นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา ลงพื้นที่สำรวจตลาดสินค้าประเทศมาเลเซีย หลังจากมีการปรับราคาน้ำมัน พบว่าสินค้าส่วนใหญ่ยังไม่มีการปรับราคา สาเหตุภาคขนส่งมาเลเซียยังอุ้มในราคาเดิมคือลิตรละ 16 บาท ทำให้ราคาสินค้าในมาเลเซียไม่ปรับตัวสูงขึ้น
ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา โพสเฟซบุ๊กส่วนตัว การเดินทางสำรวจสินค้าในประเทศมาเลเซีย หลังจากมีการปรับราคาน้ำมัน โดยมีข้อความว่า
หลายคนบ่นกันว่าเดือนนี้เป็นช่วงที่ไทยของแพงรับน้ำมันแพง จริงหรือไม่ท่านลองตัดสินกันดู
แต่วันนี้ผมจะขอพาทุกท่านไปสำรวจสถานการณ์ในมาเลเซียที่มีการปรับราคาน้ำมันจนแพงมากแต่ทำไมของยังไม่ขึ้นตามราคาน้ำมัน
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา มาเลเซียตัดสินใจปล่อยน้ำมันดีเซลลอยตัวขึ้นราคาประมาณ 56% จากลิตรละ 16 บาท เป็นลิตรละ 26 บาท รัฐบาลบอกกล่าวชาวบ้านล่วงหน้าเพียงไม่กี่วัน ประชาชนไม่ทันตั้งตัว ผมเลยขอโอกาสเข้าไปสำรวจสถานการณ์ราคาสินค้าในมาเลเซียเป็นอย่างไรบ้าง
จากการปรับขึ้นค่าน้ำมันสูงถึง 10บาท/ลิตร ของจะแพงขึ้นหรือไม่ ไปดูกัน
ผมเดินทางไปที่จังโหลนไม่ไกลจากประเทศไทยครับ
ไปห้าง C Mart ใกล้ๆด่านพรมแดนสะเดา ไปสำรวจราคาสินค้าตั้งแต่มาม่ายันของใช้ในบ้าน ปรากฎว่าของส่วนใหญ่ยังไม่ปรับขึ้นราคา มิวายมาม่าที่ผมซื้อประจำยังจัดโปรลดราคาเข้าไปอีก ไปสอบถามคนในมาเลเซีย ว่าทำไมน้ำมันดีเซลขึ้นสูงมากแต่ราคาสินค้าไม่ปรับขึ้นเลย ก็ได้คำตอบมาว่า
มาเลเซียปล่อยราคาน้ำมันลอยตัวเฉพาะรถยนต์ทั่วไป
แต่รถภาคขนส่งมาเลเซียยังอุ้มในราคาเดิมคือลิตรละ 16 บาท ทำให้ราคาสินค้าในมาเลเซียไม่ปรับตัวสูงขึ้น ประชาชนเลยไม่ได้รับผลกระทบด้านราคาสินค้า
ในขณะที่บ้านเราการปรับราคาน้ำมันขึ้นจะสัมพันธ์กับการปรับขึ้นราคาค่าขนส่งจนไปถึงราคาสินค้า เพราะการปรับราคาน้ำมันดีเซลของเราปรับขึ้นทั้งหมด ไม่ได้อุ้มภาคขนส่ง
จริงๆแนวคิดนี้ผมคิดว่าเป็นตัวอย่างที่ดีหากเราจะนำไปปรับใช้กับการอุ้มราคาน้ำมันในบ้านเราบ้าง เพราะตอนนี้ค่าขนส่งจ่อขึ้นตามราคาน้ำมันดีเซล ราคาสินค้าหลายรายการปรับขึ้น จนคนหาเช้ากินค่ำ เริ่มลำบากขึ้น
ป้าข้างบ้านถึงกับบ่นว่า ระหว่างรอดิจิตอลวอลเล็ท ขอคนละครึ่งมาช่วยก่อนได้มั้ย ของมันแพงเหลือเกิน
ราคาสินค้าที่ปรับขึ้นนี้ผมก็ยังไม่รู้สาเหตุหลักๆคือมาจากค่าขนส่งหรืออะไร ทำไมทยอยปรับขึ้นหลายรายการ ส่งผลให้ต้นทุนต่างๆปรับขึ้นไปหมด แต่ค่าแรงยังไม่ปรับ กลายเป็นเรื่องให้กลุ้มใจที่วันนี้มีเงินเท่าเดิม แต่หาของกินได้น้อยกว่าเดิม และหากตุลาคมนี้มีการปรับขึ้นค่าแรง 400 บาทเริ่มใช้ทั่วไทยพร้อมกัน เราคงจะเห็นราคาสินค้าปรับขึ้นอีกครั้งเป็นแน่แท้
ทางที่ดีหากเมืองไทยเราอุดหนุนดีเซลให้ภาคขนส่ง ควบคุมราคาสินค้า ปรับค่าแรงไปตามบริบทของแต่ละจังหวัด
เร่งสปีดทำให้รายจ่ายชาวบ้านลดลง รายได้เพิ่มตามกลไก
ชาวบ้านก็คงจะหายใจสะดวกขึ้น มีเงินเก็บมากกว่านี้

#เรื่องนี้ไม่มีการเมืองมีแต่ความเป็นห่วง
#ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา
//////////////////


