“ป้าดำ” บุกศาลากลาง หลังถูกเทศบาลนครสงขลา รื้อบ้าน ซึ่งปลูกบุกรุกที่สาธารณะประโยชน์ริมทะเลสาบสงขลา ขอพักค้างแรมหน้าศาลากลางจนกว่าจะได้รับการแก้ไข ด้าน “นายกวันชัย” ยืนยันทำตามกฎหมาย รักษาสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ และเตรียมพัฒนาท่าเรือท่องเที่ยว
วันที่ 30 สิงหาคม 2566 นางไพจิตร จันทร์โต หรือ “ป้าดำ” ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมง พร้อมตัวแทนชาวบ้านใกล้เคียง และเครือข่ายสลัมสี่ภาค เดินทางมาขอเข้าพบนายเจษฎา จิตรัตน์ ผผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ที่หน้าศาลากลางจังหวัดสงขลา หลังได้รับความเดือดร้อน จากการที่ถูกเทศบาลนครสงขลา รื้อบ้านพัก ที่ปลูกล่วงล้ำลำน้ำริมทะเลสาบสงขลา บริเวณสวน 72 พรรษาฯเขตเทศบาลนครสงขลา เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 สิงหาคม 2566 โดยมีนายรุ่งโรจน์ และสุบ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา รับเรื่อง
นางไพจิตรได้มาพร้อมกับบุตรชายที่พิการ ถือแผ่นป้ายเรียกร้องความเป็นธรรม รวมถึง กิจกรรมที่เคยปลูกต้นโกงกางบริเวณดังกล่าวมานาน 28 ปี จนทำให้ปัจจุบันมีความร่มรื่น เป็นป่าโกงกางผืนเดียวที่มีความสมบูรณ์ในเขตเทศบาลนครสงขลา
นางไพจิตร กล่าวว่า ตนสร้างเพิงพักริมทะเลสาบสงขลา บริเวณสวน 72 พรรษาฯเขตเทศบาลนครสงขลา เนื่องจากไม่มีที่อยู่มานานกว่า 28 ปี โดยที่ผ่านมาทางเทศบาลฯพยายามที่จะรื้อถอน แต่ตนได้พยายามเจรจาเพื่อนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมด้านความมั่นคงของจังหวัดสงขลาที่จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพิจารณาและหาข้อสรุปว่าจะรื้อหรือไม่ รวมถึงมาตรการช่วยเหลือหลังการรื้อ แต่เทศบาลนครสงขลาไม่ได้ทำตามข้อตกลงและเข้าทำการรื้อถอนทันที
“ป้าไม่มีแรงจะสู้กับเทศบาลฯอีกแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องการที่จะรื้อบ้านออกไป โดยไม่สนใจว่าป้าจะอยู่ที่ไหน นอนยังไง คนจนคนหนึ่งไม่เคยได้รับความสนใจใดๆ แล้วมาทำแต่บ้านของป้าคนเดียว ทั้งที่มีการบุกรุกลักษณะเดียวกันจำนวนมาก” ป้าดำ กล่าว และว่า
อยากขอกลับไปอาศัยอยู่ที่เดิมหรือขอให้จัดหาที่อยู่ให้ให้เอื้อกับการประกอบอาชีพคือการทำประมง และขอนอนพักค้างแรมที่หน้าศาลากลางจังหวัดสงขลา จนกว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไข
ขณะที่ นายวันชัย ปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา กล่าวว่า
เทศบาลได้ปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมาย กรณีป้าดำบุกรุกที่ดินริมทะเลสาบสงขลา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของสวน 72 พรรษาเฉลิมพระเกียรติ เทศบาลจึงต้องจัดระเบียบ ให้มีความสวยงาม เป็นสวนสาธารณะของชาวสงขลา เพื่อให้สมพระเกียรติ ด้วย
“บริเวณนี้มีดำเพียงรายเดียวที่มีการบุกรุกปลูกสร้างบ้านเป็นของส่วนตัว โดยในจุดอื่น ๆ แม้จะมีการบุกรุกที่ดินสาธารณะ แต่ทางเทศบาลนครสงขลาก็ไม่ได้เข้าไปดำเนินการ แต่บริเวณนี้นต้องจัดระเบียบ เพื่อให้เป็นสวนเฉลิมพระเกียรติและเป็นสวนสาธารณะที่ประชาชนได้ใช้ร่วมกันอย่างแท้จริง” นายกวันชัย กล่าว และว่า
บริเวณสวน 72 พรรษาฯ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวสงขลา อีกทั้ง เตรียมที่จะปรับพื้นที่เป็นท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยว ในการเดินทางจากฝั่งเทศบาลนครสงขลาไปยังตำบลเกาะยอ อำเภอเมืองสงขลา เพื่อย้อนวิถีของชาวสงขลาในอดีต และส่งเสริมการท่องเที่ยว ทำให้ต้องจัดระเบียบบริเวณนี้
นายกวันชัย กล่าวด้วยว่า ได้ตรวจสอบพบว่า “ป้าดำ” มีชื่อปรากฎอยู่ในทะเบียนราษฎรโดยสถานะเป็นเจ้าของบ้านในซอยวุฒิภูมิ เขตเทศบาลนครสงขลาด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ‘ป้าดำ” กล่าวยอมรับ ว่า เป็นเรื่องจริง แต่บ้านนั้นไม่ได้เป็นบ้านตนเอง เพียงแค่ไปอาศัยให้มีชื่อในทะเบียนบ้านเท่านั้น เพื่อให้สามารถทำอะไรได้เหมือนกับประชาชนทั่วไป มีสิทธิ์เหมือนคนอื่น แต่ไม่ใช่บ้านตัวเอง ไปอาศัยทะเบียนบ้านเค้าอยู่เท่านั้น และหากตรวจสอบพบว่า ตนมีบ้าน มีที่ดินที่เป็นของตัวเอง ก็พร้อมที่จะยกให้เทศบาลหรือคนที่ตรวจสอบพบ