“ผู้ว่าฯสงขลา ผนึกกำลังถกแผนแก้ปัญหายาเสพติดเร่งด่วน เสนอ ใช้” ชุมชนบำบัด”สั่ง 1023 ทำบัญชีรายผู้เสพ ผู้ค้า พร้อมเน้นย้ำทุกหน่วยงานบูรณาการตามข้อเท็จจริง
วันที่ 24 ตุลาคม 2566 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงบลา นายสมนึก พรมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานการประชุมคณะศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดสงขลา ครั้งที่ 1 โดยมี พระอาจารย์ภัตร อริโย รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา และเจ้าอาวาสวัดนาทวี นาย วรณัฐ หนูรอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ นายกอบจ.สงบลา พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา อัยการจังหวัดสงบลา ผู้กำกับสถานนีตำรวจ นายอำเภอ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา และหน่วงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสงบลาได้กล่าวถึง นโยบายของรัฐบาล ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยได้ให้ความสำคัญกับการประสานและบูรณาการความร่วมมือทุกหน่วยงาน ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติในพื้นที่อย่างจริงจัง โดยใช้ชุมชนเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการป้องกัน บำบัดรักษา ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือและอาศัยข้อเท็จจริงในแต่ละพื้นที่ จาก กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและคนในชุมชน อักทั้งยังเน้นย้ำให้แต่ละพื้นที่ต้องสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อส่งเสริมเยาวชนห่างไกลจากยาเสพติด อีกทั้งได้สั่งการให้นายอำเภอ สั่ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านจัดทำบัญชีรายชื่อผู้เสพและผู้ค้ายาทั้ง 1,023 หมู่บ้านในจังหวัดสงขลา โดยเน้นย้ำว่าต้องเป็นข้อมูลที่เท็จจริง เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการแก้ปัญหาให้ตรงจุดต่อไป
“นโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน มีจุดเน้นโดยการส่งเสริมให้คนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม มีบทบาทในการป้องกัน เฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชนมากขึ้น ซึ่งสถานการณ์ยาเสพติดที่ผ่านมา
ในจังหวัดสงขลา พบว่ามีการแพร่ระบาดของยาเสพติดรุนแรงซึ่งการเอาชนะยาเสพติดในระดับหมู่บ้าน/ชุมชน เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องต้องทำให้ประชาชนในพื้นที่มั่นใจที่จะเข้าร่วมแก้ไขปัญหาเป็นอันดับแรก พร้อมทั้งดำเนินมาตรการทุกด้านทั้งการป้องกัน บำบัดรักษา ปราบปราม และพัฒนาประสานสอดคล้องด้วยกลไก “ชุมชมบำบัด” โดยหน่วยงานภาครัฐที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ควบคู่กับพลังภาคประชาชน ร่วมมือกันดูแลสอดส่อง เฝ้าระวัง เพื่อให้ชุมชน กลับมาเข้มแข็งอีกครั้งด้วยมือของคนในชุมชนเพื่อคนในชุมชน และผู้ผลิต/ผู้ค้ายาเสพติดจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจัง” ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวและว่า
“ถึงแม้ว่าในวันนี้ พวกเราจะยังไม่สามารถเอาชนะยาเสพติดได้อย่างเด็ดขาด แต่ถ้าหากพวกเราทุกภาคส่วนร่วมมือกัน ทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน พี่น้องประชาชนทุกคน ช่วยกันคนละไม้คนละมือ เป็นหูเป็นตาช่วยแจ้งเบาะแส โดยเฉพาะครอบครัวซึ่งเป็นระดับที่เล็กที่สุด แต่ก็สำคัญที่สุด ที่ต้องสร้างความอบอุ่น สร้างความรักให้กับลูกหลาน หมั่นจัดกิจกรรมภายในบ้านให้ลูกหลานได้พูดคุย พบปะกับพ่อแม่ปู่ย่าตายาย และยังกำชับ นายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงภาคเอกชนเครือข่ายต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมที่มีส่วนร่วมกับพี่น้องประชาชน เพื่อช่วยกันรังสรรค์กิจกรรมเหล่านี้ขึ้นบ่อย ๆ เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญในปฏิบัติการป้องกันเเละแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากสงขลา” ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าว
/////
