ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาประชุมร่วมกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ เตรียมการการเยือนด่านสะเดาของนายกรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เผยการเดินทางเยือนด่านสะเดาของนายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อผลักดันโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่ – บูกิตกายูฮิตัม ให้มีผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
เวลา 13.30 น. วันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมพระนิกรบดี ชั้น 2 อาคารที่ทำการด่านสะเดาแห่งใหม่ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานการประชุมเตรียมการการเยือนด่านสะเดาของนายกรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในเดือนพฤศจิกายน 2566
ร่วมด้วย นายมาหะมะพีสกรี วาแม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา, นายเผดิมเดช มั่งคั่ง นายด่านศุลกากรสะเดา
พร้อมนายวรพันธุ์ ศรีวรนารถ รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะฝ่ายเลขานุการของการประชุม รายงานที่ประชุมทราบเรื่องผลการเยือนอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี วันที่ 11-12 ตุลาคม 2566
รายงานที่ประชุมโดย นางสาวจณา สินธวานนท์ ผู้อำนวยการกองเอเชียตะวันออก 1 กรมเอเชียตะวันออก เรื่องผลการเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี
1.ด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน : ผู้นำทั้งสองเห็นว่า ไทยและมาเลเซียสามารถมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นระหว่างกันได้มากว่านี้ โดยในด้านการค้า ทั้งสองฝ่ายเห็นควรให้ตั้งเป้าหมายมูลค่าการค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้น และมีแผนการดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมและชัดเจน
2.ด้านการท่องเที่ยว : นายกรัฐมนตรีเห็นควรให้เพิ่มตัวเลขนักท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยให้กำหนด แผน ตัวเลข และยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน นอกจากนี้ ฝ่ายไทยเห็นควรให้อำนวยความสะดวกในการข้ามแดนเพื่อให้ประชาชนไปมาหาสู่กันสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งฝ่ายมาเลเซียแจ้งว่า มาเลเชียจะรวมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการข้ามแดนให้เป็นหน่วยงานเดียว (1 single agency) เพื่ออำนวยความสะดวกในการข้ามแดน
3.ด้านความเชื่อมโยงชายแดน : ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้เร่งรัดโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานชายแดน ได้แก่ (1) ถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย และ (2) สะพานสุไหง โก-ลก – รันเตาปันจัง แห่งที่ 2 เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อประชาชนมากที่สุด
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้เชิญนายกรัฐมนตรีมาเลเซียไปสำรวจชายแดนร่วมกันที่ด่านสะเดา ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 ซึ่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเห็นพ้อง โดยจะพิจารณากำหนดการอีกครั้งหนึ่ง
4.ด้านการผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคี : ทั้งสองฝ่ายเห็นควรให้จัดตั้งคณะทำงาน (Task Force) ในด้านต่าง ๆ ดังนี้ (1) ด้านการค้าชายแดน และการค้าการลงทุน (2) ด้านการเกษตร อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมฮาลาล (3) ด้านการท่องเที่ยว และ (4) ด้านความมั่นคง
ทั้งนี้การเดินทางเยือนด่านสะเดาร่วมกันในครั้งนี้เป็นไปตามการหารือของผู้นำทั้งสอง โดยนายกรัฐมนตรีได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเดินทางมาพบหารือที่ที่ทำการด่านสะเดาภายใน 1 เดือน เพื่อติดตามประเด็นต่าง ๆ ที่ได้มีการหารือให้มีผลเป็นรูปธรรม ซึ่งในชั้นนี้อยู่ระหว่างการประสานงานหาวันสะดวกที่ตรงกัน
การเดินทางเยือนด่านสะเดาของนายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อผลักดันโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่ – บูกิตกายูฮิตัม ให้มีผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ประเด็นสำคัญในการประชุมหารือวันนี้คือ การรับทราบความคืบหน้าและกรอบเวลาในการก่อสร้าง รามทั้งประเด็นปัญหาอุปสรรค พร้อมแนวทางการแก้ไขของทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายมาเลเซีย เพื่อให้นายกรัฐมนตรีสามารถนำไปผลักดันกับฝ่ายมาเลเซียต่อไป
/////////////////////////////////////////////
สำนักข่าวโฟกัส
สมชาย สามารถ