เพื่อนเทคนิค-เพื่อนผู้ว่าฯ

aumpon

เมื่อ 44 ปีที่ผ่านมา ผมกับหมอก(ผู้ว่าฯอำพล)รู้จัก และเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เข้าเรียนช่างไฟฟ้าที่วิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ด้วยกันครับ

หมอกเป็นคนเทพา ส่วนผมเป็นคนสะเดา สมัยเรียนเทคนิค ทั้งผมและหมอกต่างก็เช่าบ้านกันอยู่หน้าเทคนิค แต่คนละหลังกัน แต่ด้วยความที่มีพื้นฐานเป็นลูกชาวบ้านเหมือนกันทำให้สนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ เรียนห้องเดียวกัน กินด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน ปิดเทอมก็ผลัดกันไปค้างบ้านกันและกันเป็นกลุ่มก้อน โดยมีเพื่อนคนอื่นๆ ร่วมไปด้วย


ผมกับหมอกกรีดยางเป็น ก็ช่วยกันกรีดยางพารา เพื่อนที่เหลือก็ช่วยกันเก็บ เอาเงินที่ได้ไปกินกัน เวลาเรียนก็ช่วยกันตลอด มีผลการเรียนในระดับที่ดีพอสมควรจนจบระดับปวช.ช่างไฟฟ้าจากที่นั่น

ด้วยเหตุผลบางประการ ทำให้ผมและหมอกไม่สามารถสอบเข้าเรียนต่อในระดับปวส.ได้ จึงไปเรียนต่อที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก็ไปอยู่ด้วยกันอีก แต่ที่ไม่เหมือนกันคือ หมอกสอบได้เป็นนายช่างไฟฟ้าสื่อสาร ทำงานที่สำนักงานจังหวัดยะลา และเรียนไปด้วย ส่วนผมเรียนหนังสืออย่างเดียว

สำหรับหมอกต้องยอมรับว่า มีครามพยายาม และความอดทนอย่างสูงยิ่ง จนจบการศึกษา และเป็นบุคลิกประจำตัวของหมอก จนถึงปัจจุบัน

หลังจากจบปริญญาตรี ผมก็รับราชการเป็นปลัดอำเภอ ส่วนหมอกก็สอบเปลี่ยนสายงานเป็นนักวิเคราะห์นโยบายและแผน เราทั้งคู่ต่างก็ทำงานในสายงานของตนเอง บางครั้งก็อยู่จังหวัดเดียวกันทั้งที่สงขลาและพัทลุง แต่ก็ช่วยแหลือเกื้อกูลกันตลอด

“หมอกเป็นคนใจเย็น ร่าเริง เข้าถึงง่ายหลายครั้งเพื่อนฝูงต้องอาศัยหมอก เพื่อเชื่อมโยงมาถึงผม”

เราสนิทกันทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ พี่น้อง ภรรยา และบุตรของเราก็เป็นเพื่อนกัน ดังนั้นถึงแม้บางครั้งทำงานคนละที่กัน แต่ความสัมพันธ์ก็แน่นแฟ้นตลอดมา

เราทำงานกระทรวงมหาดไทยด้วยกันจนได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมกันและอีก 4 ปีต่อมา หมอกก็เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงส่วนผมเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ปีถัดมาผมย้ายมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา หมอกก็มาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา

ผมเกษียณอายุราชการเมื่อ 30 กันยายน 2567 ส่วนหมอกก็อยู่ยะลาต่อจนเสียชีวิต เพราะโรคร้ายในที่สุด

ในอดีตนอกเหนือจากผมกับหมอกเป็นเพื่อนที่มากกว่าเพื่อนแล้ว ยังมีสิ่งหนึ่งที่เราทำเหมือนกันคือ การสูบบุหรี่ แต่ผมตัดใจเลิกไปก่อนหมอกไม่ยอมเลิก

ช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ผมเฝ้าเตือนโดยตลอด เพราะเกรงปัญหาสุขภาพ บอกให้หมอกเลิกบุหรี่ แต่เพื่อนผมทำไม่ได้ จนมาตรวจพบโรคร้ายในที่สุด

ในระหว่างการรักษา หมอกปิดบังอาการของตนเองโดยตลอด เนื่องจากว่าไม่ต้องการให้ครอบครัวและเพื่อนฝูงต้องเป็นทุกข์ แต่ผมก็ไม่ละความพยายามทำการสอบถามจากคูณหมอเองจนทราบอาการของเพื่อนทุกระยะ พยายามเตือนให้พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารให้เหมาะสมเพื่อที่จะต่อสู้กับโรคร้าย แต่ด้วยความรับผิดชอบในฐานะ“พ่อเมือง” ที่ต้องดูแลทุกข์สุขของประชาชน

โดยเฉพาะช่วงเกิดอุทกภัยหนักเมื่อปลายปีที่แล้ว หมอกต้องทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอจนร่างกายทรุดลง และต้องจากพวกเราไปเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา

หลับให้สบายนะเพื่อน เพื่อนได้พักแล้วตลอดกาล

ผู้ว่าฯ สมนึก พรหมเขียว
อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *