Home » ข่าว » “พีระพันธุ์”ช่วยน้ำท่วมสงขลา ติดตามความคืบหน้าคลอง ร.1ระยะ2

“พีระพันธุ์”ช่วยน้ำท่วมสงขลา ติดตามความคืบหน้าคลอง ร.1ระยะ2

วันนี้ (6 ธันวาคม 2567) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยนายชื่นชอบ คงอุดม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดสงขลา 

มีนางคณิตา ราษฎร์นุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกอบจ.สงขลา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมร่วมให้การต้อนรับและรายงานสถานการณ์ในพื้นที่ ณ คลองภูมินาถดำริ (คลอง ร.1) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

นางคณิตา ราษฎร์นุ้ย กล่าวว่า จังหวัดสงขลาได้รับผลกระทบจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและหย่อมความกดอากาศต่ำในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 ทำให้เกิดน้ำท่วมใน 16 อำเภอ ครอบคลุม 125 ตำบล และ 949 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 715,705 คน และมีผู้เสียชีวิต 10 ราย สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชน 207 หลัง พื้นที่เกษตรกรรมกว่า 306,000 ไร่ รวมถึงประมงและปศุสัตว์ 

ขณะที่ ถนน สะพาน วัด และสถานศึกษาในพื้นที่ต่าง ๆ ก็ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระที่ยังเผชิญปัญหาการระบายน้ำล่าช้าจากการหนุนสูงของน้ำทะเล

ด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัย จังหวัดสงขลาได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ทั้งในระดับจังหวัดและระดับพื้นที่ เพื่อประสานงานระหว่างหน่วยงานราชการและองค์กรต่าง ๆ รวมถึงการระดมสรรพกำลังจากทหาร ตำรวจ มูลนิธิ และอาสาสมัครในการให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยการจัดตั้งโรงครัวพระราชทานเพื่อแจกจ่ายอาหาร พร้อมถุงยังชีพและน้ำดื่มให้แก่ผู้ประสบภัย รวมทั้งการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการจัดการขยะและสิ่งปฏิกูลอย่างเป็นระบบ เพื่อให้พื้นที่ได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว

ด้าน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กล่าวว่า รัฐบาลให้ความห่วงใยและมุ่งมั่นในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยในจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตตรวจราชการที่ 5 โดยได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ลงพื้นที่ร่วมกับคณะทำงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามการช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบให้กลับสู่สภาพปกติอย่างเร่งด่วน ควบคู่กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยในระยะยาวอย่างยั่งยืน

รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงมาตรการการบรรเทาความเดือดร้อนจากอุทกภัย ซึ่งกระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด เช่น กลุ่ม ปตท. และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะการจัดการด้านน้ำมันและแก๊สที่อาจขาดแคลน รวมถึงการดูแลระบบไฟฟ้า โดยมีการประสานงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือโดยเร็ว 

“กรณีขาดแคลนไฟฟ้าในบางพื้นที่ กระทรวงพลังงานได้ใช้โซลาร์เซลล์เป็นทางเลือกชั่วคราว พร้อมทั้งได้กำหนดแนวทางในการปรับปรุงระบบขนส่งน้ำมันและแก๊สให้เป็นแบบท่อส่ง เพื่อลดความเสี่ยงจากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่หวังบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้มากที่สุด”

จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีได้ติดตามความคืบหน้าของโครงการระบายน้ำหาดใหญ่ ระยะที่ 2 ซึ่งดำเนินการโดยกรมชลประทาน ที่มีเป้าหมายในการเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำในคลองระบายน้ำ ร.1 จาก 465 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งโครงการมีความคืบหน้าแล้วกว่า 92% และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี2568 ซึ่งจะช่วยลดระดับความเสียหายจากอุทกภัยช่วงฤดูฝนในพื้นที่เศรษฐกิจของอำเภอหาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงเป็นแหล่งเก็บกักน้ำสำรองในช่วงฤดูแล้ง

ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้พบปะพูดคุยและมอบถุงยังชีพของบริษัท ป.ต.ท. อก่ประชาชนในพื้นที่ตำบลท่าช้างอำเภอบางกล่ำ 500 ชุด และมอบถุงยังชีพจากกฟผ.ให้แก่ตัวแทนนายอำเภอหาดใหญ่ 300 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคประชาชนในการฟื้นฟูพื้นที่และการลดผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยในอนาคตอย่างยั่งยืน

 #น้ำท่วมสงขลา

 #คลองร1

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *