โครงการก่อสร้างสะพานหรืออุโมงค์ลอดทะเลสาบสงขลา เชื่อม 2 อำเภอที่เริ่มสมัยลุงตู่ ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญกรมทางหลวงชนบทลงพื้นที่ศึกษาความเหมาะสม คาดสิ้นเดือนธันวาคมรู้ผล ขณะที่ผลสำรวจประชาชนกว่า 40,000 สนับสนุน
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ที่ห้องประชุม CEO ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายวีรเดช ชีวาพัฒนานุวงศ์ วิศวกรใหญ่ด้านสำรวจและออกแบบ กรมทางหลวงชนบท ลงพื้นที่พร้อมคณะทำงาน เพื่อร่วมประชุมกับคณะทำงานศึกษาความเหมาะสมในเบื้องต้นสำหรับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา หรืออุโมงค์ลอดทะเลสาบ บริเวณท่าแพขนานยนต์สงขลา เพื่อเชื่อมต่ออำเภอเมืองสงขลากับอำเภอสิงหนคร โดยมี นายทศ ฤทธิรงค์ คณะทำงานนายเจือ ราชสีห์ พร้อมเครือข่ายภาคประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
ที่ประชุมได้มีการนำเสนอข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับโครงการ เช่น ปริมาณการจราจรในพื้นที่, การให้บริการของแพขนานยนต์, สภาพเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว และจำนวนประชากรในอำเภอเมืองสงขลา และอำเภอสิงหนคร รวมถึงข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง และโครงการพัฒนาต่าง ๆ ในพื้นที่ศึกษา
ขณะที่ นายสุรสิทธิ์ ศรีอินทร์ รองนายก อบจ.สงขลา กล่าวถึงผลการให้บริการแพขนานยนต์ของ อบจ.สงขลา ว่า ล่าสุดอบจ.มีแพขนานยนต์ให้บริการข้ามฟากทะเลสาบสงขลา ระหว่างอ.เมืองสงขลากับ อ.สิงหนคร จำนวน 5 ลำ เฉลี่ยวิ่งวันละ 250 เที่ยว จำนวนรถที่ใช้บริการ แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ วันละ 500 คัน จักรยายนต์พ่วงข้าง วันละ 400 คัน รถยนต์สี่ล้อ วันละ 3,800 คัน
“ถ้าคิดเป็นจำนวนประชากรที่ใช้บริการเฉลี่ยวันละ ประมาณ 2 หมื่นคน รายได้เฉลี่ยปีละ 35 ล้านบาท ส่วนรายจ่ายปีละ 69 ล้านบาท โดยแต่ละปี อบจ.สงขลาขาดทุนเกือบ 35 ล้านบาท”
ผศ.ดร.ชลัท ทิพากรเกียรติ นักวิชาการคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เผยว่า ได้สำรวจความเห็น ความต้องการของประชาชนต่อกรณีนี้ ที่เน้นข้อมูลทางวิชาการ ทำอย่างรอบด้าน ซึ่งผลจากการสำรวจความเห็นรูปแบบก่อสร้าง ร้อยละ 57 คิดว่าควรจะเป็นรูปแบบสะพาน ร้อยละ 27 เป็นอุโมงค์ลอด ส่วนที่เหลือ เสนอให้ปรับปรุงการบริการแพขนานยนต์
ผลประโยชน์ที่จะได้รับหากมีการก่อสร้างโครงการ ส่วนใหญ่เห็นว่า การสัญจรจะสะดวกมากขึ้น และ การท่องเที่ยวจะดีขึ้น แต่ก็มีความกังวลในเรื่องผลกระทบระหว่างการก่อสร้างที่อาจจะใช้เวลาระยะหนึ่ง รวมถึงกังวลผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และวิถีชาวประมง
“ประชาชนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 เห็นว่า การดำเนินโครงการนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน”
ด้าน นายวีรเดช ชีวาพัฒนานุวงศ์ วิศวกรใหญ่ด้านสำรวจและออกแบบ กรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า ในขณะนี้ได้มีทีมงานเข้ามาเก็บข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงลงพื้นที่ทั้ง 2 อำเภอ เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาประมวลร่วมกัน ซึ่งเป็นการเริ่มต้นในการศึกษาความเป็นไปได้
“จะศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้น ทั้งในรูปแบบสะพาน และอุโมงค์ลอดทะเลสาบว่าแบบไหน มีความเป็นไปได้หรือไม่” นายวีรเดช กล่าว และว่า
ภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ จะสามารถสรุปได้ว่า ผลการศึกษาออกมาอย่างไร โดยยืนยันว่า การศึกษาความเหมาะสม ความเป็นไปได้นั้น จะเน้นข้อมูลจากทุกส่วนมาประกอบกัน ซึ่งจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ เป็นหลัก
นายวีรเดช กล่าวด้วยว่า การผลักดันโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบหรืออุโมงค์ลอดทะเลสาบสงขลา มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องเดินทางระหว่างอำเภอเมืองสงขลาและอำเภอสิงหนครให้มีความสะดวกสบายและรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้ง ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจังหวัดสงขลาให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา หรืออุโมงค์ลอดทะเลสาบ บริเวณท่าแพขนานยนต์สงขลา เพื่อเชื่อมต่ออำเภอเมืองสงขลากับอำเภอสิงหนคร ซึ่งได้ริเริ่มโดยมีประชาชนยื่นหนังสือต่อนายเจือ ราชสีห์ อดีต สส.สงขลา สมัยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางลงพื้นที่ เพื่อสำรวจความเหมาะสม
เบื้องต้น โดยจังหวัดสงขลาได้แต่งตั้งคณะทำงานระดับจังหวัด ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะทำงาน และได้มีการสอบถามความต้องการของประชาชน พบว่ามีรายชื่อมากกว่า 4 หมื่นราย ที่เห็นด้วย และต้องการให้มีเส้นทางเชื่อมทะเลสาบสงขลา เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการข้ามฟากทะเลสาบสงขลา ซึ่งเดิมนั้นต้องใช้บริการแพขนานยนต์ข้ามฟากที่ให้บริการโดย อบจ.สงขลา ที่บางครั้งประสบปัญหาความล่าช้า แพเสียกะทันหัน ทำให้ต้องรอคิวเป็นเวลานาน ส่งผลกระทบทั้งการเรียนและการทำงาน จึงมีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลสร้างสะพานหรืออุโมงค์ลอดทะเลสาบสงขลา เพื่อแก้ปัญหาการสัญจร ระหว่างอำเภอสิงหนครมายังอำเภอเมืองสงขลา และเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ทางการท่องเที่ยวด้วย
