‘เดชอิศม์’รุกน้ำประปาดื่มได้ กรมอนามัยนำร่องสงขลาที่ต.ปริก

IMG 0459

Kick Off ที่สงขลา “เดชอิศม์ ขาวทอง” รมช.สธ.ทำงานเชิงรุก จับมือ 12 หน่วยงาน ดึงอปท.ทุกแห่ง MOU กรมอนามัย เร่งปรับปรุงคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้าน  ทั้งตั้งเป้าปี’68 น้ำประปาหมู่บ้านทั่วประเทศ ผ่านเกณฑ์ 1,750 แห่งนำร่องที่เทศบาลตำบลปริก

วันที่ 18 มกราคม 2568 นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พญ.อัมพรเบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และตัวแทนผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสงขลา  ลงนามความร่วมมือ 12 หน่วยงาน เพื่อพัฒนาคุณภาพน้ำประปา หมู่บ้านสะอาด สู่การยกระดับเมืองสุขภาพดี ณ โรงแรมลีการ์เด้นส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 

มี นางสาวสุภาพร กำเนิดผล นายสมยศ พลายด้วง นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง สส.สงขลา ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้นำท้องถิ่น และตัวแทนอสม. เข้าร่วม

นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นโยบายกระทรวงสาธารณสุขนอกจากการส่งเสริมสุขภาพ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบอนามัยสิ่งแวดล้อมให้ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะการยกระดับคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนสุขภาพดี มีความเป็นอยู่ที่ดี และคุณภาพชีวิตที่ดี

โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศนโยบาย 3C Clear Clean Chlorine “น้ำประปาหมู่บ้านสะอาด” ที่จังหวัดสงขลา และร่วมกับเทศบาลตำบลปริก อ.สะเดา เป็นโครงการนำร่องพร้อมมอบธงขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวแก่ 7 จังหวัดด้ามขวานประเทศไทย ประกอบด้วย จังหวัดสงขลา ตรัง พัทลุง สตูล ปัตตานี นราธิวาสและยะลา 

วันนี้ ถือเป็นการขยายความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ให้มากขึ้น โดยลงนามความร่วมมือ ร่วมกับ 12 หน่วยงานได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดสงขลา สันนิบาตเทศบาลจังหวัดสงขลา ชมรมนายกองค์การบริหารส่วนตำบลจังหวัดสงขลา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา การประปาส่วนภูมิภาคเขต 5 สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 12 สงขลา สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 8 สงขลา สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 16 สงขลาสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสงขลา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ศูนย์อนามัยที่ 12 ยะลา และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ถือว่าจังหวัดสงขลาเป็นจังหวัดแรกที่จะมีการขับเคลื่อนตามนโยบายดังกล่าว

”การพัฒนายกระดับคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้านเป็นการลงทุนที่สร้างผลลัพธ์อันคุ้มค่าในระยะยาว ไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาชุมชนและประเทศอย่างยั่งยืน“ นายเดชอิศม์ กล่าว และว่า

จังหวัดสงขลาทุกแห่ง 141 แห่ง เป็นกุญแจสำคัญและเป็นหน่วยงานที่จะช่วยผลักดันให้บรรลุเป้าหมาย นั่นคือทุกแห่งตั้งงบประมาณสนับสนุนปีละ 1 หมื่นบาทในการพัฒนาคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้านเพื่อประชาชนชาวจังหวัดสงขลาทั้ง16 อำเภอ 127 ตำบล 1,180 หมู่บ้าน ประชาชน 1.4 ล้านคน จะมีน้ำประปาสะอาดใช้เพียงพอทุกคน 

นายเดชอิศม์ กล่าวต่อว่า ในปี 2568 กระทรวงสาธารณสุข ตั้งเป้าให้น้ำประปาหมู่บ้านในประเทศ ผ่านเกณฑ์น้ำประปาสะอาด 1,750 แห่ง และน้ำประปาหมู่บ้านขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในสงขลาอย่างน้อยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นละ 1 แห่ง

“สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ เป็นความร่วมมือกับทุกฝ่ายมโดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จะร่วมกับกรมอนามัยในการทำงานเชิงรุก เพื่อให้คนสงขลาบ้านเรามีน้ำประปาสะอาดในการอุปโภคบริโภค เพราะน้ำดื่มเป็นต้นทางสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี ซึ่งผมทำเรื่องนี้มาต่อเนื่องในการทวงคืนสิ่งแวดล้อมจังหวัดสงขลา” นายเดชอิศม์ กล่าว

ขณะที่ พญ. อัมพร เบญจพลพิทักษ์ กล่าวว่า  น้ำเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐต้องจัดหาให้กับประชาชน โดยเฉพาะการจัดน้ำดื่มที่สะอาดและเพียงพอเป็นประเด็นที่ทั่วโลก ให้ความสำคัญและเป็นเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป้าหมายที่ 6 (Sustainable Development Goal: SDG6) ขององค์การสหประชาชาติ(UN) เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงน้ำดื่มที่ปลอดภัยและมีราคาที่สามารถซื้อหาได้ สำหรับประเทศไทย รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยกำหนดเป็นแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ซึ่งประเทศไทยยังประสบกับปัญหาคุณภาพน้ำประปาไม่ได้มาตรฐาน

น้ำประปาหมู่บ้าน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่ประชาชนใช้มากที่สุด ข้อมูลจากกรมอนามัยในการสุ่มเฝ้าระวังคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้าน ตั้งแต่ปี 2561-2567 จำนวน 10,271 แห่ง พบว่า มีเพียง 420 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 4 เท่านั้น ที่ผ่านการรับรองเป็นน้ำประปาหมู่บ้านสะอาด ที่มีความปลอดภัยในการนำมาบริโภคในครัวเรือน ซึ่งถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับน้ำประปาในเขตเมือง และปัญหาสำคัญ คือ ยังขาดความครอบคลุมในการตรวจวิเคราะห์เพื่อประเมินคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้าน อันเนื่องมาจากขาดงบประมาณดำเนินการ

“ทั้งประเทศมีประปาหมู่บ้าน 69,028 แห่ง ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายเดชอิศม์ ขาวทอง จึงมีนโยบายพัฒนาและยกระดับคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้านให้สะอาดและปลอดภัยครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเริ่มต้นที่จังหวัดสงขลาเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย” พญ.พรทิพย์ กล่าว และว่า

วันนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่กรมอนามัยได้ลงนามร่วมกับ 12 หน่วยงานในจังหวัดสงขลา รวมทั้งแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงานน้ำประปาสะอาด เพื่อให้หน่วยงานในระดับพื้นที่ร่วมมือกันพัฒนาระบบประปาหมู่บ้านในพื้นที่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลของจังหวัดสงขลา ให้สามารถผลิตน้ำประปาได้ตามเกณฑ์คุณภาพน้ำประปาดื่มได้ของกรมอนามัย พ.ศ.2563 ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่มุ่งสนับสนุน ส่งเสริมให้ประชาชนมีน้ำบริโภคที่สะอาด ปลอดภัย เพื่อเป็นปัจจัยเอื้อในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนและสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDG6) ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ภายในปี พ.ศ. 2570

https://drive.google.com/file/d/1zaELsQLJlHBJhAt1M5RudyCFejQXA0UI/view?usp=sharing

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *