อัยการสงขลา แถลงข้อเท็จจริง พร้อมขอความเป็นธรรม กรณีจดหมายขู่ ฆ่า โดยไม่เชื่อว่ามาจากลูกน้อง”เสี่ยแป้ง” ยันไม่มีศัตรูกับใคร ย้ำไม่เกี่ยวข้องกับ “เสี่ยแป้ง” นักโทษแหกคุกคนสำคัญ พร้อมขอควมมเป็นธรรมต่สื่อมวลชน
จากกรณีการหลบหนีออกจากโรงพยาบาลนครศรีธรรมราช ของนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด อายุ 37 ปี นักโทษชายคนสำคัญ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังเร่งล่าตัวอย่างเต็มที่ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก แต่จนถึงเวลานี้เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถจับตัว”เสี่ยแป้ง”ได้
ล่าสุดเวลา วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ที่สำนักงานอัยการภาค 9
นายเลอศักดิ์ ดุกสุขแก้ว อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 9 รักษาการตำแหน่งอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงสงขลา ออกมาแถลงข่าว ต่อสื่อมวลชน ภายหลังเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา หลังจากที่มีผู้ไม่หวังดีส่งจดหมายมาขู่ฆ่า มายังสำนักงานฯ ซึ่งเนื้อความในจดหมายนั้นเชื่อมโยงกับคดีนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด ผู้ต้องขังที่หลบหนี
โดยนายเลอศักดิ์ ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับ คดี ผู้ต้องขังหนีคดี หรือ ไม่ได้มีความขัดแย้งกับผู้ใด และไม่ได้ปักใจว่า จดหมายข่มขู่นั้น มาจากเรื่องของผู้ต้องขังนดังกล่าว เพราะไม่มีส่วนใดที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับชี้แจงว่าโดยตั้งแต่ปี 2560 จนถึง 2565 ตนรับราชการอยู่ในส่วนกลางเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดคดีของนายเชาวลิต โดยตน เพิ่งย้ายมาทำงานในจังหวัดพัทลุงเมื่อ 1 เมษายน 2565 และย้ายมาจังหวัดสงขลาเมื่อ 1 เมษายน 2566 จึงเห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด แต่การนำเสนอของสื่อนั้น เสมือนเนื้อความในจดหมายนั้นเป็นเรื่องจริง ทำให้เกิดผลกระทบต่อตนเองและองค์กร การเข้าแจ้งความร้องทุกข์นั้นเพราะต้องการที่จะหาตัวผู้กระทำความผิดในการส่งจดหมายมาข่มขู่ผู้รักษากฎหมาย ไม่ได้เป็นเพราะเกรงกลัวอะไร
นายเลอศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเหตุจูงใจนั้นส่วนตัวไม่ได้คิดว่ามาจากคดีของนายเชาวลิต แต่จะเป็นเรื่องใด ไม่ว่าเหตุผลการเบี่ยงเบนประเด็น การสร้างความปั่นป่วน หรือ เกี่ยวข้องกับคดีจริงๆ ก็ขอให้เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ
“ผมเองตกเป็นผู้เสียหายจากการถูกข่มขู่ แล้วยังเป็นเหยื่อจากการนำเสนอข่าวโดยที่ไม่ได้มีความเป็นจริง การนำเสนอของสื่อมวลชนหลายสำนัก มีการเปิดชื่อจริง นามกุลจริง ทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดความเสียหาย ไม่เฉพาะกับตนเอง แต่ยังเสียหายถึงองค์กรอีกด้วย
ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในวันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม 2566 จดหมายข่มขู่ ตนมาทำงานตามปกติ จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ธุรการ พบจดหมายวางอยู่ในตำแหน่งโต๊ะหน้าห้อง เยื้องห้องทำงานตนเอง ซึ่งเป็นโต๊ะเสนอสำนวน เป็นกระดาษเอ 4 พับ เย็บด้วยลวดเย็บกระดาษ เรียนคุณปาน ถ้ามีหนังสือโต้ตอบระหว่างหน่วยงาน ต้องเป็นทางการ แต่ลักษณะการส่งแบบนี้ ทำให้ผู้พบเห็นว่ามีเหตุไม่ปกติ เจ้าหน้าที่ตกใจเอาซองจดหมายมาให้ดู จึงได้เปิดเผยกับน้องๆ เดินมาในห้องธุรการ เปิดจดหมายอ่านด้วยการข้อความ ในจดหมายรับทราบกันหมด โดยมองว่า เอกสารนั้น จะเป็น เอกสารจริง เท็จ มือที่สาม สร้างความปั่นป่วน หรือใส่ร้าย เบี่ยงเบนประเด็น ใด ๆ เราก็ไม่ใช่เอกสารจริง จะสันนิษฐานว่าเสี่ยวแป้งหรือลูกน้องทำมาก็ไม่ได้คิดอย่างนั้น เนื้อความก็ไม่จริง ซึ่งจริงๆ ยังโสดอยู่ เดี๋ยวพาดพิงอัยการท่านอื่น ฝากสื่อไว้นิด เข้าใจในการทำงานแต่การที่เอาเนื้อความที่ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ เอาเนื้อความตามนั้นไปเสนอสื่อทำให้เห็นว่าเกิดการข่มขู่จริง เนื้อหาการข่มขู่ ลักษณะสื่อไป กลายเป็นคนฟัง กลายว่าตนเองเป็นคนทำผิด” นายเลอศักดิ์ กล่าว
/////