คือ.ตำนาน“นักปกครองคุณภาพ”

songpon

รู้จัก “ผู้ว่าอำพล” หรือที่เรียกติดปากด้วยความสนิทสนมว่า “อำพล” และแทนตนเองว่า “พี่”ตั้งแต่ทำงานร่วมกันที่ “ศอ.บต.” ยะลา แม้ว่าจะอยู่คนละสำนัก/กอง แต่ก็ต้องประชุม ประสานงานกัน

ที่สำคัญคือช่วงเย็นๆ จะเป็นเวลาที่ต้องมาเตะฟุตบอลด้วยกัน “อำพล” เป็นนักกีฬา เล่นฟุตบอลเก่งร่างกายแข็งแรง ขยัน น่ารัก มีน้ำใจ ไม่ปฏิเสธใครไม่เกี่ยงงาน

มาทำงานใกล้ชิดกันจริงๆ ตอนขึ้นเป็น “ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่“ และ “อำพล” มาเป็น “หัวหน้าสำนักงานจังหวัด”

11 เดือนที่อยู่ด้วยกัน “อำพล” เป็นทั้งน้องผู้ช่วย และเพื่อนร่วมงานที่ดี เป็นช่วงเวลาที่ทำงานอย่างสนุกสนาน ทั้งการคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ”บริหารการพัฒนาจังหวัด“ ในเชิงรุก อย่างมียุทธศาสตร์ จุดเน้น เป็นระบบ และการลงพื้นที่ เยี่ยมเยี่ยม รับฟังปัญหา ความต้องการของประชาชน อย่าง ”ถึงลูกถึงคน“ และ “ไม่มีวันหยุด”

ปกติเวลาตัวเองลงพื้นที่จะไปกับน้องที่เป็นเลขาฯ และโชเฟอร์เท่านั้น เพราะเกรงใจทีมงาน แต่มีวันหยุดหลายครั้งที่อำพลจะมารอที่จวน โดยที่ไม่ได้ชวน เพื่อขอตามไปด้วย จึงบอกไปว่าไม่ต้องไปก็ได้แต่อำพลมักตอบกลับมาว่า “ผมว่างครับพี่” ทั้งที่รู้ดีว่า “งานเต็มโต๊ะ”

ด้วยการทำงานที่ ”เข้าขา“ ไว้วางใจได้อย่างเต็มที่ มีสไตล์บ้านๆ ลุยๆ คล้ายกัน อีกทั้ง เมื่อสืบวงศาคณาญาติ ระหว่างคนสะบ้าย้อยกับ คนลำไพ ก็ไม่ได้ห่างไกลกัน ดังนั้น เมื่อผู้ใหญ่ขอให้ย้ายมาอยู่สงขลา จึงชวนอำพลตามมาอยู่ด้วยกันและเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนปฏิบัติการ“เดินหน้าสงขลา เดินหน้าประเทศไทย” ตามวาระต่างๆ ที่ร่วมกันกำหนดขึ้นมา โดยเฉพาะการพัฒนาด้านการเกษตร การตลาด ผลิตภัณฑ์ชุมชน แก้ปัญหาความยากจน และส่งเสริมการท่องเที่ยว ตามแคมเปญ ”สงขลามหาสนุก“

ตลอดเวลาในการทำงาน เมื่อต้องเผชิญกับปัญหา อุปสรรคต่างๆ จะพูดคุยกันว่า การนำแนวคิดเรื่อง ”การบริหารการเปลี่ยนแปลง“ ที่เคยเล่าเรียนมาใช้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอ แต่เราก็จะพยายามทำเต็มที่เพราะนี่คือโอกาสสำคัญในการ ”ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน“ บ้านเกิดของเรา อย่างแท้จริง

หลังจากอยู่สงขลา 2 ปี ก็ถึงเวลาที่ตั้งใจไว้ว่าอยากจะไปสัมผัสกับวิถีชีวิต บรรยากาศใหม่ๆ ในภาคเหนือก่อนเกษียณราชการ ”อำพล“ คือหนึ่งในน้องกลุ่มเล็กๆ ที่รับรู้ล่วงหน้าว่า พี่ขอผู้บังคับบัญชาไปอยู่ลำปาง ทั้งยังคุยด้วยว่า ถ้าสามารถขึ้นตำแหน่ง“รองผู้ว่า” ได้ในปีนั้น จะชวนไปอยู่ด้วยกันอีก แต่เมื่อขึ้นไม่ได้ก็อยู่ที่เดิมต่อ และขึ้นเป็นรองผู้ว่าฯสงขลาในปีต่อไป

ช่วงปีสุดท้ายก่อนเกษียณ ในขณะที่ ”อำพล“เป็นรองผู้ว่าฯสงขลา ได้ติดตามข่าวคราวการทำงานและความชื่นชมของผู้คนต่อรองฯอำพล ด้วยความดีใจ และให้กำลังใจ มาเป็นระยะๆ

