหวัดเรามีอะไรดี ไลฟ์สไตล์คนเราเป็นยังไง
ยกตัวอย่าง กรณี “พุ่งใต้เฟส“ ที่เขามาจัดที่หาดใหญ่ ตอนนั้นน้องชายผมยังอยู่แกรมมี่ เขาเป็นคนทำวิจัยตลาด ผมดูรีพอร์ตที่เขาทำออกมาน่าสนใจมาก เขาวิเคราะห์ว่าช่วงเดือนนั้นต้องจัดเพราะอะไร
ก็เพราะนักศึกษาปิดเทอม คนหาดใหญ่อยากไปบิ๊กเมาน์เท่นเฟส แต่ไม่มีโอกาสได้ไป เพราะการเดินทาง ภาระมีเยอะ แต่เขาอยากไปงานเฟส แบบนี้เขาวิเคราะห์ถึงไลฟ์สไตล์ พฤติกรรมคนในจังหวัด จากการไปสัมภาษณ์ ไปคุยร้านค้า คุยกับกลุ่มต่าง ๆ
ออกมาเป็นรูปแบบ ไปนำเสนอทีมบริหารแกรมมี่เพื่อดึงให้พุ่งใต้เฟสมาที่หาดใหญ่
“ตอนนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าหาดใหญ่ทำได้ สุดท้ายเขาเห็นรายงานตรงนี้แล้ว เขาเชื่อ เขาก็ลง เลือกมาปักหมุดคอนเสิร์ตอีเวนต์ที่หาดใหญ่ ถ้าบิ๊กอีเวนต์มาเกิดขึ้นแบบนี้ได้ ถ้าเรามีแหล่งข้อมูลที่ดีมาจูงใจได้ หอการค้าน่าจะเป็นหน่วยงานที่จะทำข้อมูลพวกนี้ขึ้นมา เพื่อจะจูงใจการค้าการลงทุนให้คนที่จะมาจากต่างชาติ คนที่จะมาจากส่วนกลางจังหวัดอื่น ๆ ที่เขาพร้อมจะขยายธุรกิจเขา ทำให้เขาเห็นโอกาสว่ามาที่นี่แล้วดียังไง ผมคิดว่าส่วนนี้เราสามารถซัพพอร์ตได้”
รวมทั้งกิจกรรมส่งเสริมด้านไมซ์ ทุกวันนี้ในกลุ่มไมซ์ ต้องมีการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม ทั้ง ม.อ. ทีเส็บ เอสเส็บ ขับเคลื่อนได้ดีมาก ซึ่งไมซ์ก็เป็นอีเว้นท์ที่เราต้องส่งเสริมต่อไป เพราะการประชุมสัมมนาสร้างเศรษฐกิจเม็ดเงินมหาศาลให้กับจังหวัดเรา รวมทั้งการผลักดันด้านสมาร์ทซิตี้ที่ตอนนี้ถูกบรรจุในแผนพัฒนา “สมาร์ทซิตี้ ที่หาดใหญ่ก็ได้รับรางวัลธุรกิจสีเขียว จุดนี้จริง ๆ ถ้าเราทำดี ๆ หาดใหญ่น่าจะชูจุดขายด้านนี้ ชัดเจนเป็นรูปธรรมได้”
4. ด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวและกีฬา ก็ส่งเสริมให้พัฒนาให้สงขลาทำกิจกรรมการท่องเที่ยว ที่มีการใช้ท่องเที่ยวสร้างสรรค์ คือใช้อัตลักษณ์ใช้ความเป็นเอกลักษณ์ของคนสงขลาหรือวัฒนธรรมท้องถิ่นมาดึงดูดให้คนเข้ามา แล้วมาศึกษามาเรียนรู้ “จริง ๆ ส่วนนี้ผมว่าอำเภอรอบนอกของจังหวัดสงขลา น่าจะมีศักยภาพด้านนี้ ส่วนในหาดใหญ่ในสงขลาเองจริง ๆ เราก็ผลักดันให้เราเป็นเมืองท่องเที่ยวสร้างสรรค์ อย่างเช่น งาน Hello Hatyai ที่จัดครั้งก่อนที่ร่วมกับหาดใหญ่ฮาร์ทเซล เป็นงานที่สร้างมิติใหม่ ๆ ที่คนเกิดการรับรู้ว่าหาดใหญ่เราจัดงานอะไรที่สร้างสรรค์ขึ้นมาแล้วน่าสนใจ ดึงคนให้มาได้”ตรงนี้ต้องขอขอบคุณทีมที่ผลักดันด้านนี้ ทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว และทีมหอการค้าทุกท่านที่ช่วยกันผลักดันงานด้านนี้ ในปีบริหารที่ผ่านมา งานอีเว้นท์ทางด้านนี้ดีมาก ๆ ในสงขลา “จากคลิปที่บอกหาดใหญ่ตายแล้ว ด้วยความร่วมมือของหอการค้าและหน่วยงานอื่น ๆ ก็ทำให้หาดใหญ่ฟื้นขึ้นมาอย่างที่เราเป็นอยู่ตอนนี้”รวมทั้ง การที่หาดใหญ่ได้รับเป็นสปอร์ตซิตี้ เราก็ควรจะจัดให้มีการกีฬาที่ดี ๆ ที่มีงานกีฬาใหญ่ ๆ ที่คนเขาเป็นแฟนคลับกับกีฬาพวกนี้ติดตามลงมาที่นี่ “ทุกวันนี้ก็มีหน่วยงานที่จัดงานวิ่งอะไรต่างๆ งานกีฬา งานจักรยาน ก็ต้องส่งเสริมด้านนี้ต่อ”
