16 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมคริสตัล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพ Nurse case manager คลินิกส่งเสริมการมีบุตร
ดร.นพ.ปองพล วรปาณิ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวรายงาน พร้อมผลักดันส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพ เป็นวาระแห่งชาติว่า ขณะนี้มีคลินิกส่งเสริมการมีบุตรในโรงพยาบาลสังกัด สธ. 901 แห่ง เดินหน้าพัฒนา Nurse case manager ให้ทุกคลินิกมีคุณภาพ
ขณะที่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ประเทศไทยประสบปัญหาเด็กเกิดน้อยมาอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลสถิติสาธารณสุข ปี2565 พบว่า มีเด็กเกิดใหม่เหลือเพียง 485,085 ราย ต่ำที่สุดในรอบกว่า 70 ปี และจำนวนการเกิดน้อยกว่าการตายเท่ากับว่า จำนวนประชากรของไทยลดลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน นับจากปี 2564
ทั้งยังพบว่า อัตราเจริญพันธุ์รวม (หรือค่า TFR : Total Fertility Rate) ของประเทศไทยลดลงเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้มากคือ เหลือเพียง 1.08 ซึ่งต่ำกว่าระดับทดแทนและมีแนวโน้มที่จะลดลงอีก
หากประเทศไทยไม่มีการออกมาตรการเพื่อส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพ จำนวนประชากรที่ลดลง อาจหมายถึงจำนวนแรงงานที่น้อยลง ซึ่งส่งผลเสียต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการของประเทศ การกระตุ้นเศรษฐกิจทำได้ยากขึ้น ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน การจัดเก็บภาษีรายได้ที่ลดลง ภาระทางด้านสาธารณสุขที่เพิ่มขึ้น
“ปัญหาความมั่นคงในด้านต่าง ๆ ของประเทศ และการเพิ่มขึ้นของอัตราการพึ่งพิง หรือภาระของประชากรวัยทำงานจะเพิ่มขึ้น และก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์” รมช.สธ. กล่าว และว่า
ปัจจุบัน กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดตั้งคลินิก ส่งเสริมการมีบุตรในโรงพยาบาลสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ครบทั้ง 901 แห่ง โดยมีโรงพยาบาลที่จัดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IUI (การฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก) 83 แห่ง ใน 58 จังหวัด และโรงพยาบาลที่มีศักยภาพในการให้บริการ IVF (การใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์) 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลหาดใหญ่ จ.สงขลา โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จ.นครราชสีมา และโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี
จากนั้น คณะฯ ได้ร่วมลงพื้นที่เยี่ยมติดตามการดำเนินงานคลินิกส่งเสริมการมีบุตรคุณภาพ โรงพยาบาลหาดใหญ่ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีความพร้อมมากที่สุดในการให้คำปรึกษา ตรวจสุขภาพ และส่งเสริมการมีบุตรคุณภาพ มีการดำเนินงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 มีหน่วยเทคโนโลยีช่วยส่งเสริมการเจริญพันธุ์ ที่สามารถเป็นต้นแบบให้กับโรงพยาบาลอื่นๆ ได้อีกด้วย และได้เยี่ยมชมการให้บริการของโรงพยาบาลหาดใหญ่ ได้เห็นถึงความคับแคบของพื้นที่ในการรองรับผู้ป่วยใน เพื่อนำข้อมูลไปสะท้อนให้เกิดการผลักดันโครงการก่อสร้าง โรงพยาบาลหาดใหญ่ 2 ให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุดต่อไป
