“ทนายจักริน” นำคณะร่วมแถลงกรณีที่ปรากฎคลิปเจ้าอาวาสวัดเกาะเสือ หาดใหญ่
ทำร้ายพระลูกวัด ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลาน ที่โยมแม่นำมาฝากให้ช่วยดูแล เผยเจ้าอาวาสจะเปิดเผยทุกกรณีหลังจบคดีที่ศาล

19 กันยายน 2568 ณ ที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่
นายจักริน พวงรัตน์ หัวหน้าทีมทนายความของเจ้าอาวาสวัดเกาะเสือ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมคณะฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีที่ปรากฎคลิปข่าวเจ้าอาวาสวัดเกาะเสือ ทำร้ายร่างกายพระลูกวัด
นายจักริน เล่าว่า มารดาของพระที่ถูกทำร้ายกับเจ้าอาวาสเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เป็นญาติกัน ซึ่งทางพระที่ถูกทำร้ายเพิ่งออกมาจากสถานที่บำบัดสารเสพติด จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมารดาของพระที่ถูกทำร้ายได้นำมาฝากให้พระต่อเจ้าอาวาสทำการบวชให้
เจ้าอาวาส จึงทำการบวชให้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 โดยไม่ได้เป็นพระบวชใหม่หรือเพิ่งบวชตามที่กระแสข่าว
หลังจากที่บวชเสร็จก็ได้จำวัดอยู่ตลอดมา ทางเจ้าอาสได้สอดส่องดูแล เนื่องจากมารดาและยายของพระที่ถูกทำร้ายบอกว่า ต้องช่วยดูแลให้หน่อย
กวดขันดูแลให้เป็นพิเศษ เพราะว่ากลัวพระจะไปมั่วสุ่มหรืออาจจะออกไปเสพสารเสพติดได้
ในการดูแลทางมารดาได้ทำการโทรมาหาทางเจ้าอาวาสเกือบทุกวัน และเจ้าอาวาสเวลานั่งทำวัดเช้าหรือทำวัดเย็น ได้มีการสังเกตุโดยถือว่าเป็นหลานและเป็นอุปฌาชย์ แต่ก็ดูแลกันหมดทุกองค์ โดยจะทำการถ่ายภาพให้ทางมารดาของพระที่ถูกทำร้ายเป็นประจำ
“มารดาของพระที่ถูกทำร้ายจะรู้ว่าหน้าตาของบุตรของตัวเองเป็นลักษณะแบบนี้ มีการเสพสารเสพติดมาบ้างหรือไม่ และจะบอกอาจารย์ทุกครั้งว่าหน้าตาลักษณะแบบนี้ น่าจะมีการเสพสารเสพติดกันมาแล้ว”
จนมาถึงวันก่อนที่จะเกิดเหตุ 2-3 วัน เจ้าอาวาสได้นำที่ตรวจปัสสาวะให้พระลูกวัดจัดการตรวจปัสสาวะทุกรูปในวัด โดยบางรูปไม่เจอสารเสพติด

บางรูปก็มีสารเสพติด(ฉี่ม่วง) จึงได้ทำการสึกพระในวัดจำนวน 6-7 รูป
แต่พระที่ถูกทำร้ายตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด เจ้าอาวาสจึงได้บอกว่าต้องไปตรวจที่โรงพยาบาล ซึ่งต้องตรวจเลือด โดยเจ้าอาวาสไม่มั่นใจในตัวพระที่ถูกทำร้าย เมื่อจะพาไปตรวจที่โรงพยาบาลทางพระที่ถูกทำร้าย ได้หนีออกไปจากวัดประมาณ 2 วัน และได้มีการสืบค้นว่าหนีไปอยู่ที่ไหน
โดยที่เป็นพระอาจารย์และเป็นเจ้าอาวาส หากพระหนีออกจากวัดโดยที่ตนไม่ได้อนุญาตถือว่ามีความผิดของสงฆ์
ซึ่งพระที่ถูกทำร้ายได้หลบหนีไปอยู่ที่วัดคอหงส์ 2 วัน ตามหาจนเจอ เมื่อตามหาเจอแล้วพระที่ถูกทำร้ายก็กลับมาวัดเดิม โดยเมื่อกลับมาแล้วไม่ได้มาทำการขอโทษหรือทำการขอสึก แต่กลับมาบอกว่าขอย้ายวัด ซึ่งในการย้ายวัดตามธรรมวินัยของสงฆ์ ต้องได้รับความอนุญาตของท่านเจ้าอาวาสและต้องมีการรับรองตรวจสารเสพติดเพื่อความบริสุทธิ์จะได้ไปอยู่วัดอื่นได้
ทางเจ้าอาวาส จึงจะพาไปตรวจ ทางพระที่ถูกทำร้ายได้มีการโวยวาย ด้วยความที่เป็นญาติมีศักดิ์เป็นลุง และเป็นอาจารย์ จึงเกิดโทษะในขณะนั้นว่าตัวเองเป็นหลานทำไมทำเช่นนี้ ทำไมต้องออกไปจากวัด และได้มีการมาพูดให้ทางเจ้าอาวาสเสียหายอีก
ว่า เจ้าอาวาสไม่ดูแลพระรูปอื่น มาดูแลแค่พระที่ถูกทำร้าย แต่ที่เขาไม่รู้ว่าด้วยความห่วงของลุงอยากให้หลาน หลุดพ้นจากสารเสพติด จึง
ได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวตามคลิปในโซเชียล
หลังจากเหตุการณ์ เจ้าอาวาสรู้สึกเสียใจที่เกิดโทษะ ไม่สามารถควบคุมสติอารมณ์ตัวเองได้ในอารมณ์ชั่ววูบตามที่ทำลงไป ณ ขณะนั้น
“ทั้งหมดให้อยู่ในทางกฎหมาย เพราะทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนของกฎหมายทั้งหมดแล้ว ตามที่
มารดาให้ข่าวว่าขอความเป็นธรรม ซึ่งความเป็นธรรมทุกอย่างได้อยู่ในขั้นตอนของกฎหมายแล้ว” ทนายจักริน กล่าว และว่่า
ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์จนถึงปัจจุบัน เจ้าอาวาสไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามไปที่โรงพยาบาล ณ วันเกิด
เหตุหลังจากกลับมาจากกิจนิมนต์ ไปสอบถามพยาบาลและได้คำตอบว่าทางญาติไม่ให้เข้าเยี่ยม มีการสอบถามมารดาของพระลูกวัด มารดาได้บอกว่า อย่ามายุ่งกับบุตรของเขาอีก แต่มารดาของพระที่ถูก
ทำร้ายกลับไปให้ข่าวว่า เห็นเจ้าอาวาสเสพสารเสพติด มั่วสุมน้ำกระท่อม ซึ่งความจริงมิได้เป็นเช่นนั้น
หากเป็นเช่นนั้นจริง ทุกครั้งที่ตรวจหาสารเสพติดเจ้าอาวาสจะมีการตรวจให้พระลูกวัดดูด้วย พร้อมกับตรวจพระลูกวัดรูปไหนไม่มีสารเสพติดก็ไม่เป็นไร
ส่วนรูปไหนมีสารเสพติดก็ต้องสึก หากไม่สึกต้องมีวัดมารับรอง นำพาไปดูแล หากให้เจ้าอาวาสดูแลคนเดียวไม่ได้จะเกิดข้อครหาจากญาติโยมที่นับถือเจ้าอาวาสและวัด
“ทางเจ้าอาวาสได้ฝากบอกว่ารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอโทษญาติโยมทั้งหาดใหญ่-สงขลา ร่วมไปถึงชาวพุทธทุกคน”
ภายหลังการแถลงข่าว ประชาชนที่มารับฟังได้สอบถามว่า ตั้งแต่เกิดเหตุได้มีการไกล่เกลี่ยกันหรือยัง ทนายได้ขี้แจงว่า ได้มีการไกล่เกลี่ยกันเรียบร้อยแล้ว
ประชาชนได้สอบถามเพิ่มเติมว่ามีการจ่ายเงินเยอะหรือไม่ ทนายตอบว่า ไม่ทราบจำนวนเงินแต่ตนได้ดูแลคดีตั้งแต่เริ่มต้น ขณะนี้เรื่องทั้งหมดได้อยู่ในขั้นตอนของศาลแล้ว
โดยขอไม่พูดเรื่องการตั้งข้อหากับเจ้าอาวาสเพราะอยู่ในสำนวนอยู่แล้ว ซึ่งในเรื่องของอาญาแผ่นดินตามกฎหมายยอมความไม่ได้
“เจ้าอาวาสจะออกมาชี้แจงรายละเอียดด้วยตัวเองหลังจากเสร็จขั้นตอนขบวนการของศาล”
ขณะที่ประชาชนที่นับถือเจ้าอาวาส ที่มาร่วมสังเกตุการแถลงข่าว ต่างพูดว่า เจ้าอาวาสเป็นคนใจดี ชอบช่วยเหลือชาวบ้าน เด็กๆ นักเรียน และมองว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นมานานแล้ว ทำไมถึงเพิ่ง
มาเป็นกระแสตอนนี้ โดยฝั่งผู้เสียหายได้เรียกค่าเสียหายกับเจ้าอาวาสและที่สำคัญท่านเป็นญาติกัน
ญาติโยมที่มาฟังการแถลงข่าวต่างเชื่อมั่นว่า จะสามารถไกล่เกลี่ยกันได้



