“35 ปี” ท่าอากาศยานหาดใหญ่ กับการเป็นประตูสู่ภาคใต้สุดของไทย เร่งปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร ปี 67 พร้อมพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รองรับการขยายตัวอุตสาหกรรมการบินในอนาคต
26 สิงหาคม 2566 ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) ภายใต้การกำกับดูแลของ บริษัท ท่าอากาศ
ยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ครบรอบการดำเนินงาน 35 ปี ปัจจุบันบริหารงานโดย นาวาอากาศโท รณกร เฉลิมแสนยากร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ผหญ.) นายชูวิทย์ พันธุ์ณร
รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ด้านสนับสนุนธุรกิจ) รหญ.(สธ.) และ นายนพพร พยัพไพร
รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ด้านปฏิบัติ
การและบำรุงรักษา) (รหญ. (ปร.) เป็นผู้ดำเนินการสนามบินสาธารณะที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)
ทอท.ได้กำหนดบทบาททางยุทธศาสตร์ (Strategic Positioning) ให้ ทหญ.เป็นประตูสู่ภาคใต้สุดของ
ไทย Gateway to Southern-most Thailand ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาคใต้
โดยเป็นจุดเชื่อมการเดินทางทางอากาศเส้นทางบินภายในประเทศสู่ 5 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ของไทย ได้แก่ สงขลา สตูล นราธิวาส ยะลา และปัตตานีรวมถึงเส้นทางบินระหว่างประเทศ ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ มีสายการบินที่ให้
บริการเส้นทางบินภายในประเทศ ณ ปัจจุบัน 7 สาย
การบิน ได้แก่ ไทยสมายล์ ,นกแอร์, บางกอกแอร์, ไทยไลอ้อนแอร์, ไทยแอร์เอเชีย, นกสกู๊ต และไทยเวียตเจ็ตแอร์ นำผู้โดยสารเดินทางสู่ดอนเมือง, สุวรรณภูมิ, เชียงใหม่, เชียงราย, ภูเก็ต, อุดรธานี, กัวลาลัมเปอร์ และสิงคโปร์
นาวาอากาศโท รณกร เผยว่า ผลการดำเนินงานและปริมาณการจราจรทางอากาศในภาพรวมรอบ 10 เดือน (ตุลาคม 2565-กรกฎาคม 2566) มีจำนวนเที่ยวบินรวม 17,648 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 1,295 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 346.55% และเที่ยวบินภายในประเทศ 16,353 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น10.76% หรือมีจำนวนเที่ยวบินเข้า-ออก เฉลี่ย 60 เที่ยว
บิน/วัน เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีเที่ยวบิน เข้า-ออก 50 เที่ยวบิน/วัน เพิ่มขึ้น 20.00% โดยขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร ปัจจุบัน ทหญ.สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 2.55 ล้านคนต่อปี ขณะที่มีผู้โดยสารมาใช้บริการ ทหญ.เป็นจำนวนมาก ทะลุ 3 ล้านคน ส่งผลให้เกิดความแออัดในการให้บริการ โดยเฉพาะในช่วงเวลาคับคั่ง เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้น
คณะกรรมการ ทอท.ได้ให้ความเห็นชอบแผนพัฒนา ทหญ.โครงการปรับปรุงภายในอาคารผู้โดยสาร ทหญ. ปี 67 เพื่อพัฒนาท่าอากาศยานหาดใหญ่ ใช้งบลงทุนประจำปีงบประมาณ 2566 เร่งด่วน ระยะเวลาดำเนินการก่อสร้าง 6 เดือน นับจากเดือนกันยายน 2566 – กุมภาพันธ์ 2567 จำนวน 2 โครงการ ได้แก่
- โครงการขยายช่องทางเข้าอาคารผู้โดยสาร ทหญ.เพื่อเพิ่มช่องทางเข้าอาคารจาก 3 ประตู เป็น
4 ประตู พร้อมปรับปรุงสำนักงานของส่วนรักษาความปลอดภัย และ 2. โครงการปรับปรุงห้อง Security Check โถงผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ และระหว่างประเทศ บริเวณชั้น 2 อาคารผู้โดยสาร ทหญ. พร้อมปรับปรุงพื้นที่ห้องรับรองพิเศษ ปรับปรุงโถงผู้โดยสารขาออกภายในประเทศและระหว่างประเทศ งานสร้างห้องน้ำใหม่ และงานปรับปรุงพื้นที่สำนักงานของสายการบิน
“เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ได้เข้าร่วมโครงการสำคัญ ๆ กับ
หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน โดยได้รับการรับรองระบบการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (ISO 45001:2018) ระบบบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ (ISO 22301:2019) และได้รับรางวัลในการดำเนินการด้านต่าง ๆ ได้แก่ รางวัลสถานประกอบกิจการต้นแบบดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ประจำปี 2566 ระดับประเทศ” นาวาอากาศโท รณกร
กล่าว และว่า
ทหญ. ได้รับใบประกาศเกียรติคุณ กิจกรรมรณรงค์ลดสถิติอุบัติเหตุจากการทำงานให้เป็นศูนย์ประจำปี 2566 (Zero Accident Campaign 2023) ระดับต้น, ใบประกาศเกียรติคุณ GLP (Good Labour Practices) ให้สถานประกอบกิจการที่มุ่งมั่นนำแนวปฎิบัติการใช้แรงงานที่ดีมาบริหารจัดการ และรางวัลองค์กรปลอดภาชนะโฟมบรรจุอาหาร 100% จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา
นาวาอากาศโท รณกร กล่าวด้วยว่า ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ครบรอบการดำเนินงาน 35 ปี
เป็นเสมือนประตูสู่ภาคใต้และจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาคใต้ มีสายการบินให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศ จำนวน 7 สายการบิน มีแผนเพิ่มเส้นทางบินจังหวัดสุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ในส่วนเส้นทางบินระหว่างประเทศ ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ คาดว่าในอนาคตจะเพิ่มเส้นทางบินประเทศอินโดนีเซีย
สำหรับแผนพัฒนาที่จอดรถ มีแผนจะขยายพื้นที่ในการจัดทำที่จอดรถ จากเดิมรองรับผู้ใช้บริการ 628 คัน เพื่อรองรับผู้โดยสารเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการที่จอดรถให้มีความสะดวก และแก้ปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพออีกด้วย
“ทหญ.มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยหัวใจที่ตระหนักถึงความปลอดภัยและการให้บริการแก่ผู้โดยสารภายใต้หลักธรรมาภิบาล และการดำเนินงานที่โปร่งใสควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคม และการเป็นพลเมืองที่ดีของชุมชนมากว่า 35 ปี เพื่อสร้างคุณค่าร่วมกันกับสังคมและชุมชนให้สนามบินสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป” นาวาอากาศโท รณกร กล่าว
