วันที่ 30 ตุลาคม 2568 เวลา 07.30 น. ที่ห้องประชุม CEO ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา
นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานการประชุมนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ และหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ประจำเดือนตุลาคม 2568 โดยมี นายชูชีพ ธรรมเพชร และ นายจิรวัตร์ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, นายวรพันธุ์ สุวรรณยุหะ ปลัดจังหวัดสงขลา รวมทั้งนายอำเภอและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นายโชตินรินทร์ ได้เน้นย้ำนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยเฉพาะการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การจัดระเบียบสังคม และการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งถือเป็นวาระสำคัญแห่งชาติที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและจริงจัง พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่บูรณาการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็ง

สำหรับการขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลภายใต้โครงการ “คนละครึ่งพลัส” ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกันตรวจสอบและยืนยันการประกอบกิจการของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจแนวทางการใช้สิทธิ์อย่างถูกต้อง ป้องกันการทุจริต การฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า และการหลอกลวงประชาชน
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังได้สั่งการให้ทุกอำเภอเตรียมความพร้อมรับมือ สถานการณ์อุทกภัย ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังเกิดภัย โดยให้เร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ดูแลความปลอดภัยของประชาชน จัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อดำเนินการเยียวยาอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ นายโชตินรินทร์ ได้ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมกันจัดพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมถวายพระราชกุศลแด่
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งจังหวัดได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา และมีกำหนดจัดต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือน โดยให้ทุกพื้นที่ถือปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนด ได้แก่ การเชิญธงไว้ทุกข์ 30 วัน และการแต่งกายไว้ทุกข์เป็นเวลา 1 ปี

ในส่วนของพิธีบำเพ็ญกุศล จังหวัดสงขลา โดย ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนจัดบริการอาหารแก่ประชาชนและผู้ร่วมพิธี ซึ่งดำเนินการมาแล้วครบ 7 วัน (สัตตมวาร) และจะจัดต่อเนื่องให้ครบ 30 วัน พร้อมขอให้นายอำเภอทุกแห่งถือปฏิบัติตามหนังสือสั่งการอย่างเคร่งครัด
ปิดท้ายการประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้เน้นย้ำให้ทุกอำเภอติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอย่างต่อเนื่อง และขอให้ภาคราชการและประชาชนร่วมกันจัดกิจกรรมทางศาสนา วัฒนธรรม และสาธารณกุศลในช่วง 100 วันนับจากนี้ เพื่อถวายความอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อย่างสมพระเกียรติ


