‘รังนกแอ่นไทย’สู่เวทีธุรกิจโลกจีน-ต่างชาติร่วมประชุมนานาชาติ

412736

ประชุมนานาชาติครั้งใหญ่ ที่หาดใหญ่ 9-10 สิงหาคมนี้ พ่อค้าจีน จองร่วมงานกว่า 200 คน

ผู้ว่าฯสงขลา หนุนจัดงานสัมมนา “รังนกแอ่นไทย
เตรียมก้าวสู่รังนกแอ่นโลก” จับมือผู้ประกอบการต่างประเทศ ดันสู่เวทีธุรกิจรังนกระดับโลก

จากเมื่อ วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ที่ห้องปฏิบัติราชการผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา
ร่วมประชุมหารือกับ นายอนันต์ จองศักดิ์เจริญกุล นายกสมาคมการค้าธุรกิจรังนกแอ่นไทยและประธานการจัดงาน เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดสัมมนาและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับผู้ประกอบการธุรกิจรังนกจากต่างประเทศ มี นายเสถียรพงศ์ แก้วเพชร ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และการพัฒนาจังหวัดสงขลา และ นายวิชาญ ช่วยชูใจ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมประชุมด้วย

412734 0 1

ล่าสุด สมาคมการค้าธุรกิจรังนกแอ่นไทยร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจรังนกแอ่น (ประเทศไทย), สมาคมการค้ารังนกแอ่นไทย, กลุ่มผู้ผลิตและค้ารังนกแอ่นไทย และลานประมูลรังนกแอ่นไทย กำหนดจัดงานสัมมนาสัมมนาและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับผู้ประกอบการธุรกิจรังนกจากต่างประเทศ ในวันเสาร์ อาทิตย์ ที่ 9 – 10 สิงหาคม2568 ณ โรงแรมซิกเนเจอร์ โฮเทล แอร์พอร์ต อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อประชาสัมพันธ์ศักยภาพของรังนกแอ่นไทยสู่สายตาประชาคมโลก พร้อมเปิดเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์กับผู้ประกอบการจากประเทศต่าง ๆ อาทิ จีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม กัมพูชา รวมถึงผู้ประกอบการภายในประเทศไทย ภายในงานยังมีกิจกรรมประกวดรังนกแอ่น ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทความสวยงาม และประเภทความมีเอกลักษณ์เฉพาะ (พิเศษ) โดยผู้ชนะเลิศ รองชนะเลิศอันดับ 1 และ 2 ในแต่ละประเภทจะได้รับประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติ ทั้งยังมีการจัดประมูลรังนกที่ได้รับรางวัล โดยรายได้ส่วนหนึ่งจะมอบให้กับสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา เพื่อใช้ในกิจกรรมสาธารณประโยชน์


พร้อมกันนี้ จะมีการเปิดตัวโรงงานล้างรังนกที่สามารถรองรับการผลิตได้ ทั้งรังนกแอ่นบ้านและรังนกถํ้า เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์รังนกไทยในระดับสากล


นายอนันต์ จองศักดิ์เจริญกุล ประธานการจัดงาน กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ จะเป็นประวัติศาสตร์ จะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของรังนกแอ่นบ้านไทย จากที่ก่อนนี้รังนกแอ่นบ้านไทยเป็นธุรกิจสีเทา ต้องแอบขายกันในตลาดมืด ทั้งๆ ที่ในปัจจุบัน รังนกแอ่นบ้านไทย สามารถผลิตได้ปีละไม่น้อยกว่า 200 ตันซึ่งหากนำเข้ามาสู่ระบบได้ถูกต้องตามกฎหมาย ก็จะสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยมหาศาล และรัฐบาลก็สามารถจัดเก็บภาษีได้เป็นจำนวนมาก


นายอนันต์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการรังนกแอ่น สภาผู้แทนราษฎร เป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา ปรับปรุง แก้ไขกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์เพื่อรองรับการดำเนินกิจการรังนกแอ่น มีหน้าที่หลักในการศึกษาปัญหาและอุปสรรคของการประกอบกิจการรังนกแอ่น เพื่อยกระดับกิจการรังนกแอ่นให้มีมาตรฐาน คณะกรรมาธิการนี้ ประกอบด้วย กรรมาธิการหลายท่าน รวมถึงประธาน รองประธาน เลขานุการ และโฆษก มีการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการ เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาธุรกิจรังนกแอ่น” นายอนันต์ กล่าว และว่า คณะกรรมาธิการรังนกแอ่น มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจรังนกแอ่นของไทยให้มีความยั่งยืนและสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก


โดยในวันประชุมที่ 9 สิงหาคมนี้ ตัวแทนจากทุกหน่วยงานราชการไทย ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจรังนกแอ่นไทย ก็จะเข้าร่วมประชุม เพื่อบอกถึงความคืบหน้า การปลดล๊อคกฎหมายรังนกแอ่นไทย สู่รังนกแอ่นโลกนำโดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และตัวแทนจากกรมปศุสัตว์ กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมอนามัยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้าร่วมด้วย “นอกจากนี้การประชุมนานาชาติ รังนกแอ่นไทย สู่ รังนกแอ่นโลก ในครั้งนี้ ที่จังหวัดสงขลา ก็จะสร้างความคึกคักทางด้านการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดสงขลา เพราะมีนักธุรกิจรังนกจากจีน มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย มาร่วมงานประมาณ 150 คน และนักธุรกิจรังนกแอ่น คนไทยเข้าร่วมงาน 180-250 คน มาทำกิจกรรมอยู่ที่อำเภอหาดใหญ่ ไม่น้อยกว่า 3 วัน 3 คืน สร้างเงินสะพัดให้เมืองหาดใหญ่ ให้จังหวัดสงขลา เป็นจำนวนไม่น้อย

” นายอนันต์กล่าว “ประเทศไทยมีชื่อเสียงเรื่องรังนกมาเป็นเวลา 100 ปี ทุกคนจะรู้จักรังนกสยาม ไม่ว่าจะเป็นรังนกถ้ำ หรือรังนกบ้าน ยกตัวอย่างประเทศจีน ฮ่องกง มาเก๊า หรือแม้กระทั่งในสหรัฐอเมริกา มีความต้องการมาก แต่น่าเสียดายที่ยังไม่สามารถส่งออกต่างประเทศ เนื่องจากไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ ประเทศไทยเสียโอกาสในการส่งออกรังนกเป็นอย่างมาก”


ในขณะที่ปัจจุบันประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนของเรา ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม หรือกัมพูชา มีการส่งออกรังนกไปต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลกสำหรับรังนก ฉะนั้นในงานครั้งนี้จึงมีผู้ประกอบการจากจีน มาเลเซีย เวียดนาม สมัครเพื่อเข้าร่วมงานจำนวนมาก เพราะมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ โดยเฉพาะคุณภาพรังนกไทย


สำหรับสถานการณ์ทางด้านราคารังนกในปัจจุบันนั้น รังนกทั่วโลกราคาตกต่ำ เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำ ทำให้พ่อค้าและผู้ประกอบการธุรกิจรังนกทั่วโลกจะได้ใช้เวลาในงานนี้ เพื่อปรึกษาหารือและแนวทางในการแก้ปัญหาราคารังนกที่ตกต่ำอยู่ในขณะนี้ และเป็นเวทีสำหรับผู้ประกอบการที่จะร่วมมือกันสร้างความเข้มแข็งของธุรกิจรังนก


นอกจากนี้การจัดงานในครั้งนี้จะส่งผลต่อเศรษฐกิจหาดใหญ่ จากการเข้าร่วมงานของผู้ประกอบการธุรกิจรังนกที่พำนักอยู่ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นสถานที่การจัดงาน เนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจรังนกเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง เกิดการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างการพำนักในพื้นที่อย่างมหาศาลจากจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมและผู้ติดตาม “ระยะเวลาการพำนักอยู่ในอำเภอหาดใหญ่ ของผู้ประกอบการธุรกิจรังนกที่เข้าร่วมงานประมาณ 5 วัน โดยจะเดินทางมาตั้งแต่วัน 8 สิงหาคม 2568 และเข้าร่วมงานวันที่ 9-10 สิงหาคม หลังจากนั้นก็จะเดินทางท่องเที่ยวในพื้นต่าง ๆ ระหว่างวันที่ 11-12 สิงหาคม เป็นการประชุมครั้งแรกในประเทศไทย โชว์ศักยภาพรังนกไทยสู่สายตาประชาคมโลก เป้าหมายเพื่อส่งออกรังนกไทยไปทั่วโลก”

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *