21 พฤศจิกายน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกเอกสารชี้แจงผลการพิจารณาคดีที่มีมติชี้มูลความผิด พันตำรวจตรี คมจักร กรกฤตจรรย์ อดีตสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.คอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จากเหตุเรียกรับเงินในการปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565
สรุปเหตุการณ์
จากการไต่สวนพบว่า ในคืนวันที่ 1 มีนาคม 2565 ชุดสายตรวจปฏิบัติการที่ 4 ตั้งจุดสกัดบริเวณหน้าตลาดนัดเกาะหมี ถนนกาญจนวนิช ในช่วงเวลา 22.40–23.15 น. ระหว่างนั้นมีรถยนต์ฟอร์ด โฟกัส สีดำ ขับเข้ามาทางจุดสกัดด้วยความเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจจึงให้สัญญานไฟเพื่อให้ ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวจอดเพื่อขออนุญาตตรวจค้น แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้เสียหายขับผ่านจุดสกัด เจ้าหน้าที่ จึงได้ใช้รถจักรยานยนต์สายตรวจของทางราชการติดตามให้สัญญาณไฟและเสียงแตรเพื่อให้หยุด จนหยุดรถที่บริเวณแยกป่าไม้ ถนนกาญจนวนิช ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ต่อมาเจ้าหน้าที่เชิญตัวผู้ขับขี่ไปยังศูนย์ปฏิบัติการ สภ.คอหงส์ เพื่อสอบถามเหตุการณ์ และเมื่อพันตำรวจตรี คมจักร เดินทางถึงได้แจ้งให้สิบตำรวจโท…..พิมพ์แบบบันทึกข้อมูลบุคคลของผู้เสียหาย และเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกันที่บิดาของผู้เสียหาย ได้เดินทางถึงศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรคอหงส์
หลังจากนั้น พันตำรวจตรี คมจักร กรกฤตจรรย์ จึงได้ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปนำผู้เสียหายมาพบ และพูดคุยในห้องด้านหน้าชั้นหนึ่งของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรคอหงส์ โดยพันตำรวจตรี คมจักร กรกฤตจรรย์ ได้เรียกเงินจากผู้เสียหายและบิดา จำนวน 20,000 บาท และได้สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชา พิมพ์แบบบันทึกข้อมูลบุคคลของผู้เสียหายว่าขับรถฝ่าด่านไว้ก่อนแล้ว
โดยให้ลงชื่อในบันทึกข้อมูลบุคคล โดยบิดาของผู้เสียหายตกลงและยินยอมจ่ายเงินตามที่พันตำรวจตรี คมจักร กรกฤตจรรย์ โดยได้มีการออกไปเบิกเงินสดจากตู้ ATM จำนวนเงิน 20,000 บาท และนำเงินสดจำนวนดังกล่าวไปมอบให้แก่พันตำรวจตรี คมจักร กรกฤตจรรย์ ในคืนวันเกิดเหตุที่บริเวณด้านหน้าของตัวอาคารศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจภูธรคอหงส์
ผลพิจารณาของ ป.ป.ช.
ป.ป.ช. มีมติชี้มูลว่า พันตำรวจตรี คมจักร มีความผิดทั้งทางอาญาและทางวินัย ได้แก่
– ความผิดทางอาญา: กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ 157 และตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 และ 173
– ความผิดทางวินัยร้ายแรง: ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือผู้อื่น, ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง, ฐานกระทำหรือละเว้นการกระทำใด ๆ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 79 (1) (5) และ (6)
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ส่งสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยัง อัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลที่มีเขตอำนาจ และส่งไปยัง ผู้บังคับบัญชา ของพันตำรวจตรี คมจักร กรกฤตจรรย์ เพื่อดำเนินการทางวินัยตามกฎหมายป.ป.ช. มาตรา 91 และ 98


