ตลาดรถยนต์กระเตื้อง หลังท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก นายกสมาคมฯยานยนต์สงขลาคาดยอดจอง ”มอเตอร์โชว์ หาดใหญ่ 2023” มากกว่า 1,000 คัน เผยผู้บริโภค 40-50% ยังลังเลซื้อรถ EV ขณะที่ตัวแทนจำหน่าย NETA เผยกระแสตอบรับดี
นายณรงค์ ตั้งภัสสรเรือง นายกสมาคมการค้าธุรกิจยานยนต์จังหวัดสงขลา เปิดเผยถึงธีมงานมอเตอร์โชว์ หาดใหญ่ 2023 ครั้งที่ 12 วันที่ 29 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 ณ หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 และลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลหาดใหญ่ คือ “Save Energy – Save Life”
เนื่องจากปัจจุบันเน้นเรื่องพลังงานประหยัด พลังงานสะอาด เริ่มตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้า (E-power) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% (EV: Electric Vehicle) แต่ก็ยังไม่ทิ้งรถยนต์ระบบ ICE หรือเครื่องยนต์สันดาปที่เผาไหม้โดยเชื้อเพลิง และการสนับสนุนการแสดงท้องถิ่น รวมถึงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึง
“สถานการณ์โดยรวมของธุรกิจยานยนต์ในจังหวัดสงขลา หลังจากโควิด-19 คลี่คลาย ภาพรวมดีขึ้น เนื่องจากมีการเดินทางของนักท่องเที่ยว การจับจ่ายใช้สอยต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ทำให้กำลังซื้อดีขึ้นเป็นเงาตามตัว”
ถามว่าจะให้สภาพกลับมาเหมือนก่อนหน้าที่จะเกิดโควิด-19 ก็ยังไปไม่ถึงระดับนั้น แต่ถ้าจะให้ดีคิดว่าต้องปี พ.ศ. 2567 ธุรกิจยานยนต์ของจังหวัดสงขลาจึงจะมีโอกาสกลับไปยืนในที่เดิมได้ เนื่องจากจะต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวระยะหนึ่ง
“ในงานมีสินค้าให้เลือกมากขึ้น มีระบบเผาไหม้โดยเชื้อเพลิงรุ่นใหม่ ๆ รวมถึง อี-พาวเวอร์ และอีวี คาดว่า ตลอด 5 วันจะมียอดจองประมาณ 1,000 คัน และคงไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา ปีนี้คงต้องดีขึ้นแน่นอนรวมถึงการเข้าชมงานก็จะเพิ่มขึ้น มีโปรโมชั่นดี ราคาโดนใจ ทั้งมอเตอร์ไซต์ บิ๊กไบค์ และรถยนต์” นายณรงค์ กล่าว และว่านับตั้งแต่ต้นปีนี้ (2566) เป็นต้นมา ตลาดยานยนต์ทั้งตลาด ความต้องการของรถเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่มากเท่าที่ควร โดยปกติทั่ว ๆ ไป การเติบโตของอุตสาหกรรมนี้จะอยู่ในเกณฑ์เป็นน่าพอใจ จากมกราคม-มีนาคม ค่อย ๆ ดีขึ้น ประมาณ 2-3% ไม่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด รอดูทิศทางของเศรษฐกิจ รายได้ที่เข้ามาวงการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์สูงสุด เช่น โรงแรม ร้านอาหาร โดยเฉพาะโรงแรมปัจจุบันในช่วงเทศกาล หรือช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์การเข้าพักเต็ม ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดี รวมถึงการท่องเที่ยวภายในประเทศที่รัฐบาลมีโครงการช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม ตัวแปรสำคัญต่อตลาดรถยนต์คือผู้ซื้อกำลังลังเลในการตัดสินใจว่าซื้อรถใหม่ที่เป็นเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ และอีวี ซึ่งบางคนก็ยังติดกับความสะดวกสบาย ก็ต้องเป็นพวกใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
“จุดนี้ทำให้คนยังหันซ้าย แลขวา อยู่เหมือนกัน ยับยั้งชั่งใจกัน มีส่วนหนึ่งจะคิดหนักในการตัดสินใจ ซึ่งมีส่วนสำคัญสำหรับกลุ่มนี้อย่างน้อย 40-50% ที่ยังลังเล ดูการเติบโต ดูการปรับปรุงนวัตกรรมของรถไฟฟ้าว่าจะดีขึ้นกว่านี้หรือไม่ เช่น ที่ชาร์จ การเก็บประจุไฟฟ้าของแบตเตอรี่จะวิ่งได้ไกลขึ้น”
ซึ่งกระแสความลังเลเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจในเวลานี้ โดยสัญญาณเรื่องของความลังเลเริ่มมีมาตั้งแต่เริ่มมีรถอีวี เข้ามาจากจีน รัฐบาลเริ่มมีมาตรการช่วยเหลือทางด้านภาษี คาดว่าในปีหน้า (พ.ศ.2567) ความลังเลจะลดลงและจะมีความชัดเจนมากขึ้นว่าเทคโนโลยีจะไปทางไหน ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถว่าจะซื้อรถแบบไหน ระบบอะไรดี
“ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้ามีส่วนแบ่งในตลาดอยู่ประมาณ 20% ส่วนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงยังครองส่วนแบ่งตลาด 80% แต่ภายใน 8 ปีคือในปี
พ.ศ. 2573 บริษัทผลิตรยนต์ทั้งหลายจะเลิกผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง” นายณรงค์ กล่าว นายธวัชชัย ตรีสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮอร์ริซอน อีวี จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า NETA สงขลา กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าใน
ปีนี้ มีแบรนด์ใหม่ ๆ เป็นทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น เพราะฉะนั้นตลาดก็น่าจะคึกคัก มีการแข่งขันกันมากขึ้น เนื่องผู้บริโภคมีโอกาสเลือกมากขึ้น
โดยในงานมอเตอร์โชว์ หาดใหญ่ 2023 จะมีตัว NETA V ซึ่งราคาดี 549,000 บาท เทียบกับระยะทาง และรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี เป็นตัวที่คุ้มค่าในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคันแรก
“NETA ก็ยังมีกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้า” นายธวัชชัย กล่าว และว่า ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจ.สงขลา มีการตอบรับเร็วมาก เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ การตื่นตัวค่อนข้างสูง บวกกับจุดชาร์จในพื้นที่ก็เพิ่มขึ้นมาก ทำให้คุ้มค่าเมื่อเทียบกับคนที่เติมน้ำมัน อย่างปกติเติมอยู่เดือนละประมาณ 10,000 บาท มาใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็เหลือเดือนละ 2,000 กว่าบาท ที่เหลือ 8,000 บาทมาผ่อนรถ NETA ได้แล้ว
“การใช้รถยนต์ไฟฟ้าทำให้ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ถูกลง ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงรักษา การเติมน้ำมัน ขณะที่อัตราเร่งก็สม่ำเสมอ ทันใจผู้ใช้” นายธวัชชัย กล่าว
