Home » ข่าว » “มาตะ ลุ่มน้ำ”เชื่อม Street art เลสาบ 3 มหาลัยทำโลจิสติกส์ท่องเที่ยว3จังหวัด

“มาตะ ลุ่มน้ำ”เชื่อม Street art เลสาบ 3 มหาลัยทำโลจิสติกส์ท่องเที่ยว3จังหวัด

จังหวัดสงขลา หารือคณะวิจัยม.อ. ม.หาดใหญ่ และ มทร.สงขลา หาแนวทางจัดทำโลจิสติกส์ท่องเที่ยว
ลุ่มน้ำทะเลสาบ 3 จังหวัด พร้อมต่อยอดพัฒนาแพลตฟอร์มหนุนการท่องเที่ยว

17 ก.ค. 66 นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประชุมหารือแนวทางการวิจัยการจัดการโลจิสติกส์ท่องเที่ยวพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบ พร้อมต่อยอดสู่การพัฒนาแพลตฟอร์ม “มาตะ ลุ่มน้ำ” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการท่องเที่ยว ร่วมกับ ดร.คนึงนิจ หนูเช็ก ผู้แทนมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ผศ.ดร. น้ำทิพย์ ตระกูลเมฆ ผู้แทนมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และ ดร.รุ่งฤดี ดิษฐวิทย ผู้แทน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย โดยมีนางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมเฟื้องฟ้า ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสงขลา โดยการหารือ ประกอบด้วย 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ การดำเนินงานแพลตฟอร์มการจัดการ
โลจิสติกส์ท่องเที่ยว “มาตะ ลุ่มน้ำ” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในด้าน e-Logistics
และความพร้อมในการจัดการข้อมูลด้านการท่องเที่ยว, การนำเทคโนโลยี QR-Code และ Augmented Reality (AR) ที่ต่อยอดจาก AR Street art ย่านเมืองเก่าสงขลา จำนวน 14 จุด เพื่อการสนับสนุน
การท่องเที่ยวจังหวัดสงขลาตามหลักการจัดการโลจิสติกส์ท่องเที่ยวที่มีการเชื่อมโยงระหว่างการเคลื่อนที่ทางกายภาพ กับการเคลื่อนที่ด้านข้อมูลเพื่อเป็นต้นแบบแก่สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมถึงการกำหนดแผนการบริหารจัดการ
โลจิสติกส์ท่องเที่ยวพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบ เพื่อการพัฒนาแผนการตลาดการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดสงขลาที่ทันสมัยและสอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติ


ทั้งนี้ การพัฒนาแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ ท่องเที่ยว “มาตะ ลุ่มน้ำ” ได้ขยายแพลตฟอร์มไปยัง Application, Website, Line OA, Facebook, YouTube และ AR ที่คณะผู้วิจัยได้มีการออกแบบพัฒนาระบบให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสามารถเข้าไปป้อนข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ผ่านช่องทาง LINE และข้อมูลสามารถส่งต่อไปยัง Application และ Website โดยอัตโนมัติ ซึ่ง Application และ Website “มาตะ ลุ่มน้ำ” กำหนดภาษาในการสื่อสารเพื่อความสะดวกในการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยผู้ประกอบการยังสามารถประชาสัมพันธ์ข้อมูลการท่องเที่ยวผ่าน Facebook และ YouTube “มาตะ ลุ่มน้ำ” ในการส่งต่อข้อมูลไปยังนักท่องเที่ยวให้มาท่องเที่ยวในพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบ เพื่อกระจายรายได้แก่ชุมชนท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างยั่งยืน คำว่า “มาตะ ลุ่มน้ำ” หมายถึงการเชิญชวนให้มาท่องเที่ยวเที่ยวพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบ ที่เป็นทะเลแบบลากูน (Lagoon) หนึ่งเดียวของประเทศไทย และหนึ่งใน 117 แห่ง ทั่วโลก มีระบบนิเวศน์แบบผสมผสาน
และมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 6,000 ปี ซึ่งประกอบด้วย พื้นที่จังหวัดสงขลา 12 อำเภอ (จาก 16
อำเภอ ยกเว้นอำเภอ จะนะ นาทวี เทพา และสะบ้าย้อย) จังหวัดพัทลุง 11 อำเภอ(ทั้งจังหวัด) และจังหวัดนครศรีธรรมราช 2 อำเภอ คือ ชะอวด และหัวไทร รวม 25 อำเภอ ใน 3 จังหวัด

นางสาววิลาวรรณ โป๊บุญส่ง ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ซึ่งเป็นคณะจัดทำงานวิจัยในส่วนของวิชาการ ได้มาร่วมประชุมแลกเปลี่ยนและขอข้อมูลจากเรา“ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นการจัดทำโครงการที่ต่อเนื่องกัน และนำเสนอข้อมูลในภาพรวมแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ รอบลุ่มน้ำทะเลสาบ ซึ่งกลุ่มงานวิจัย


ได้ตั้งจุดท่องเที่ยวไว้ 14 จุด ตามเส้นทาง Street art ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางตามเส้นทางเพื่อถ่ายภาพเก็บบรรยากาศของธรรมชาติ เมือง และ ชุมชนรอบๆ ทะเลสาบได้” ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวชุมชนที่มีอยู่หลากหลาย
ก็ได้จัดการอั๊ฟข้อมูลเข้าไปในแพลตฟอร์มของ “มาตะ ลุ่มน้ำ” ด้วย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทำงานจัดทำข้อมูล
“โครงการนี้จะสิ้นสุดในปี 2567 ซึ่งต้องทำต่อเนื่องในปีถัดไป เนื่องจากเป็นโครงการที่กินพื้นที่ 3 จังหวัดคือ สงขลา พัทลุง และนครศรีธรรมราช โดยจังหวัดสงขลาครอบคลุมพื้นที่ 12 อำเภอ” นางสาววิลาวรรณ กล่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *