กรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายเจษฎา จิตรัตน์ ได้มีคำสั่งปราบปรามขบวนการค้าบุหรี่หนีภาษีทุกช่องทาง พร้อมระบุพื้นที่ใดพบจะย้ายนายอำเภอ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ตามที่ “สงขลาโฟกัส” นำเสนอมาอย่างต่อเนื่อง สัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจค้าบุหรี่เถื่อนที่เติบโตอย่างมาก และมีอิทธิพลสูง โดยมีการ “จ่ายส่วย” ให้หน่วยงานต่าง ๆ อย่างทั่วถึง จึงยังสามารถฝืนคำสั่งผู้ว่าฯ ได้ แม้ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จะมีการจับกุมและตรวจยึดบุหรี่ถึง 2 ครั้ง ภายใน 2 วัน ที่สามารถตรวจยึดบุหรี่เถื่อนที่ขนมากับเรือมาขึ้นฝั่งที่ตำบลนาทับ อ.จะนะ และส่งทางไปรษณีย์ ได้กว่า 1,200 ลัง และชบวนการดังกล่าวเชื่อมโยงถึงเจ้าหน้าที่รัฐด้วย ก็ตาม
แต่การค้าบุหรี่เถื่อนไปสู่บริโภคบางส่วนยังเปิดขายเป็นปกติ ท้าทาย นโยบายและมาตรการปราบปรามของผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา
เห็นได้ชัดจากจำนวนลูกค้าที่กำลังยืนต่อแถวซื้อบุหรี่เถื่อนจากร้านไม่มีชื่อ บนถนนนวลแก้ว เทศบาลนครหาดใหญ่
วันที่ 15 สิงหาคม 2566 เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจร้านค้าขายบุหรี่เถื่อนในตัวเมืองหาดใหญ่ พบว่า ร้านไม่มีชื่อ ซึ่งเป็นอาคารพานิชย์ 2 ชั้น กลางถนนนวลแก้ว ซึ่งเป็นร้านด้งในเมืองหาดใหญ่ ยังคงแอบเปิดขายบุหรี่เถื่อนให้กับประชาชนอยู่ โดยปิดประตูเหล็กตบตาเจ้าหน้าที่ และเหลือช่องประตูเล็ก ๆ ไว้ส่งบุหรี่และเก็บเงินจากลูกค้า ซึ่งมีทั้งซื้อเป็นแถวและซื้อปลีกเป็นซอง โดยทางร้านจะใส่ถุงดำให้กับลูกค้า
ขณะที่ในวันเดียวกัน ร้านขายบุหี่เถื่อน บริเวณวงเวียนน้ำพุ หาดใหญ่ และบริเวณตลาดใหม่ ซึ่งเป็นร้านขายบุหรี่เถื่อนรายใหญ่ที่คนในเมืองหาดใหญ่รู้จักกันดี ปิดขาย
แหล่งข่าวจากผู้ค้ายอมรับว่า การเสนอข่าวของ “สงขลาโฟกัส” ส่งผลกระทบ ผู้ใหญ่ในจังหวัดสั่งหยุดค้าขาย ทำให้ร้านค้าหลายแห่งต้องปิด
แถวยาว : ลูกค้าเข้าแถวยาวซื้อบุหรี่ที่ร้านค้าบนถนนนวลแก้ว เทศบาลนครหาดใหญ่
ปิดขาย : ร้านบุหรี่บริเวณวงเวียนน้ำพุ และตลาดใหม่ทศบาลนครหาดใหญ่ปิด