5. ด้านพัฒนาเศรษฐกิจมิติใหม่ ก็สอดคล้องกับที่ประธานธนวัตน์บอก อย่างที่ในหลาย ๆ กลุ่มของจังหวัดสงขลาเราที่ขับเคลื่อนอยู่ คือด้านการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นโอกาสของคนจังหวัดสงขลา เพราะเรามีความพร้อม ทั้งการแพทย์ แล้วก็ด้านสุขภาพ เช่น การนวด สปา ถ้าเราขับเคลื่อนเพิ่มเติม เป็นการเยียวยาทั้งกายและใจ ตรงนี้ต้องไปต่อยอดกันว่าทำยังไงให้เขามาแล้วรู้สึกว่าใจเขาก็สงบหรือได้ฟื้นฟูจิตใจกลับไปด้วย “ถ้าเราทำได้ทั้งการแพทย์ สุขภาพ เยียวยาจิตใจ ก็อาจจะได้พัฒนากลุ่มใหม่ ๆ ขึ้นมาที่น่าสนใจรวมถึงเศรษฐกิจมิติใหม่ที่อาจจะเป็นด้านอาหารในอนาคต ด้านต่าง ๆ ที่เราควรจะต้องผลักดันไปในอนาคตที่มีมิติการกินอาหาร ที่ตอบโจทย์ด้านต่างๆ การเอาวิทยาศาสตร์ เอานวัตกรรมมาใช้ เพื่อให้เกิดการต่อยอดสร้างมูลค่าตรงนี้ขึ้นมา”
6. ด้านเทคโนโลยีดิจิตอลและนวัตกรรม ตรงนี้เป็นเรื่องที่หอการค้าน่าจะส่งเสริมผลักดัน ในการที่เราเปลี่ยนจากทำมากได้น้อย ให้เป็นทำน้อยได้มาก ด้วยการเอาเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพราะทุกวันนี้ถ้ามองในระดับโลกทุกคนเขาลดคนกันหมดแล้ว มี AI มาทดแทน มีอะไรต่างๆ มาทดแทน “การเกิดของ ChatGPT ยังสร้างความสั่นสะเทือนต่อโลก หลายคนกลัวจะตกงานแล้วว่าแต่มี AI ที่เป็น ChatGPT มาทำงานแทน” “ในส่วนนี้ ผมได้เชิญคณะกรรมการที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ พรรัตภูมิฟาร์ม เค้าเป็นฟาร์มไข่ไก่อัจฉริยะที่สามารถเลี้ยงไก่ 35,000 ตัวให้ออกไข่โดยเป็นมาตรฐานการเลี้ยงที่ได้รับสวัสดิการของแม่ไก่ระดับยุโรป โดยที่ใช้คนหนึ่งคนควบคุมด้วยระบบ IOT ทั้งโรง” ด้านการเกษตรต่าง ๆ เราควรจะต่อยอดที่เอาความรู้ เอานวัตกรรม เอาเทคโนโลยีมาส่งเสริมให้เกิดการผลิต “ผลิตน้อย แต่ใช้เทคโนโลยีเยอะ แล้วก็ให้ผลลัพธ์ออกมาเยอะแทน แทนที่จะผลิตมากๆ สูญเสียมาก ๆ แล้วก็เสียหายมากๆ เพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ ตรงนี้ก็จะเป็นการส่งเสริมผลักดันให้กับภาคธุรกิจได้รับรู้ตื่นตัวกัน”
7. ด้านสุดท้าย เป็นฝ่ายพัฒนาการศึกษาสังคมและสาธารณสุข เราจะเติบโตโดยที่เราไม่สนใจคนรอบข้าง ก็คงเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้น ในส่วนนี้เราต้องมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย ให้มาเชื่อมโยงข้อมูล ทำวิจัยให้เกิดผลประโยชน์ ในการตอบแทนสังคมตามบริบทที่เหมาะสม ในบทบาทของหอการค้า แล้วก็ส่งเสริมการทำธุรกิจแบบบรรษัทภิบาล ทำด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีจริยธรรม
“เราเป็นตัวอย่างของภาคเอกชนที่สามารถเป็นตัวแทนด้านแบบนี้ได้ และอยากให้ทุกคนผลักดันให้เราเติบโต โดยที่เราไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง สิ่งแวดล้อมก็ไม่ถูกเบียดเบียนมาก จนเกิดความกระทบเสียหาย” “นั่นคือวิสัยทัศน์ที่ผมวางไว้ในการทำงาน” ประธานจ๊อส กล่าว
