วันนี้(28 กันยายน 2566) ภายหลังจากศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาคดีระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติหรือป.ป.ช กับนายนิพนธ์ บุญญามณี กรณีละเว้นไม่อนุมัติจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ จำนวน 2 คัน เป็นเงินจำนวน 50,850,000 บาท แก่บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด
ล่าสุด ศาลอาญา ทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้เผยแพร่คำพิพากษา มีสาระสำคัญว่า
“จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จำคุก 9 ปีและเพิกถอนสิทธิ์รับเลือกตั้ง ของจำเลยมีกำหนด 5 ปี ตามบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการ ป้องกันและปราบปรามทุจริต พ.ศ 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 93 วรรคสอง คำขออื่นให้ยก”
อีกทั้ง ในคำพิพากษาดังกล่าวตอนหนึ่ง ได้ระบุชื่อและกล่าวถึงบุคคลอื่นด้วยว่า “นายอิทธิพล ผู้กล่าวหา พยานโจทก์ เดินทางไปขอพบจำเลยที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และกล่าวอ้างว่านายสุวิทย์ จิตบรรจงเลขาธุการ โดยตำแหน่ง ของจำเลย และนายถึก เลขาส่วนตัวของจำเลย เรียกค่าดูแลการดำเนินการร้อยละ10” (อ่านรายละเอียดในเอกสารข่าวแจกสื่อมวลชน ศาลอาญาทุจริตฯ)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้สื่อข่าว ได้ติดต่อไปยังนายสุวิทย์ จิตบรรจง อดีตเลขานายกอบจ.สงขลา ตามหมายเลขโทรศัพท์ 08-91971××× เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงหลายครั้ง แต่ไม่มีผู้รับสาย
ขณะที่ นายสมยศ พรายด้วง สส. เขต 3 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ หรือที่ชาวบ้านรู้จักและเรียกกันว่า “เถ้าแก่ถึก” ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ติดต่อโทรศัพท์เพื่อสอบถามเกีสวกับเรื่องนี้ โดยนายสมยศ พรายด้วง ได้กล่าวว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยบอกสั้น ๆ ว่า
“ชื่อที่ปรากฎเป็นเพียงชื่อเล่น ซึ่งไม่รู้ว่านายถึกเป็นใคร และไม่รู้ว่าเป็นถึกไหน” สส.สมยศ กล่าว