Home » ข่าว » สำนักงาน กกพ. จัดเวทีนำร่องพบปะสื่อฯ ภูมิภาคที่สงขลา

สำนักงาน กกพ. จัดเวทีนำร่องพบปะสื่อฯ ภูมิภาคที่สงขลา

เมื่อaวันที่ 16 มีนาคม 2566 สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.)
โดย สำนักงาน กกพ. ประจำเขต 12 (สงขลา) ร่วมกับฝ่ายยุทธศาสตร์และสื่อสารองค์กร สำนักงาน กกพ. จัดเวทีพบปะและรับฟังความคิดเห็นสื่อมวลชนภูมิภาคในพื้นที่ผู้ใช้พลังงานเขต 12

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2566 สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) โดย สำนักงาน กกพ. ประจำเขต 12 (สงขลา) ร่วมกับฝ่ายยุทธศาสตร์และสื่อสารองค์กร สำนักงาน กกพ. จัดเวทีพบปะและรับฟังความคิดเห็นสื่อมวลชนภูมิภาคในพื้นที่ผู้ใช้พลังงานเขต 12 ภาคใต้ตอนล่าง ที่จังหวัดสงขลา

นายนพพร ทรัพย์เห็นสว่าง ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงาน กกพ. เปิดเผยว่า สำนักงาน กกพ.
จัดงานสัมมนาผู้มีส่วนได้เสียเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับบทบาทและภารกิจของสำนักงาน กกพ.
ในพื้นที่ (นำร่อง) ครั้งที่ 2 จังหวัดสงขลา เพื่อสร้างเครือข่ายและสร้างสัมพันธภาพของสำนักงาน กกพ. ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค กับสื่อมวลชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่นำร่องผ่านเวทีพบปะฯ

“สำนักงาน กกพ. ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการได้รับการสนับสนุนที่ดีผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ของกลุ่มผู้มีส่วนได้่เสียของสำนักงาน กกพ. โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มสื่อมวลชนซึ่งเป็นกลุ่ม
ผู้มีส่วนได้เสียหลักในภาคพลังงานของประเทศที่มีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้แทนประชาชนผู้ใช้พลังงานสะท้อนความต้องการ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการยกระดับงานกำกับกิจการพลังงานภายใต้ความรับผิดชอบของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และสำนักงาน กกพ. ได้เป็นอย่างดี” นายนพพร กล่าว

นายประสิทธิ์ สิริทิพย์รัศมี ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงาน กกพ. กล่าวว่า สื่อมวลชนส่วนภูมิภาคเป็นภาคีหลักที่สำคัญของ กกพ. และสำนักงาน กกพ. ในการเข้ามาสนับสนุนการกำกับดูแล ตรวจสอบ และถ่วงดุลกิจการพลังงานมาโดยตลอด ด้วยการสะท้อนปัญหาผลกระทบต่างๆ ที่เกิดจาการประกอบกิจการพลังงานในพื้นที่  ไม่ว่าจะเป็นประเด็นมาตรฐานความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และมาตรฐานคุณภาพการให้บริการ
ซึ่งคาดหวังว่าจะมีการนำเอาองค์ความรู้ด้านพลังงาน และการกำกับกิจการพลังงานที่ได้รับในเวทีไปขยายผลถ่ายทอดต่อให้กับประชาชนผู้ใช้พลังงานในพื้นที่เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องได้อย่างแพร่หลาย

“กกพ. มีนโยบายให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ เพื่อสนับสนุนประสิทธิภาพและความยั่งยืนในการการกำกับกิจการพลังงาน และสื่อมวลชนถือเป็นภาคีเครือข่ายกระบวนการมีส่วนร่วมที่สำคัญในลำดับต้นๆ ที่ กกพ. ให้ความสำคัญในการติดตามรับฟัง สะท้อนความคิดเห็น และสภาพปัญหามาโดยตลอด รวมทั้ง มาตรการ กฎ ระเบียบที่ได้มีการประกาศและบังคับใช้หลายๆ อย่างก็นำเอาความคิดเห็นของสื่อมวลชนมาประกอบการพิจารณาด้วย และงานสัมมานาในวันนี้เช่นกัน เราคาดหวังว่าผู้แทนสื่อมวลชนที่เข้าร่วมจะมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ต่อไปยังประชาชนได้อย่างกว้างขวาง” นายประสิทธิ์ กล่าว

นายเอกประพันธ์ อักษรพันธ์ ผู้อำนวยการเขต สำนักงาน กกพ. ประจำเขต 12 (สงขลา) กล่าวว่า ยินดีที่เลือกจังหวัดสงขลาเป็นเวทีนำร่องในการพบปะและรับฟังความคิดเห็นสื่อมวลชนภูมิภาค โดยจังหวัดสงขลาเป็นพื้นที่ผู้ใช้พลังงานเขต 12 ภาคใต้ตอนล่างครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ จังหวัดพัทลุงจังหวัดปัตตานี จังหวัดสตูล จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลา และจังหวัดนราธิวาส และมีเขตพื้นที่ในความรับผิดชอบครอบคลุมประชาชนผู้ใช้พลังงานที่มีความหลากหลายในวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียม ประเพณี เป็นพื้นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าพลังน้ำบางลาง จ.ยะลา รวมไปถึงโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจำนวนมากในพื้นที่นอกจากนี้ ยังมีกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในเขตพื้นที่ประกาศ ซึ่งสำนักงาน กกพ. ได้ร่วมกับคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า (คพรฟ.) ประจำเขต 12 (สงขลา)  ในการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดทำโครงการพัฒนาพื้นที่ชุมชนรอบโรงไฟฟ้าปีละกว่า 100 ล้านบาท เพื่อสร้างและยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนชุมชนรอบโรงไฟฟ้า

“รู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสต้อนรับคณะสื่อมวลชนในพื้นที่ซึ่งถือเป็นผู้แทนของประชาชนผู้ใช้พลังงาน ตลอดจนได้มีโอกาสรับฟังเสียงสะท้อนและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อร่วมกันพัฒนางานกำกับกิจการพลังงานในพื้นที่เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับผู้ใช้พลังงานในพื้นที่” นายเอกประพันธ์ กล่าว

ในวันนี้ยังได้รับเกียรติจากผู้แทนคณะกรรมการผู้ใช้พลังงานประจำเขต 12 (คพข.) จังหวัดสงขลา
ซี่งเป็นผู้แทนประชาชนจิตอาสาผู้แทนผู้ใช้พลังงานในพื้นที่ที่ได้รับแต่งตั้งจาก กกพ. ให้ทำหน้าที่รับร้องเรียนปัญหาการใช้บริการพลังงาน ตลอดจนการเป็นกลไกที่สำคัญในการสนับสนุนการกำกับกิจการพลังงานให้กับ กกพ. ได้กรุณาเข้าร่วมรับฟังและสังเกตการณ์เวที ตลอดจนได้มีโอกาสแนะนำตัวกับคณะผู้แทนสื่อมวลชน เพื่อนำไปสู่การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้นอีกด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *