วันนี้ (9 ส.ค.66) นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้อง (ฝ่ายไทย) และ Mr.Moha Aidil Afizie Bin Daud ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ร่วมแถลงข่าวการจัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนใต้ กิจกรรมการแสดงวัฒนธรรมสองแผ่นดิน และการแข่งขันออฟโรด ไทย-มาเลเซีย ที่โรงแรมอิมพีเรียล อำเภอเมืองนราธิวาส
เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว สืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ ให้แก่ประชาชนกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน
อีกทั้ง สร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยว ซึ่งมีนายนิอาแซ ซีอุเซ็ง สมาชิกวุฒิสภา ว่าที่ร้อยตรี จิรัสย์ ศิริวัลลภ นายอำเภอเมืองนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ และสื่อมวลชนทุกแขนงในพื้นที่/ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมรับฟังการแถลงข่าว
นายสนั่น พงษ์อักษร กล่าวว่า จังหวัดนราธิวาสมีการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดนในด้านการท่องเที่ยว “ส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรม” ซึ่งจังหวัดเล็งเห็นความสำคัญของการท่องเที่ยวและมุ่งเน้นพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว/กิจกรรมที่สำคัญภายในจังหวัด เพื่อการรองรับการเข้ามาของนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ รวมถึงอาเซียน
อีกทั้ง แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด ระยะ 4 ปี (พ.ศ.2566-2570) ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนา “เศรษฐกิจมั่นคง การค้ามั่งคั่ง สันติสุขยั่งยืน สู่นราน่าอยู่” พร้อมเชิญชวนมาร่วมกิจกรรมแล้ว ได้ท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ซึ่งมีความสวยงามทางธรรมชาติและทางวัฒนธรรมมากมาย
นายณรงค์ สังข์ประสิทธิ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า การแสดงวัฒนธรรมสองแผ่นดิน ไทย-มาเลเซีย จะจัดขึ้นวันที่ 18-20 สิงหาคม 2566 ที่บริเวณสวนกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมืองนราธิวาส กิจกรรมประกอบด้วย การแสดงจากไทย มีการแสดงมโนราห์ หนังตะลุง ลิเกฮูลู ดนตรีลูกทุ่ง ศิลปินนักร้อง ศิต โมทีฟ กั๊ก เล้าโลม//การแสดงจากมาเลเซีย จะมีมโนราห์ หนังตะลุง ลิเกฮูลู นาฏศิลป์ และการแสดงประจำรัฐ ส่วนกิจกรรมการแข่งขันออฟโรด ไทย-มาเลเซีย จะจัดขึ้นวันที่ 2-3 กันยายน 2566 ที่บริเวณหน้าตลาดกลางการเกษตรเพื่อการส่งออกจังหวัดภาคใต้ชายแดน อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส
ขณะที่ นางสาวนวพร ชัวชมเกตุ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานนราธิวาส กล่าวว่า การจัดกิจกรรมฯ นอกจากจะแสดงถึงความงดงามด้านการแสดงวัฒนธรรมแล้ว ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดี สร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวเมืองชายแดนและกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมขอให้ชาวนราธิวาส ร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งจะแสดงออกถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันอันเป็นเสน่ห์ของสังคมพหุวัฒนธรรมในพื้นที่