มีอยู่ครั้งหนึ่ง “อำพล” เล่าให้ฟังแบบขำๆ ว่าท่านรองนายกฯ ซึ่งเป็นคนสงขลามาเล่าให้ที่ประชุมฟังว่าในวันที่มีการประชุมครม.สัญจรที่ลำปาง ได้เรียนนายกรัฐมนตรีว่า “ผู้ว่าลำปาง” ที่กำลังบรรยายสรุปให้ท่านนายกฯฟังเรื่องการพัฒนาจังหวัดเป็นวาระๆ อยู่นั้น ย้ายมาจากสงขลา ท่านนายกฯได้ถามกลับมาว่า “แล้วเดี๋ยวนี้สงขลายังมีวาระอยู่มั้ย”

หลังเกษียณราชการ มาอยู่บ้านบางกล่ำบอกกับอำพลเหมือนกับที่บอกกับน้องๆ ทุกคนว่า“ทำงานไป ไม่ต้องมาเยี่ยมเยียน ดูแลอะไร” ได้เจอโทรคุยกันเรื่องการพัฒนาสะบ้าย้อยบ้าง แต่ก็พยายามรักษาระยะห่าง เพื่อไม่ให้เป็นการก้าวก่ายสร้างความอึดอัดใจ อำพลก็บอกว่า “ผมเต็มที่อยู่แล้วพี่ เพราะที่นี่ก็เป็นบ้านผมเหมือนกัน ตอนนี้ก็ลงพื้นที่ เยี่ยมชาวบ้าน ตามเฟสพี่“

ครั้งแรกก็ลุ้นว่ารองฯอำพล จะได้ขึ้นตำแหน่ง“ผู้ว่า” เลย แต่ต้องเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงก่อน ซึ่งก็ทำได้อย่างโดดเด่น ต่อมาได้เป็นผู้ว่าฯยะลาดีใจมาก เคยทักมาขอคำปรึกษา บอกกลับว่า “คิดยังไงทำไปเลย เชื่อมือ“

ตามไปส่งในวันเดินทางไปรับตำแหน่ง ก็ให้เกียรติกล่าวแนะนำบนเวทีว่า ”เป็นทั้งพี่ชายและอาจารย์ด้านการทำงานเพื่อประชาชน รับใช้ประชาชน“ แต่ก็รู้ดีว่าทุกอย่างที่อำพลทำ เกิดจากการสู้ชีวิต จิตสำนึก ความรับผิดชอบ ความตั้งใจของตัวอำพลเอง และผ่านการเรียนรู้ บ่มเพาะ จากประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับผู้หลักผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน ต่อเนื่องมา ตั้งแต่ยังเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย

จากนั้น ก็ติดตามข่าวคราวด้วยความชื่นชม แม้จะมีวิธีคิดวิธีทำงานหลายๆ อย่างที่คล้ายกัน แต่ก็มีอีกหลายๆ เรื่องที่ ”ผู้ว่าอำพล“ ทำได้ดีกว่าพี่มาก

ทราบข่าวคราวเรื่องป่วยด้วยโรคร้าย ไม่สบายใจ เป็นห่วง เจอกันตามงานหรือโรงพยาบาล ก็เตือนไปว่า อย่าหักโหม ทุกครั้งก็ตอบกลับมาว่า”ดีขึ้นมากแล้วพี่ หมอบอกว่าอยู่ได้อีกเป็น 10 ปี“ เห็นในเฟสก็ยังบุกงาน ช่วยเหลือชาวบ้าน บางวันก็นอนค้างในหมู่บ้าน จนอดไม่ได้ที่จะเตือนไปอีกครั้งว่า ที่ผ่านมาทำงานมาเยอะแล้ว ตอนนี้ไม่สบาย ใกล้เกษียณแล้ว พักผ่อนบ้าง ทำแบบประคับประคองไปก็พอ แต่น้องอำพล ก็ยังคง “ดื้อ“ เหมือนเดิม

ช่วงเข้าโรงพยาบาลม.อ. รอบล่าสุด คุณหมอที่สนิทกันส่งข่าวมาว่า อาการไม่ดี แต่มีความเป็น”นักสู้“ มาก ภาวนาอยากให้มีปาฏิหาริย์ ผ่านคืนวิกฤตได้ ดีใจ ไปเยี่ยมมา ก่อนวันจากไปลูกชายยังไลน์มาบอกลุงว่า ”พ่ออาการดีขึ้น” แต่รุ่งขึ้นกลับมีข่าวร้าย จึงรีบไปให้กำลังใจครอบครัว และเข้าไปจับมือ ดูหน้า เป็นครั้งสุดท้าย

หลับให้สบายนะน้อง เหนื่อยมามากแล้ว ไม่เคยได้พัก ขอให้ภาคภูมิใจว่า ผลจากการทำงานหนักและนิสัยใจคอ ทำให้ได้รับความรัก เสียดาย อาลัย จากทุกคน ทุกวงการ

เป็น “ตำนานนักปกครอง” คนของแผ่นดินคนดีศรีสงขลา ข้าราชการที่มีคุณภาพ ติดดินรับผิดชอบ มุ่งมั่นตั้งใจ ทุ่มเททำงาน ช่วยเหลือประชาชน โดยไม่นึกถึงตนเอง จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต

“พี่ทรงพล”
นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม

อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง,สงขลา และกระบี่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *