นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวถึงสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดสงขลาว่า ในช่วงแรกคาดว่าจะมีปริมาณน้ำฝนไม่มากนัก แต่เมื่อวาน(21 พ.ย. 68) ที่ผ่านมา ปริมาณฝนกลับตกหนักเกินคาดกว่า 300 มิลลิเมตร
แม้จะไม่ใช่ช่วงมรสุม แต่เกิดจากร่องความกดอากาศต่ำ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่อย่างรวดเร็ว
รัฐบาลภายใต้การนำของ นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ได้สั่งการให้จังหวัดเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนทันที โดยได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือแล้วทั้งในเขต อำเภอหาดใหญ่ และ อำเภอเมืองสงขลา พร้อมมอบหมายให้ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รับผิดชอบการประสานงานอย่างใกล้ชิด เนื่องจากน้ำท่วมขยายวงกว้าง ครอบคลุมกว่า 16 อำเภอ
พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนัก ได้แก่ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่, คลองหวะ, ควนลัง, รัตภูมิ และระโนด
โดยเฉพาะในพื้นที่หาดใหญ่ที่เป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัด ทำให้จำเป็นต้องพิจารณาการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงทันที โดยไม่รอให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น เนื่องจากยังมีฝนตกต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าฝนอาจตกอีกในวันถัดไป

“เพื่อความปลอดภัย จึงขอให้ประชาชนเคลื่อนย้ายไปยัง ศูนย์พักพิง ที่เตรียมไว้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าดูแลได้อย่างทั่วถึง” ผู้ว่าฯ รัฐศาสตร์ กล่าว และว่า
ผู้ที่ยังติดค้างในพื้นที่น้ำท่วม ได้มอบหมายให้กำลังทหารและหน่วยกู้ภัยเข้าช่วยเหลือหลังได้รับการประสานงานแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งระดับน้ำและปริมาณฝนในพื้นที่
พร้อมกันนี้ หากประชาชนเดือดร้อนสามารถแจ้งไปยัง นายอำเภอ หรือ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ทันที
ทั้งนี้นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายสังคม เกิดก่อ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเมืองหาดใหญ่เป็นการเร่งด่วน โดยเฉพาะพื้นที่ สี่แยกโรงปูน ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดวิกฤตสำคัญ หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลให้มวลน้ำจำนวนมากไหลเข้าท่วมถนนสายหลักและชุมชนโดยรอบ

สาเหตุเกิดจากปริมาณน้ำจำนวนมากที่ไหลบ่าลงมาจาก เขาคอหงส์ ซึ่งเป็นพื้นที่ไร้คลองสายใหญ่รองรับ มีเพียง อ่างเก็บน้ำแก้มลิงคลองเรียน ทำหน้าที่ชะลอน้ำ แต่ฝนที่ตกลงมาเกินกว่าค่ามาตรฐานทำให้อ่างเก็บน้ำเอ่อล้น มวลน้ำจึงไหลทะลักเข้าสู่เขตเมืองหาดใหญ่อย่างรวดเร็ว ระดับน้ำบนถนนหลายเส้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รถจักรยานยนต์และรถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ประชาชนจำนวนมากต้องจอดรถหลบไว้ริมถนน ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก โดยเฉพาะบริเวณสี่แยกโรงปูน เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปิดบางเส้นทางเพื่อความปลอดภัย
ด้านการช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ทั้งป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทีมกู้ชีพ–กู้ภัย และเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้ระดมกำลังลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดส่ง เรือท้องแบนหลายลำ เข้าช่วยอพยพประชาชนกลุ่มเปราะบาง รวมถึงขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงเพื่อลดความเสียหาย ขณะที่ระดับน้ำยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นระยะ
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้พูดคุยสอบถามความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ให้เพิ่มจุดเฝ้าระวังน้ำหลาก และจัดกำลังสนับสนุนตามจุดที่มีกระแสน้ำไหลแรง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุในช่วงที่สภาพอากาศยังมีฝนตกเป็นระยะ ทำให้สถานการณ์ยังผันผวนและต้องติดตามใกล้ชิด

นอกจากนี้ จังหวัดสงขลาได้สั่งการให้ทุกอำเภอเปิด ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจอุทกภัย ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรายงานสถานการณ์แบบเรียลไทม์ และเตรียมเครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกสูง เรือท้องแบน และกำลังคนรองรับหากฝนยังตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำเสี่ยงน้ำท่วมซ้ำ
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยยังคงเร่งปฏิบัติงานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางบริเวณสี่แยกโรงปูนและพื้นที่น้ำท่วมขัง และติดตามประกาศแจ้งเตือนจากจังหวัดสงขลาอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยของทุกคน


