สภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติปริญญากิตติมศักดิ์แก่ผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้ทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคมและประเทศชาติ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร แก่บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2567 ในวันที่ 21-22 กันยายน 2568 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี จะเสด็จแทนพระองค์ พระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2567 จำนวน 7,475 คน
โดยมีรายนามผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ ดังนี้
นายเฉลิมพล ปุณโณทก ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาพัฒนาสังคม

นายเฉลิมพล ปุณโณทก ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ในความสามารถด้านการสร้างนวัตกรรมหุ่นยนต์และ Medical AI เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ โดยเป็นผู้ริเริ่มอุตสาหกรรมการผลิตหุ่นยนต์ เพื่อให้บริการทางการแพทย์ที่เป็นฝีมือคนไทย เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท ซีทีเอเซีย โรโบติกส์ จำกัด เมื่อปี 2552 และสร้างหุ่นยนต์บริการตัวแรกของไทยและของภูมิภาคอาเซียน ชื่อว่า “หุ่นยนต์ดินสอ” ภายใต้แนวคิด ผู้สร้างนวัตกรรมเพื่อยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคม
ซึ่งต่อมา ได้มีการพัฒนาให้รองรับการบริการในหลากหลายรูปแบบ เช่น หุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ หุ่นยนต์ดินสอเพื่อนผู้สูงอายุประจำบ้าน ตัวช่วยผู้สูงอายุให้ใช้ชีวิตสะดวกและปลอดภัย เชื่อมต่อกับโรงพยาบาลยามฉุกเฉิน หุ่นยนต์ผู้ช่วยแพทย์และพยาบาล หุ่นยนต์ที่สร้างขึ้นนี้สามารถช่วยงานบริการผู้ป่วยนอกในโรงพยาบาลหลายแห่งในประเทศ เป็นนวัตกรรมทางสังคมที่สามารถช่วยในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคน ช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล ลดความเครียดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ให้บุคลากรเหล่านี้ได้ไปทำหน้าที่ที่สำคัญอื่น ๆ ได้
ทั้งยังได้ทำการวิจัยและพัฒนาชุดตรวจคัดกรองมะเร็งจากกลิ่นลมหายใจ เป็นรายแรกของโลกที่ทำงานโดย AI ซึ่งจะมีผลกระทบเชิงบวกกับสตรีชาวมุสลิมในการคัดกรองมะเร็งเต้านม โดยไม่ต้องเปิดเผยร่างกาย ไม่เจ็บจากการบีบของเครื่องเมมโมแกรม และหากตรวจพบโรคจะได้มีการวางแผนการรักษาได้ทัน ซึ่งส่งผลต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาพัฒนามนุษย์และสังคม

คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช ในฐานะกรรมการผู้อำนวยการมูลนิธิชิน โสภณพนิช เป็นผู้ให้การสนับสนุนโครงการสนับสนุนทุนการศึกษานิสิต นักศึกษาแพทย์ และพยาบาลที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ คณะแพทยศาสตร์ และพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยในต่างจังหวัด ในการมอบทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาแพทย์และนักศึกษาพยาบาลที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ
โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลหรือจังหวัดที่มีความต้องการบุคลากรทางการแพทย์สูง ได้ให้การสนับสนุนทุนการศึกษา เพื่อให้เยาวชนที่มีศักยภาพแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์สามารถศึกษาต่อในสาขาวิชาการแพทย์และพยาบาลศาสตร์ได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ ส่งเสริมให้นักศึกษาที่ยากจนแต่มีความตั้งใจเรียนและมีภูมิลำเนาในจังหวัดใกล้เคียงได้มีโอกาสเข้าศึกษา เมื่อสำเร็จเป็นแพทย์และพยาบาลแล้วจะได้ประกอบอาชีพและรับใช้สังคมในภูมิลำเนา และช่วยพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศในระยะยาว
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้รับการสนับสนุนทุนการศึกษาจากมูลนิธิชิน โสภณพนิช เป็นระยะเวลายาวนานต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 40 ปี ซึ่งมูลนิธิชิน โสภณพนิช ได้มอบทุนการศึกษาเพื่อส่งเสริมการศึกษาแก่นักเรียน นิสิต นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยมอบให้นักศึกษา ม.อ. แต่ปีการศึกษา 2521 เป็นต้นมา
รองศาสตราจารย์ยืน ภู่วรวรรณ วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ

รองศาสตราจารย์ยืน ภู่วรวรรณ เป็นผู้บุกเบิกการวิจัยด้านการประมวลผลภาษาธรรมชาติด้วยคอมพิวเตอร์และการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับภาษาไทย โดยมีผลงานสำคัญ อาทิ ระบบ Thai Kernel โปรแกรม Thai Text Editor และพจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์อรรถาภิธานไทย ผลงานวิจัยของท่านได้รับรางวัลจากสภาวิจัยแห่งชาติ ถึง 7ครั้ง และได้รับการยกย่องให้เป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพและคณิตศาสตร์ ในปี 2539 และในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ท่านเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันหลักสูตรวิทยาการคำนวณในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และเป็นผู้นำทีมเยาวชนไทยเข้าร่วมการแข่งขันคอมพิวเตอร์โอลิมปิกระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้ง ยังอุทิศตนเพื่อกิจกรรมสาธารณประโยชน์ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ครู นักเรียน และประชาชนทั่วไปในพื้นที่ห่างไกล ตลอดจนยังได้ให้เกียรติรับเชิญดำรงตำแหน่งกรรมการสภามหาวิทยาลัยและกรรมการประจำวิทยาเขตสุราษฎร์ธานี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยได้ให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและร่วมพัฒนาหลักสูตรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างรอบด้านมาโดยตลอด
นางสาวลม้าย มานะการ ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการบริหารการพัฒนาสังคม

นางสาวลม้าย มานะการ ปัจจุบันเป็นนักพัฒนาเอกชน นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน และนัปฏิบัติการภาคประชาสังคม เป็นผู้ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการพัฒนาสังคมชายแดนใต้มาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่าสามทศวรรษ
เป็นผู้ก่อตั้งและผู้ประสานงานศูนย์ประสานงานอาสาสมัครภาคประชาชนเพื่อสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรง ทั้งในระดับรายบุคคล ครัวเรือน และชุมชน ผ่านกระบวนการ “แนวชุมชนบำบัด” ที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ในฐานะประธานสภาประชาสังคมชายแดนใต้ ท่านได้รวมพลังจากกว่า 38 องค์กรภาคประชาชนในพื้นที่ เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเด็นสันติภาพ สิทธิมนุษยชน และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้บริบทของสังคมพหุวัฒนธรรม
ทั้งยังมีบทบาทในคณะกรรมการระดับนโยบายและเครือข่ายสำคัญ ตลอดจนยังเป็นผู้นำสำคัญในการส่งเสริมสิทธิเด็กและสตรีในพื้นที่ความขัดแย้ง และมีบทบาทในการผลักดันข้อเสนอเชิงนโยบายที่สำคัญ อาทิ ข้อเสนอสันติภาพ “พื้นที่สาธารณะปลอดภัย” ที่เข้าสู่กระบวนการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มมาราปาตานี และข้อเสนอ “ชาวพุทธอยู่ร่วมกันอย่างสันติในสังคมพหุลักษณ์”

นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
อายุราชการแล้ว แต่ท่านยังได้นำประสบการณ์ของชีวิตราชการมาทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ โดยได้ดำเนินกิจกรรมโครงการที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมแก้ไขปัญหาขจัดความขัดแย้งจังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยการพัฒนาศักยภาพ คุณภาพชีวิตของประชากรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความสุข สงบ สมานฉันท์ โดยมีผลงานสำคัญหลายผลงานที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ซึ่งได้พัฒนาเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กว่าหนึ่งหมื่นคน เสริมสร้างแนวคิดการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม อันเป็นรากฐานแห่งสันติสุขและสมานฉันท์ ในส่วนของงานพัฒนาภาคใต้ที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้สนับสนุนการพัฒนาสถาบันศึกษาปอเนาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยริเริ่มโครงการ “ปอเนาะสานใจฯ สู่การพัฒนา” และร่วมมือกับคณะรัฐศาสตร์ ม.อ. วิทยาเขตปัตตานี ดำเนินการจัดอบรมโต๊ะครูและผู้ช่วยโต๊ะครู สร้างเครือข่ายผู้นำทางศาสนาในระดับชุมชน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตในพื้นที่
ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวเป็นตัวอย่างอันดีของการบูรณาการภาคประชาชนกับภาควิชาการ เพื่อสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยม.อ. มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนแนวคิดและกระบวนการที่ท่านได้ริเริ่มไว้
ศาสตราจารย์ ดร.เคย์ ชน (Professor Dr. Kaye Chon) ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการจัดการการบริการและการท่องเที่ยวแบบบูรณาการ

ศาสตราจารย์ ดร.เคย์ ชน ดำรงตำแหน่งคณบดี และศาสตราจารย์เกียรติยศประจำมูลนิธิครอบครัววอลเตอร์และเวนดี้ กว๊อก ในสาขาการจัดการการบริการ ระดับนานาชาติ ณ คณะการโรงแรมและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยโปลีเทคนิคแห่งฮ่องกง (The Hong Kong Polytechnic University) ก่อนเข้าร่วมงานกับมหาวิทยาลัยโปลีเทคนิคแห่งฮ่องกง ท่านได้ดำรงตำแหน่งทางวิชาการของสถาบันการศึกษาหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ ภายใต้การนำของศาสตราจารย์ ดร.เคย์ ชน คณะการโรงแรมและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยโปลีเทคนิคฮ่องกงได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกด้านการศึกษาการจัดการการบริการและการท่องเที่ยว โดยได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับหนึ่งในหมวด “การจัดการการบริการและการท่องเที่ยว” จากการจัดอันดับวิชาการระดับโลก (Global Ranking of Academic Subjects)
ศาสตราจารย์ ดร.เคย์ ชน เป็นผู้นำทางวิชาการในสาขาการจัดการการบริการและการท่องเที่ยว ระดับนานาชาติ ได้รับการจัดอันดับอยู่ใน World’s Top 2% Most-Cited Scientists ในปี 2564, 2565 และ 2566 ได้รับรางวัล Founder’s (Dr Hai-sik Sohn) Award จาก Asia Pacific Tourism Association ในปี 2559 และเพื่อเป็นการยกย่องผลงานอันโดดเด่น ด้านองค์ความรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ท่านได้รับรางวัล Ulysses Prize จากองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) เมื่อปี 2554 ซึ่งรางวัลอันทรงเกียรตินี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “รางวัลโนเบลแห่งวงการการท่องเที่ยว” มอบให้แก่ผู้ทรงคุณวุฒิผู้มีผลงานโดดเด่นตลอดชีวิตในด้านนี้
ศาสตราจารย์ ดร.เคย์ ชน ยังเป็นผู้อุทิศตนด้วยการนำองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญ ในการมุ่งมั่นพัฒนาการศึกษา การวิจัยและเครือข่ายนักวิจัย ด้านการบริการและการท่องเที่ยว ในระดับนานาชาติทั่วโลก ท่านเป็นผู้ก่อตั้งสมาคมวิชาการ Asia Pacific Council on Hotel, Restaurant and Institutional Education (APacCHRIE) ในฐานะ Founding President ซึ่งเป็นสมาคมที่มีความสำคัญทางวิชาการ และมีขนาดใหญ่ที่สุดในด้านการบริการและการท่องเที่ยวในภูมิภาค Asia Pacific