ในวันที่ 16 มกราคม ค.ศ. 1964 มีการประชุมกลุ่มผู้นำชาติอาหรับ ณ กรุงไคโร ภายใต้การดำริของประธานาธิบดีอียิปต์ นายกามาล อัลดุลนาศิรฺ (GamalAbd al-Nasir) ที่ประชุมได้เรียกร้องให้ก่อตั้งองค์การหนึ่งเพื่อแสดงให้เห็นถึงการมีอยู่จริงของชาวอาหรับปาเลสไตน์
วันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1964 สภาแห่งชาติปาเลสไตน์ (Palestinian National Council=PNC) สภาแรกได้จัดประชุมขึ้นครั้งแรก ที่ประชุมได้ประกาศสถาปนาองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ (Palestine liberation Organization = PLO) อย่างเป็นทางการ ในวันเดียวกัน ได้มีการประกาศจัดตั้ง กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติปาเลสไตน์ (Palestine Liberation Army = PLA) ขึ้นเพื่อเป็นแขนขาให้กับองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ “PLA” ปฏิบัติหน้าที่เป็นกองทัพประจำการขององค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ กองทัพนี้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของประธานกรรมาธิการบริหาร แห่งชาติปาเลสไตน์ (Executive Committee) ซึ่งควบตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดอยู่ด้วย สมาชิกและเจ้าหน้าที่ PLA ได้ถูกควบรวมไว้ ภายใต้กองทัพชาติอาหรับหลายชาติและรับเงินเดือนสูงมากจากรัฐบาลของชาติเหล่านั้น กองกำลัง PLA ส่วนใหญ่ตั้งฐานทัพอยู่ในอียิปต์ โดยพึ่งพากองทัพชาติอาหรับทั้งหลายทำสงครามทำลายล้างอิสราเอล จบลงด้วยความปราชัยความอัปยศ ร่วมกับกองทัพพันธมิตรชาติอาหรับในสงครามอาหรับ-อิสราเอล เดือนมิถุนายน คือการกอบกู้เอกราชให้แก่ดินแดนปาเลสไตน์ อันเป็นภารกิจที่มีลักษณะปกป้องตัวเองมากกว่ารุกราน และเป็นหน้าที่ที่มีบัญญัติและได้รับการเทิดทูนอยู่ในกฎบัตรสหประชาชาติ นับแต่แรกเริ่ม PLO ได้ประกาศถึงความเพรียบพร้อมที่จะเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับทุกประชาชาติที่รักอิสรภาพ ความยุติธรรมและสันติภาพ ทั้งยังได้เรียกร้องประชาชาติทั้งหลายเหล่านั้นให้สนับสนุนช่วยเหลือชาวอาหรับปาเลสไตน์ที่ได้ต่อสู้เพื่อให้ได้กลับคืนมาซึ่งผืนแผ่นดินที่เคยเป็นของพวกเขาโดยชอบธรรม อำนาจอธิปไตยและอิสรภาพบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดใน PLO คือ นายอะห์หมัด
ชุกัยรีย์ (Ahmad Shukairy) โดยได้รับเลือกเป็นกรรมาธิการบริหารองค์การ ซึ่งมีจำนวน 15 คนก่อนหน้านั้น นายชุกัยรีย์ เคยปฏิบัติหน้าที่นักการทูตและทนายความมาก่อน
ความจริงแล้ว การจัดตั้ง PLO เป็นเรื่องที่คาดหมายกันมาเนิ่นนานแล้ว ก่อนหน้านั้นเกือบหนึ่งปี คือ ในราวเดือนกันยายน ค.ศ. 1963 นายชุกัยรีย์เคยได้รับการยอมรับและการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตัวแทนชาวอาหรับปาเลสไตน์ โดยสันนิบาตอาหรับมาแล้วครั้งหนึ่ง
สังเกตุได้ว่า นายชุกัยรีย์ มิได้มาจากกลุ่มผู้นำชาวอาหรับปาเลสไตน์ที่มีอำนาจอิทธิพลยุคก่อน ค.ศ. 1948 ทั้งยังมิได้เคยเข้าร่วมกับกลุ่มแกนนำชาวอาหรับปาเลสไตน์ต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในปลายทศวรรษที่ 1950 และต้นทศวรรษที่ 1960 เขาเคยเป็นหัวหน้าตัวแทนทางการทูตของซาอุดีอาระเบียปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสหประชาชาติ 5 ปี (ค.ศ. 1958-1963) ซึ่งในปีสุดท้ายถูกรัฐบาลซาอุดีฯ ถอดถอนออกจากตำแหน่งเนื่องจากปฏิเสธไม่ยอมทำตามคำสั่งที่ให้ยื่นร้องเรียนต่อสหประชาชาติสำหรับคำฟ้องร้องอียิปต์โดยรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย แต่หลังจากนั้นไม่นาน คณะกรรมมาธิการการเมืองของสันนิบาตชาติอาหรับได้แต่งตั้งนายชุกัยรีย์ เป็นตัวแทนดูแลผลประโยชน์ของผู้ลี้ภัยชาวอาหรับปาเลสไตน์ ณ สหประชาชาติอีกครั้งตามแถลงการณ์จากที่ประชุมสุดยอด ณ กรุงไคโรใน ค.ศ. 1964 ดังกล่าวมาแล้ว พอจะสันนิษฐานได้ว่า มติสันนิบาตชาติอาหรับให้การสนับสนุนการจัดตั้ง PLO เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชนชาวอาหรับปาเลสไตน์และต่อสู้ปลดปล่อยดินแดนปาเลสไตน์ให้เป็นอิสระนั้นย่อมบ่งชี้ถึงคำมั่นสัญญาครั้งใหม่ของบรรดาชาติอาหรับที่จะร่วมกันต่อสู้เพื่ออุดมการณ์หรือเป้าหมายของชาวอาหรับปาเลสไตน์ โดยเนื้อแท้แล้ว ความสำคัญของมติดังกล่าวมีอยู่หลายระดับตามมุมมองที่แปลกแยกแตกต่างของผู้นำชาติอาหรับแต่ละชาติ ญะมาล อับดุลนาศิรฺ ผู้นำอียิปต์ให้การสนับสนุนแนวคิดการก่อตั้ง PLO อย่างชัดเจนเพื่อรวมองค์การใหม่นี้ มาอยู่ภายใต้อำนาจสั่งการของสันนิบาตชาติอาหรับที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของเขา
แนวคิดนี้ ย่อมยับยั้งปฏิบัติการต่อต้านอิสราเอลด้วยอาวุธโดยชาวอาหรับปาเลสไตน์ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจชักนำให้เขาเผชิญกับรัฐชาติยิวโดยตรงได้ เป้าหมายของผู้นำอียิปต์สอดคล้องกับเหตุจูงใจหลายประการในการเรียกร้องให้จัดการประชุมสุดยอดครั้งนั้น เช่น เจตนาที่จะหันเหหรือเบี่ยงเบนความประสงค์ของชาติซีเรียที่อยากให้ทุกชาติอาหรับใช้วิธีการทางทหารยับยั้งแผนการเบี่ยงแนวไหลของกระแสน้ำในแม่น้ำจอร์แดนของอิสราเอล กลยุทธ์ที่ชาญฉลาดเช่นนั้นทำให้ประธานาธิบดีอียิปต์กลายเป็นผู้นำโดดเด่น ถูกมองว่าเป็นนักต่อสู้เพื่อประชาชาติอาหรับและมีความกังวลอย่างลึกซึ้งต่อปัญหาปาเลสไตน์ ความจริงแล้วสาเหตุที่สำคัญที่สุดของความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างอียิปต์และซีเรีย นับตั้งแต่ต้นทศวรรษที่ 1960 มานั้นสืบเนื่องมาจากความล้มเหลวหรือการพังทลายลงของ “สาธารณรัฐอาหรับ” (United Arab Republic = UAR) ซึ่งเป็นรัฐรวมระหว่างอียิปต์กับซีเรีย (เพื่อต่อต้านอิสราเอล) เดือนกันยายน ค.