Home » ข่าว » วุฒิฯเปิดเวทีร่วมภาคประชาชน ถกปิดทางนักคอรัปชั่นเข้าสภา

วุฒิฯเปิดเวทีร่วมภาคประชาชน ถกปิดทางนักคอรัปชั่นเข้าสภา

วุฒิสภา – หลายองค์กรห่วงปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น ที่นับวันยิ่งกระทบสิทธิของประชาชนมากและมีความน่ากลัวยิ่งขึ้น  ด้านนักวิชาการด้านกฏหมาย แนะประชาชนต้องร่วมตรวจสอบนักการเมืองอย่างเหมาะสมและชาญฉลาด หากไม่มั่นใจสามารถใช้สิทธิไม่ประสงค์จะเลือกใครได้

การเสวนา เรื่อง “สิทธิประชาชน : ตรวจสอบ ฉ้อราษฎร์ บังหลวง” โดยคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ร่วมกับ มูลนิธิส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต  วันที่ 29  มีนาคม 2566 เวลา  08.30 น.  ที่ห้องประชุมอาคารรัฐสภา โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟังทั้งในห้องประชุม และออนไลน์ผ่านการถ่ายทอดสดของเฟสบุควุฒิสภา

โดยการเสวนาครั้งนี้ ภาคเช้ามีหัวข้อในการอภิปราย คือ การมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบพรรคการเมืองและผู้สมัครรับเลือกตั้ง โดย ศ.(พิเศษ)วิชา มหาคุณ รศ.เจษฏ์ โทณะวณิก พ.ต.ต.ณัฐวัฒน์ เสงี่ยมศักดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง  นายอุทิศบัวศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และดำเนินการอภิปรายโดย นายประสาร มฤคพิทักษ์ กรรมการมูลนิธิส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

นายสมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า สถานการณ์คอรัปชั่นในประเทศไทย เป็นปัญหาที่คู่กับสังคมไทยมานาน และมีการพัฒนาจากการทุจริตงบประมาณแผ่นดินไปสู่การประพฤติมิชอบ ด้วยการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งข้าราชการประจำและนักการเมือง ใช้อำนาจรัฐเพื่อประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

ศ.(พิเศษ) พรเพชร วิชิตชลขัย ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า แม้หลายรัฐบาลที่ผ่านมา จะมีการวางแผนในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แต่ก็ยังไม่ปรากฏให้เห็นรูปธรรมที่แท้จริง และมีแนวโน้มที่จะรุนแรงมากขึ้น จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันหาแนวทางสร้างความเข้มแข็งในการป้องกันเรื่องนี้

พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ ประธานมูลนิธิส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กล่าวว่า  ปัญหาการทุตริตคอรัปชั่น นับวันยิ่งกระทบสิทธิของประชาชนและมีความน่ากลัวมากยิ่งขึ้น เมื่อมีการถามในประเด็นยอมรับได้หรือไม่กับการที่จะได้นักการเมืองทุกจริตบ้าง แต่มีผลงานให้สังคม กลับมีคนเห็นด้วยจำนวนไม่น้อย ทำให้ตอนนี้ต้องรณรงค์ให้ประชาชนเข้าใจว่า การรับสินบนก็คือการยักยอกทรัพย์ และการประพฤติโดยมิชอบ ก็คือการทุจริต

ศ.(พิเศษ) วิชา มหาคุณ คณบดี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  กล่าวว่า หากกล่าวถึงเจตน์จำนงแห่งรัฐธรรมนูญ อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน เมื่อประชาชนถูกละเมิด มีการทุจริต ประพฤติมิชอบและคุกคามจากผู้ใช้อำนาจรัฐ เพราะฉะนั้นรัฐจึงมีหน้าที่ต้องป้องกันปราบปรามทุจริต และคุ้มครองประชาชนจากการถูกละเมิดสิทธิและจากภัยคุกคามนั้นๆ ทั้งนี้ ในหมวดที่ 6 ว่าด้วยแนวนโยบายแห่งรัฐ  มาตรา 78 เนื้อหาให้รัฐพึงส่งเสริมให้ประชาชนและชุมชนมีความเข้าใจเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริ์ทรงเป็นประมุข  เพราะฉะนั้นการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ จะต้องทำทุกอย่างให้ความจริงปรากฏ ให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลอย่างแท้จริงให้ได้

รศ.เจษฏ์  โทณะวณิก นักวิชาการด้านกฏหมาย กล่าวว่า ประชาชนต้องเป็นนักตรวจสอบนักการเมือง เพราะเราเป็นคนเลือกเขามาเป็นตัวแทน ต้องดูว่าที่ผ่านมาคนที่เคยถูกเลือกเขาทำตามที่พูดไว้หรือไม่ หากพูดแล้วไม่ทำก็ไม่ต้องเลือก ส่วนการจะเป็นนักตรวจสอบที่ดี ประชาชนก็ต้องเป็นนักเลือกตั้ง ออกไปใช้สิทธิตามกฏหมายอย่างเหมาะสมและชาญฉลาด ไม่อยากเลือกใครก็ใช้สิทธิไม่ประสงค์จะเลือกใครได้

            พ.ต.ต.ณัฐวัฒน์ เสงี่ยมศักดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่า   อำนาจประชาธิปไตยอยู่ในมือประชาชน ในวันเลือกตั้ง กฏหมายสากลชี้ชัดว่าการลงคะแนนเป็นเรื่องความลับ ไม่มีใครรู้ว่าเราจะกากบาทเพื่อเลือกใคร ขณะเดียวกันหากพบสิ่งที่ผิดปกติน่าสงสัย ก็อาจจะแจ้งเบาะแสไปที่แอปพลิเคชัน ตาสับประรด ซึ่งเป็นแอปที่พัฒนาขึ้น เพื่อใช้ในการติดตามสถานการณ์และป้องปรามการทุจริตเลือกตั้ง โดยประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีส่วนร่วมในการรายงานสถานการณ์ หรือแจ้งเบาะแส เมื่อพบเห็นการทุจริตหรือการกระทำผิดกฏหมายเลือกตั้ง

            นอกจากนี้ในเวทีเสวนาภาคบ่าย ยังมีประเด็น สิทธิของประชาชนในการตรวจสอบพฤติกรรมคอรัปชั่นของนักการเมือง โดยเป็นตัวแทนจากภาคประชาชน สื่อมวลชน องค์กรต่อต้านคอรัปชั่น เช่น นางรสนา โตสิตระกูล กรรมการมูลนิธิส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *