Home » ข่าว » จาก”เจ้าแม่กวนอิม”อายุกว่า100ปีศาลเจ้าแห่งแรกในเมืองหาดใหญ่สู่”องค์พระหินหยกขาว”ใหญ่ที่สุด

จาก”เจ้าแม่กวนอิม”อายุกว่า100ปีศาลเจ้าแห่งแรกในเมืองหาดใหญ่สู่”องค์พระหินหยกขาว”ใหญ่ที่สุด

โรงเจล็อกซ่านถ่องคลองเรียน ที่สร้างในยุค “ขุนนิพัทธ์จีนนคร” โดยแรงศรัทธา และความศักดิ์สิทธิ์ของ “ศาสเจ้าแม่กวนอิมร้อยปี” สมาคมฮากกา หาดใหญ่ ซึ่งได้รับมอบให้ดูแลมาตั้งแต่ปี 2518 ได้บูรณะมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด 15 กันยายน 2566 ได้ทำพิธีประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมหินหยกขาวใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแลนด์มาร์กการท่องเที่ยวใหม่ของเมืองหาดใหญ่

โรงเจล็อกซ่านถ่องคลองเรียน ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ที่บ้านปลักธง ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ชาวบ้านบางส่วนเรียน “ศาลเจ้าแม่กวนอิมร้อยปี” นายวิบูลย์ ลีถารุจิเจริญ อดีตคณะกรรมการบริหารสมาคมอากกาหาดใหญ่ พ.ศ. 2516 – 2543 (27 ปี) บันทึกขณะเป็นเลขานุการมูลนิธิชาวฮากกาจังหวัดสงขลา ที่มีอายุ 65 ปี เมื่อ พ.ศ. 2546 ว่า

โรงเจล็อกช่านถ่อง หรือ “กวนอิมอำ” บ้านคลองเรียน เป็นโรงเจที่ชาวหาดใหญ่ และใกล้เคียงรู้จักกันดี เพราะมีประวัติอันยาวนานกว่า 60 ปี (ขณะบันทึก) มีพุทธศาสนิกชนไปกราบไหว้เจ้าแม่กวนอิม และวัตถุศักดิ์สิทธิ์ ที่โรงเจประจำ

ตามที่ได้ฟังจากผู้อาวุโส เมื่อ 60 ปีก่อนมีพระจีนองค์หนึ่งใช้นามว่า “พระย่องฝ่อไท้ชือ” มาเผยเพร่ศาสนาพุทธที่หาดใหญ่ โดยการแนะนำของ “นายจุงหยุ่ยเซน” ผู้นำชาวฮากกาในสมัยนั้น ได้ติดต่อขอที่ดินของชาวฮากกาภาษาเดียวกัน จัดสร้าง “โรงเจล็อกซ่านถ่องคลองเรียน” ขึ้น เป็นโรงเจเสาไม้มุงหลังคาจาก เพื่อเผยแพร่ศาสนาพุทธ โดยมีวัตถุศักดิ์สิทธิ์องค์เจ้าแม่กวนอิมเป็นที่พึ่งทางใจ

เมื่อมีผู้คนศรัทธามากขึ้น โรงเจหลังเก่าไม่พอที่จะอำนวยความสะดวก จึงมีผู้ที่มีจิตศรัทธารวมตัวเรี่ยไรทรัพย์ขึ้น จัดสร้างเป็นโรงเจหลังใหม่ที่ก่ออิฐมุงกระเบื้อง

ต่อมา พระย่องฝ่อไท้ซือ หรือเจ้าอาวาสโรงเจในสมัยนั้น ได้มรณะภาพลง ภารกิจของโรงเจล็อกซ่านถ่องคลองเรียนได้ตกทอดไปให้ถูกศิษย์ชื่อ “พระจองฉ่าน” และพระจองฉ่านได้ส่งมอบโรงเจล็อกซ่านถ่องคลองเรียนให้แก่ศิษย์ผู้น้องชื่อ “พระจองหวุ่น” สืบต่อเป็นเจ้าอาวาส องค์ที่ 3 และพระจองหวุ่น เจ้าอาวาสโรงเจได้มอบโรงเจล็อกซ่านถ่องคลองเรียน ให้แก่สมาคมฮากกา หาดใหญ่ เมื่อ พ.ศ. 2518

เมื่อสมาคมฮากกา หาคใหญ่ ใด้รับมอบโรงเจล็อกซ่านถ่องคลองเรียนแล้ว ได้แต่งตั้งกรรมการสมาคมเข้าไปดูแล ให้การสนับสนุน อุปถัมภ์โรงเจดังกล่าวมาตลอดจนถึงทุกวันนี้ โดยจัดให้มีเจ้าหน้าที่ประจำเพื่อดูแลรักษาทรัพย์สินโรงเจ และคอยให้ความสะดวกแก่พุทธศาสนิกชนที่มาเยือน จัดให้มีกิจกรรมถือศีลกินเจของวันพระจีน และวันสำคัญของศาสนามาตลอด

สมาคมฮากกาหาดใหญ่ ได้ดูแล และอุปถัมภ์โรงเจล็อกซ่านถ่องคลองเรียนมาจนถึงทุกวันนี้ ระหว่างนั้นสมาคมรับภาระซ่อมแซมและบูรณะโรงเจดังกล่าวหลายครั้ง โดยเฉพาะ เมื่อปี พ.ส. 2534 โรงเจเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่เสียหายทั้งหลัง กรรมการสมาคมฮากกา ได้ร่วมบริจาคทรัพย์ส่วนตัว สมทบด้วยจิตศรัทธาของพุทธศาสนิกชนบางส่วน จัดสร้างโรงเจหลังใหม่ พร้อบด้วยวัตถุศักดิ์สิทธิ์ขึ้นในที่ดินเดิม จนถึงทุกวันนี้

ปัจจุบัน โรงเจล็อกซ่านถ่องคลองเรียน นับเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง และเป็นที่พึ่งทางใจของพุทธศาสนิกชนทั่วไป มีผู้คนมาเยือนเพื่อกราบไหว้วัตถุศักดิ์สิทธิ์ และใช้เป็นสถานที่พักผ่อนประจำ ควรที่จะอนุรักษ์ และพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต

ขณะที่ นายจินต์ รุจิเรืองโรจน์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมฮากกา หาดใหญ่ เล่าว่า ศาลเจ้าแม่กวนอิมล็อกซ่านถ่องคลองเรียน เริ่มสร้างครั้งแรกเมื่อกว่า 100 ปีก่อน โดย “ขุนนิพัทธ์จีนนคร” ผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้างเมืองหาดใหญ่ในยุคนั้น ได้รวบรวมศรัทธาชาวหาดใหญ่ สร้างขึ้น

ต่อมา เมื่อปี 2518 พระที่ดูแลศาลเจ้าได้มอบให้สมาคมฮากกา หาดใหญ่ เป็นผู้ดูแล และได้มีการพัฒนาศาลเจ้าเรื่อยมา จนคณะกรรมการชุดปัจจุบัน ได้มีมติให้สร้างพระโพธิสัตว์กวนอิม ปางประทานพร องค์ใหญ่ที่สร้างจากหินหยกขาว ซึ่งหาได้ยากมาก ใช้หินก้อนเดียว ไม่มีรอยต่อ สูง 8 เมตร นับเป็นหินหยกแกะสลัก ชิ้นเดียวในโลก และฐานดอกบัวสูง 1.9 เมตร รวมความสูง 9.9 เมตร มาประดิษฐาน เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา (ตรงกับวันที่ 1 เดือน 8) และกำหนดให้มีพิธีเบิกเนตรในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 ตรงกับวันที่ 19 เดือน 9 ของจีน

ด้าน ผศ.ดร.พรสรรค์ สันติวรคุณ นายกสมาคมฮากกา หาดใหญ่ กล่าวว่า องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ปางประทานพรนี้สร้างจากหินหยกขาวทั้งแท่ง ความสูง 9.9 เมตร น้ำหนัก 58 ตัน แกะสลักและนำมาจากประเทศไต้หวัน เป็นพระประทานพรองค์ใหญ่หินหยกชิ้นเดียวองค์แรกของโลก เพื่อคุ้มครองหาดใหญ่ และให้นักท่องเที่ยวมาสักการะเพื่อเป็นศิริมงคล

“สมาคมฮากกา หาดใหญ่ ร่วมใจกันสร้างองค์เจ้าแม่กวนอิมหินหยกขาวใหญ่ที่สดในโลก 11 ล้านบาท เพื่อเป็นศิริมงคลของเมือง และให้เป็นแลนด์มาร์กใหม่ทางการท่องเที่ยวหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาด้วย” ผศ.ดร.พรสรรค์ กล่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *