
วันนี้ (10 กันยายน 2568) เวลาประมาณ 14:00 น. ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา ทนายอาร์ม สุวรรณรักษา ในฐานะตัวแทนของเครือข่ายบ้านเกิดเมืองนอนจังหวัดสงขลา เข้ายื่นหนังสือถึง อบจ.สงขลา
“สืบเนื่องจากกรณีที่ อบจ.สงขลา มีการประกาศว่าได้รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในจังหวัดสงขลากว่า 7,000 คน ซึ่งทุกคนที่รับฟังความคิดเห็นมีการเห็นด้วยกับการกู้ยืมเงิน 2,900 ล้านบาท ทั้งหมด 100% แต่มีเสียงที่ติดต่อเข้าหาทนายอาร์ม กังวลว่าตัวเขาเองจะมีชื่อในนั้น ซึ่งเขาไม่ยินยอม” ทนายอาร์ม กล่าวว่า
วันนี้ ตนจึงอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการมายื่นต่ออบจ.สงขลา และนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เพื่อขอให้มีการจัดส่งข้อมูลราชการ ดังนี้
ข้อที่ 1.รายชื่อผู้รับฟังความเห็น พร้อมระเบียบวิธีการทั้งหมดตามที่นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกอบจ.สงขลา ประกาศมาจำนวน 7,000 กว่ารายชื่อ
ข้อที่ 2 แผนงานการจัดการงบประมาณการซ่อมถนน 2,900 ล้านบาท จะมีประเด็นต่อไป ถ้างบประมาณก้อนนี้อนุมัติ
“เราในฐานะเจ้าของเงิน เจ้าของภาษีต้องการทราบว่าแผนงานในการจัดการ 2,009 ล้านบาท คืออะไร มีถนนสายใด ใช้งบประมาณเท่าไร มีแผนการจัดการที่แน่นอนอย่างไร”
ข้อที่ 3 แผนการจัดการเครื่องจักร 199 ล้านบาท ใน 5 ปี ที่อบจ.สงขลา ทำสัญญาเช่าจากเอกชน มีแผนการจัดการไหนบ้าง ซ่อมและดำเนินการที่ไหนทั้งจังหวัดสงขลาเดินทางกันอย่างไร
ข้อที่ 4 สัญญาจัดซื้อ จัดจ้างการซ่อมถนน ก่อนหน้านี้
“ทนายอาร์มได้ทราบว่าหลังจากที่นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม เข้ารับตำแหน่ง นายกอบจ.สงขลา มีการจัดซื้อจัดจ้างในการซ่อมถนนมาหลายโครงการแล้วต้องการทราบรายละเอียดทั้งหมด ในการจัดซื้อจัดจ้างที่ทนายอาร์ม ระบุส่วนใหญ่เป็นการจัดซื้อจัดจ้างในรูปแบบวิธีเจาะจง”
เพราะฉะนั้น ส่วนหนึ่งเราเห็นว่ามีการปรับปรุงซ่อมถนนไปบ้างแล้ว เราต้องการทราบรายละเอียดตรงนั้น
รวมถึงสัญญาการก่อสร้างโรงอาหาร ซึ่งเป็นประเด็นก่อนหน้านี้ที่ทนายอาร์มได้ไปยื่นต่อ ป.ป.ช.ต้องการทราบเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง การเบิกจ่าย และสัญญาการปรับปรุงห้องผู้บริหาร ห้องรองนายก ห้องเลขา รวมถึงห้องโถงต่างๆ
“เรื่องนี้เป็นประเด็นที่คนสงขลาในฐานะเจ้าของภาษี ต้องการทราบว่าอบจ.สงขลา มีการซื้อจัดจ้างในงบประมาณและเบิกจ่ายไปเท่าไร”
ข้อที่ 5 เรื่องการศึกษา ทราบมาว่าอบจ.สงขลามีการจัดจ้างการศึกษาหลายโครงการ ยกตัวอย่างเช่น การศึกษาเส้นทางเดินรถ EV ใช้เงินงบประมาณหลายล้านบาท
มีการจัดจ้างการศึกษาเพิ่มไฟส่องสว่าง หรือการท่องเที่ยวสะพานติณสูลานนท์
“สิ่งเหล่านี้ ทนายอาร์มต้องการทราบรายละเอียดทั้งหมด ในวันนี้ที่มีการเข้ายื่นหนังสือ ณ อบจ.สงขลา ต้องการให้อบจ.สงขลา ส่งมอบข้อมูลทั้งหมดตามกฎหมาย พ.ร บ. ข้อมูลข่าวสารให้
ทนายอาร์มในฐานะภาคประชาชนตรวจสอบและดำเนินการต่อไป”
ทั้งนี้ ในหนังสือทนายอาร์มระบุไว้ว่าให้ระยะเวลาไป 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือ
“เป็นข้อมูลที่อบจ.สงขลา มีอยู่แล้วไม่ต้องผ่านกระบวนการค้นหาใดๆ เพราะฉะนั้น อบจ.สงขลา สามารถจัดส่งได้เลย ผมให้เวลาเรียบเรียงเอกสาร ภายใน 7 วัน”

ทนายอาร์ม กล่าวด้วยว่า ภาคประชาชนไม่ได้ต้องการไม่ให้มีการซ่อมถนน ทุกคนอยากให้มีการซ่อมถนนในทุกสายที่มีปัญหาและเชื่อว่าข้อเท็จจริงถนนมีปัญหาจริงๆ แต่สิ่งที่ต้องการเรียกร้องคือ อบจ.สงขลา มีงบประมาณของ อบจ.สงขลา ที่สามารถซ่อมแซมได้ในส่วนที่จำเป็นเร่งด่วนภายใต้เงินงบประมาณปกติ
เพราะฉะนั้น เราจึงเรียกร้องให้อบจ.สงขลาใช้งบประมาณปกติซ่อมแซมถนนที่มีการชำรุดเร่งด่วน
ส่วนสิ่งที่เราโต้แย้งคือ อยากให้ทุกคนเข้าใจตรงกันว่า การกู้ยืมเงิน ซึ่งมีดอกเบี้ย โดยไม่มีแผนงานชัดเจน และการซ่อมถนนที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากจำเป็นเร่งด่วนสามารถใช้เงินงบประมาณปกติได้
“สิ่งที่ทำตอนนี้เพื่อป้องกันเรื่องของงบประมาณที่จะถูกกระทำไปโดยไม่เกิดประโยชน์”
ทนายอาร์ม กล่าวถึงผลโพลล์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ที่บอกว่า ประชาชนที่สำรวจ 70 – 80% ไม่เห็นด้วยกับการกู้ยืมเงินว่า เรื่องนี้เป็นส่วนสำคัญที่ อบจ.สงขลา ผู้บริหาร และสมาชิกสภาควรหยิบยกมาพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง
“เรื่องนี้ ผมได้ยื่นหนังสือไปถึงอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ในฐานะผู้ที่มีอำนาจ เบิกจ่ายเงินงบประมาณกู้ก้อนนี้ ซึ่งก็ได้รับทราบจากอธิบดี สถ.ว่าได้รับการตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว หลังจากโพลล์ออกก็จะยื่นหนังสือฉบับนี้ให้แก่อธิบดี สถ ยื่นให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาด้วย
“อยากเรียกร้องให้คณะผู้บริหาร อบจ.เอาเรื่องนี้มาพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง เพราะเรื่องนี้แปลว่าประชาชนสงขลาให้ความสำคัญมากและประชาชนสงขลามีฉันทามติเรียกว่าเป็นเอกฉันท์คือไม่ต้องการให้กู้เงินก้อนนี้”
หากทางอบจ.สงขลา มั่นใจว่าสามารถทำต่อไปได้ภายใต้อำนาจหน้าที่เราจะเข้าไปตรวจสอบอยู่ตลอด สิ่งใดก็ตามหากผิดกฎหมายเราก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที ส่วนอะไรก็ตามที่ อบจ.สงขลา ถือว่าทำได้ทางเราก็จำเป็นต้องเอามาบอกประชาชนว่า สิ่งที่เรากำลังแบกรับดอกเบี้ย ซึ่งเกิดจากการกู้เงิน 2,009 ล้านบาท จังหวัดเราสงขลาเสียโอกาสอย่างไร เพื่อที่จะคาดหวังให้พี่น้องประชาชนได้ตื่นรู้กันในเรื่องของสิทธิของพวกเราทุกคน เพราะเงินก้อนนี้อย่าลืมว่าเป็นการเอาเงินในอนาคตของพวกเราทุกคนมาใช้จ่าย