ศ. 1961 เหตุการณ์นี้ได้ทำให้ซีเรียกล่าวหาว่า นาศิรฺแห่งอียิปต์ ไม่ให้ความสำคัญกับปัญหาปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นคำกล่าวหาที่อียิปต์ปฏิเสธอย่างแรง
มุมมองที่สองคือ มุมมองของกลุ่มผู้นำเก่าของชาวอาหรับปาเลสไตน์ที่สูญเสียฐานมวลชนและถูกกีดกันไม่ให้มีส่วนร่วมในการจัดตั้งและบริหาร PLO โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม Higher Arab Committee ที่ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน ค.ศ. 1936 ภายใต้การนำของ
นายมุฮัมมัดอามีน อัลฮุสัยนีย์ นักศาสนาและการเมืองของชาวอาหรับปาเลสไตน์ ถึงแม้ว่ากลุ่มนี้ถูกประกาศว่า ผิดกฎหมายในราวเดือนกันยายน ค.ศ. 1937 โดยอังกฤษที่ดูแลปาเลสไตน์อยู่ในขณะนั้น แต่ก็ยังปฏิบัติการอยู่อย่างลับๆ จนกระทั้งถึงปลายทศวรรษที่ 1960 กลุ่มผู้นำเก่านี้คัดค้านการก่อตั้ง PLO อย่างรุนแรง นายฮุสัยนีย์ได้ประณามและกล่าวหา PLO ว่าเป็น “อุบายของลัทธิล่าอาณานิคมและลัทธิไซออนิสต์ที่มุ่งทำลายอุดมการณ์ของชาวอาหรับปาเลสไตน์”ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การสถาปนา PLO ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ชาวยิวอย่างแรง พวกเขากล่าวว่าการก่อตั้งองค์การนี้จะนำมาซึ่งภัยพิบัติและการคุกคามโดยตรงต่อการดำรงอยู่และบูรณภาพของอิสราเอล โดยให้เหตุผลว่า วัตถุประสงค์ทั้งมวลขององค์การนี้มีลักษณะก้าวร้าวและรุกราน มุ่งมั่นที่จะทำลายอธิปไตยอิสราเอล พวกเขาได้ยื่นประท้วงต่อสหประชาชาติโดยการกล่าวหาว่า PLO คือแหล่งกำเนิดความหายนะและการสูญเสียความมั่นคงของอิสราเอล หากคำว่า “การรุกราน” สามารถนำมาบรรยายหรือจำกัดความมุ่งหมายของ PLO ซึ่งเรียกร้องและต่อสู้เพื่อทวงถามผืนแผ่นดินที่เป็นกรรมสิทธิ์อันชอบธรรมของพวกเขาที่ถูกยื้อแย่งและยึดครองไปแล้วนั้น ชาวอาหรับปาเลสไตน์ทั้งมวลเชื่อว่า นิยามเดียวกันนี้ย่อมมีความหมายเบาบางเกินไปจนไม่เหมาะสมที่จะนำมาอธิบายการรุกราน การเหยียบย่ำดินแดนปาเลสไตน์โดยชาวยิวต่างด้าวทั้งหลาย ผู้ที่ไม่เคยตั้งถิ่นฐานอยู่ในปาเลสไตน์หรือแม้กระทั้งเห็นแผ่นดินนี้มาก่อน การสังหารหมู่ การทรมานและการขับไล่ชาวอาหรับผู้ตั้งถิ่นฐานอยู่ในภูมิภาคนี้มานานนับหลายศตวรรษ ทั้งนี้เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์แห่งการครอบครองดินแดนของพวกเขาอย่างถาวร