การท่องเที่ยวปีนัง Penang Global Tourism จัดกิจกรรม“EXPERIENCE PENANG NETWORKING SESSION IN HATYAI” เพราะปีนังมีอะไรมากกว่าที่คุณรู้ ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เชื่อมเครือข่ายผู้ประกอบการท่องเที่ยวชายแดนไทย-มาเลเซีย จัดเวทีผู้ประกอบการทั้งสองประเทศเจรจาธุรกิจ

วันที่ 8 เมษายน 2568 ณ ห้องดุสิตา ชั้น 8 โรงแรมนิวซีซั่นสแควร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา การท่องเที่ยวปีนังPenang Global Tourism นำโดย Mrs Nurul Ain Mohammed Yunus, Director, Tourism Malaysia Bangkok,
YB Wong Hon Wai (Penang State EXCO for Tourism & Creative Economy), Mr Ooi Chok Yan ,CEO Of Penang Global Tourism (PGT)
Dato Tony Goh Chairman of the Malaysian Association of Hotels (MAH) Chapter of Penang พร้อมด้วยผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวปีนัง จำนวน 25 ราย
จัดกิจกรรม “EXPERIENCE PENANG NETWORKING SESSION IN HATYAI” เพราะปีนังมีอะไรมากกว่าที่คุณรู้โดยมีผู้ประกอบการนำเที่ยวและโรงแรมจังหวัดสงขลาและสตูลเข้าร่วม จำนวน 76 ราย
พร้อมตัวแทนภาครัฐและเอกชนจังหวัดสงขลา ประกอบด้วย นายพีระพงษ์ บุญเลิศ ตัวแทน ส.ส. ศาสตรา ศรีปาน,ดร.อับดลรอหมาน กาเหย็ม ที่ปรึกษา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา
นายทรงพล จังศิริวัฒนธำรง ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา,นายสมพล ชีววัฒนาพงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัด, นางสาวจิราลักษณ์ ผดุงภักดีวงศ์, ประธานชมรมไทยธุรกิจบริการภาคใต้ตอนล่าง

ซึ่งนายพีระพงษ์ บุญเลิศ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ผู้แทนนายศาสตรา ศรีปาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร เขต 2 จังหวัดสงขลา กล่าวต้อนรับว่า
และในนามของจังหวัดสงขลา ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งาน Experience Penang Networking Session Hatyai ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง
งานในวันนี้นับเป็นเวทีสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสงขลาและปีนัง ผ่านการพบปะ แลกเปลี่ยนแนวคิด และสร้างเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของทั้งสองภูมิภาค
และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรม B2B ในครั้งนี้ จะนำไปสู่ความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม และก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันในด้านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว และการส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค
Mrs Nurul Ain Mohammed Yunus, Director, Tourism Malaysia Bangkok กล่าวว่า การท่องเที่ยวระหว่างชายแดนไทยกับมาเลเซียมีมาอย่างยาวนานต่อเนื่อง โดยล่าสุดเติบโตขึ้นมา 87 เปอร์เซ็นต์
โดยปีที่ผ่านมามีคนไทยที่เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในประเทศมาเลเซียประมาณ 1.6 ล้านคน เนื่องจากประเทศไทยมีชายแดนติดกับประเทศไทย
เพราะฉะนั้นสิ่งที่อยากจะเห็นสำหรับกิจกรรมในวันนี้ก็คือ ให้คู่ค้าและสื่อมวลชนได้กันช่วยกันสร้างเครือข่ายนี้ให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น ทำหน้าที่กระจายข่าวสารประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศให้เข้มแข็งและยาวนาน
YB Wong Hon Wai (Penang State EXCO for Tourism & Creative Economy) กล่าวว่า จำนวนคนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวยังปีนังค่อนข้างสูง และนอกเหนือจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากแล้ว ก็ยังมีความหลงใหลในวัฒนธรรมไทย อย่างเช่น เทศกาลสงกรานต์ ลอยกระทง
โดยจัดให้มีกิจกรรมด้วยการปิดถนนบางสายเพื่อที่จะให้คนไทยและต่างชาติ รวมถึงชาวมาเลเซียในปีนังเองได้ร่วมกิจกรรมกันได้อย่างเต็มที่
รวมถึงชื่อของถนนในรัฐปีนัง ก็มีการตั้งชื่อถนนอย่างเช่น แบงก์คอกเลน หรือสยามโรดส์ และสถาปัตยกรรมที่เป็นรูปทรงไทยเยอะแยะ เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านเคยไปท่องเที่ยวบ้างและสุดท้ายอยากให้ทุกท่านได้ทราบว่าปีนังมีอะไรมากกว่าที่คุณรู้
นายทรงพล จังศิริวัฒนธำรง ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ในนามของหอการค้าจังหวัดสงขลารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับทุกท่านสู่เมืองหาดใหญ่ในวันนี้
ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เราได้ดำเนินการสร้างความเชื่อมโยงทางธุรกิจระหว่างสงขลาและปีนังอย่างต่อเนื่อง ผ่านการแลกเปลี่ยนเยือนระหว่างกัน ทั้งการต้อนรับคณะจากปีนังที่มาสงขลา และการเดินทางไปเยี่ยมเยือนปีนัง
ซึ่งความร่วมมือเหล่านี้เกิดขึ้นได้ด้วยความสนับสนุนจาก คุณรัชฎา จิวาลัย อดีตกงสุลใหญ่ไทย ณ เมืองปีนัง ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสองเมืองของเรา
“จากประสบการณ์เหล่านี้ เราได้รู้จักและเข้าใจเมืองปีนังในฐานะที่ไม่ใช่แค่เพียงเพื่อนบ้านใกล้ชิด แต่เป็นเมืองที่เปี่ยมด้วยวัฒนธรรมและศักยภาพทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง และวันนี้เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต่อยอดความสัมพันธ์นี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เรามองเห็นโอกาสในการร่วมมือระหว่างสองเมืองของเราอย่างชัดเจน”
โดยเฉพาะในด้านต่าง ๆ ดังนี้ ด้านการท่องเที่ยว การร่วมกันพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวข้ามพรมแดน ที่สะท้อนอัตลักษณ์ร่วมกันทั้งด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ด้านการศึกษา การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาทั้งสองฝั่ง เพื่อเปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนด้านภาษาและวัฒนธรรม
ด้านการส่งเสริมภาพลักษณ์เมือง จังหวัดสงขลาอยู่ในระหว่างกระบวนการเสนอชื่อเป็นเมืองมรดกโลกของยูเนสโก โดยพื้นที่ “สงขลาและชุมชนที่เกี่ยวเนื่องริมทะเลสาบสงขลา” ได้รับการบรรจุอยู่ใน บัญชีรายชื่อเบื้องต้น(Tentative List) แล้วอย่างเป็นทางการ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของเราในการผลักดันให้เมืองสงขลาได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการเสนอชื่อ เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโก (UNESCO Creative City of Gastronomy) ซึ่งเปิดโอกาสอย่างมากในการเรียนรู้จากประสบการณ์ของปีนัง และการร่วมกันประชาสัมพันธ์เมืองของเราสู่สายตาโลก หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการพบปะในวันนี้ จะนำไปสู่ความร่วมมือที่ยั่งยืนและเกิดเป็นโครงการที่เป็นรูปธรรมระหว่างชุมชนธุรกิจของเราทั้งสองฝั่ง
นายอับดลรอหมาน กาเหย็ม ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือที่น่าสนใจระหว่างสองพื้นที่สำคัญคือ จังหวัดสงขลา และรัฐปีนัง โดยเฉพาะในมิติของการท่องเที่ยว
ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และมิตรภาพระหว่างประเทศ จังหวัดสงขลาเป็นเมืองที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ด้วยความงดงามของทะเลสองฝั่ง วัฒนธรรมที่หลากหลาย และอาหารพื้นเมืองที่อร่อยไม่แพ้ที่ใด
ในขณะที่รัฐปีนังก็เป็นเมืองมรดกโลกที่เต็มไปด้วยศิลปะ สถาปัตยกรรม และสีสันของวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างมาเลย์ จีน และยุโรป
สองพื้นที่นี้มีความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด เช่น ในปีที่ผ่านมา จังหวัดสงขลาได้จัดงาน “Songkhla MICE City Roadshow” ที่เมืองปีนัง เพื่อแนะนำศักยภาพด้านการจัดประชุม สัมมนา และนิทรรศการ หรือ MICE โดยมุ่งหวังดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงธุรกิจจากมาเลเซียมาสู่สงขลา
นอกจากนี้ยังมีโครงการส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวข้ามพรมแดนที่เรียกว่า Self-Drive Tourism หรือเส้นทางขับรถด้วยตนเอง โดยนักท่องเที่ยวสามารถขับรถจากปีนังเข้าสู่สงขลา และเดินทางต่อไปยังหาดใหญ่ พัทลุง และจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ของไทย เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยงที่ตอบโจทย์ยุคใหม่
ความร่วมมือนี้ยังขยายสู่การพัฒนาเครือข่ายท่าเรือ การท่องเที่ยวทางทะเล และโครงการฝึกอบรมบุคลากรด้านการท่องเที่ยวร่วมกันระหว่างหน่วยงานทั้งสองประเทศ สิ่งที่น่าชื่นชมคือ ความร่วมมือเหล่านี้ไม่เพียงส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยว แต่ยังสร้างความเข้าใจและสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนสองฝั่งชายแดน เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้การท่องเที่ยวเป็นสะพานแห่งมิตรภาพและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
////////////////////
สำนักข่าวโฟกัส
สมชาย สามารถ