นายทวีศักดิ์ ทวีรัตน์ นายกเทศมนตรีเมืองคอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กล่าวถึงการพัฒนาพื้นที่คลองเรียน โยงประวัติศาสตร์ความเป็นมา ศาลเจ้าแม่กวนอิมบ้านปลักธง ณ โรงเจล็อกซ่านถ่อง หาดใหญ่ ซึ่งเริ่มสร้างโดยขุนนิพัทธ์จีนนคร เมื่อ 120 ปีก่อน เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวสักการะของนักท่องเที่ยว
“ในการพัฒนาคลองเรียนนั้น บางส่วนที่เป็นคลองอยู่ภายใต้การดูแลของกรมชลประทาน ซึ่งในการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวต้องอาศัยความร่วมมือของกรมชลประทาน หรือหากเป็นโครงการที่ไม่กีดขวางทางเดินน้ำก็สามารถดำเนินการได้ ในส่วนของชลประทานก็มีโครงการที่พัฒนาเชื่อมต่อมาจากคลองหวะ เชื่อมต่อกับคลอง ร.6 แล้วลงมาสู่คลองเรียน จะมีประตูน้ำเพื่อให้สามารถเก็บกักน้ำเพื่อประชาชนใช้ในการเกษตรกรรมด้วย” นายทวีศักดิ์ กล่าว และว่า
การส่งเสริมพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งขณะนี้สมาคมฮากกาได้พัฒนาปรับปรุงศาลเจ้าแม่กวนอิมบ้านปลักธงโดยได้นำองค์เจ้าแม่กวนอิม หินหยกองค์ใหญ่ที่สุด สูง 9.9 เมตร มาประดิษฐานเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา ทางเทศบาลเมืองคอหงส์ก็ได้จัดทำแฟลตฟอร์มเพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวได้รับทราบและเข้ามาสัการะเยี่ยมชม
อย่างไรก็ตาม ในการพัฒนาพื้นที่ของศาลเจ้านั้น ตนเห็นว่าพื้นที่ด้านหน้าศาลที่ลาดต่ำลงมายังเป็นของเอกชน ซึ่งหากผู้ดูแลคือสมาคมฮากกา หาดใหญ่ จะพัฒนาให้มีความสวยงามก็อาจต้องติดต่อซื้อขายกับเจ้าของพื้นที่ดังกล่าว โดยล่าสุดรับทราบว่ากำลังเจรจาซื้อขายกันอยู่
“ผมคุยกับนายกสมาคมฮากกา คือท่านพรสรรค์ สันติวรคุณ ว่าพื้นที่ด้านหน้าหากทางสมาคมฯได้มาก็จะสามารถพัฒนา ทำเป็นสะพานทอดข้ามคลองมา แล้วทำบันไดมาถึงถนนด้านหน้าได้ หรือปรับทัศนียภาพเชื่อมต่อลงมาเพราะพื้นที่จะติดกับส่วนของชลประทานที่จะพัฒนาเป็นถนนเข้ามาตามแนวของคลอง หรือสามารถจัดสรรพื้นที่ใช้สอยอื่นๆ ได้อีกมาก
ซึ่งหากทางสมาคมฯมีโครงการใดที่จะจัดทำขึ้นมาในอนาคตอันใกล้ ทางเทศบาลฯยินดีสนับสนุน เพราะจะได้เป็นการช่วยกันสร้างการท่องเที่ยวของพื้นที่ตรงนี้ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดขึ้นของศาลเจ้าแม่กวนอิมบ้านปลักธงที่มีประวัติความเป็นมากว่าร้อยปี ถือเป็นศาลเจ้าแห่งแรกของเมืองหาดใหญ่ด้วยซ้ำไปโดยการเริ่มของท่านขุนพิพัทธ์จีนนคร ซึ่งมีความสำคัญและน่าสนใจมาก