ชาวบ้านแม่เตย ต.ท่าข้ามยังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ต้องอาศัยวัดนอน หลังโรงงานอุตสาหกรรมทำแอมโมเนียรั่วผ่านมา 3 วันยังแก้ไม่ได้ พบอาคารทรุดตัว “นายกสินธพ” จ่อใข้พ.ร.บ.ควบคุมอาคารสั่งปิดโรงงาน
วันที่ 30 มีนาคม 2566 ภายในวัดแม่เตย ต.ท่าข้ามอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ยังคงมีชาวบ้านพร้อมกับแรงงานชาวต่างด้าวกว่า 200 คน พักอาศัยที่ศาลาภายในบริเวณวัด หลังได้รับผลกระทบจากกลิ่นเหม็นของสารแอมโมเนีย ที่รั่วไหลจากโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่กลางชุมชนบ้านแม่เตย ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ท่าข้าม เกิดเหตุตั้งแต่ช่วงกลางดึกของวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา วันนี้ย่างเข้าสู่วันที่ 3 ชาวบ้านยังไม่สามารถกลับบ้านได้ เนื่องจากทางโรงงานยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้
นางขิน ดพียงเจริญ ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า บ้านของตน อยู่ห่างจากโรงงาน เพียงไม่กี่เมตร ซึ่งวันที่เกิดเหตุได้รับผลกระทบอย่างหนัก มีกลิ่นเหม็น แสบตาแสบจมูก อย่างรุนแรงจนไม่สามารถอยู่ภายในบริเวณนั้นได้
“ทราบว่า เจ้าหน้าที่และทางโรงงานพยายามแก้ไข แตจนถึงวันนี้ ย่างเข้าสู่วันที่สามยังไม่สามารถแก้ปัญหาก๊าซแอมโมเนียรั่วได้ จึงอยากให้ทางโรงงานและหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งแก้ไขปัญหา เพื่อชาวบ้านจะได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ” นางชิน กล่าว
ขณะที่ นางเตือนใจ คงประดิษฐ์ พร้อมกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากโรงงานดังกล่าว ระบุว่า ตนมีบ้านพักอาศัยอยู่ติดกับโรงงาน ซึ่งคืนที่เกิดเหตุ ตนพร้อมด้วยครอบครัวอีก 3 คนนอนอยู่ในบ้าน จนกระทั่งประมาณ 22:00 น ได้กลิ่นแอมโมเนีย อย่างรุนแรง มีอาการแสบจมูก แสบตา และแน่นหน้าอก จนต้องถูกหามส่งโรงพยาบาล แต่โชคดีที่ไม่ได้รับอันตราย
“อพยพมาอาศัยอยู่ในวัดเป็นวันที่ 3 จึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่และโรงงานเร่งแก้ไขปัญหา เพราะอยากจะกลับไปใช้ชีวิต อย่างปกติสุขเหมือนอย่างเดิม” นางเตือนใจ กล่าว
โดยเช้าวันนี้ นายสินธพ อินทรัตน์ นายกอบต.ท่าข้าม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการตังหวัดสงขลา เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา ฝ่ายปกครองอำเภอหาดใหญ่ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่จากอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุม และลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณโรงงาน เพื่อประเมินสถานการณ์ในการแก้ปัญหา ซึ่งพบว่านอกจาก ก๊าซแอมโมเนีย รั่วไหลแล้ว โครงสร้างของโรงงานยังทรุดตัว และมีปัญหา โดยการประชุมดังกล่าว ทางโรงงาน ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไป ร่วมตรวจสอบและสังเกตการณ์
จากการตรวจสอบบริเวณภายนอกโรงงาน จะเห็นได้ชัด ว่าตัวอาคาร ซึ่งเป็น ที่ตั้งของห้องเย็นขนาดใหญ่ทรุดตัวและโน้มตัวของผนังกำแพง ซึ่งอาจจะเป็นอันตราย โดยทางอบต.ท่าข้าม กับโยธาธิการจังหวัดสงขลาจะประเมินอีกครั้งว่าจะระงับการใช้งาน ตามพ.รบ.ควบคุมอาคารนี้หรือไม่
นายสินธพ อินทรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างระดมสรรพกำลังช่วยกันแก้ปัญหา ควยคู่กับการช่วยเหล่อชาวบ้าน อย่างเร่งด่วน ส่วนประเด็นความแข็งแรงของตัวอาคารหากประเมินแล้วไม่ปลอดภัยทางอบต.ท่าก็ต้องจำเป็นต้องสั่งปิดตัวอาคารเพื่อความปลอดภัย