หัวอกพ่อแม่ถูกสะเก็ดระเบิด แม่ทัพ4เยี่ยมเด็กระยังออกจากICU

ความคืบหน้าเหตุคนร้ายยิงปะทะ-กดระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ -อส.ขณะตรวจพื้นที่เขตเทศบาลตำบลยะรัง อ.ยะรัง ปัตตานี เมื่อคืนวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เบื้องต้นรู้ตัวแล้วว่าเป็นกลุ่มใด ขณะที่อาการเด็กน้อยปลอดภัย ออกจากห้อง ICU แล้ว อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยแพทย์ยังไม่สามารถผ่าตัดสะเก็ดระเบิดออกจากปอดได้เนื่องจากเด็กยังเล็กมาก

เวลา 13.09 น. วันที่ 30 สิงหาคม 2566 พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางเข้าเยี่ยมอาการผู้ได้รับบาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลปัตตานี ประกอบด้วย 1. ส.ต.ท.อิสมาแอ็น จิตหลัง 2. ส.ต.ต.ธนทัต โชคมาก 3. ส.ต.ต.ธวัช เส็นฤทธิ์ และ 4. ด.ช.ดานิช ฮาเฮาะ

โดย เด็กชาย ดานิช ฮาเฮาะ ได้ย้ายออกจากห้อง ICU มาพักรักษาตัวยังห้องพิเศษ ยังคงมีอาการซึม และร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดตลอดเวลา

สำหรับสะเก็ดระเบิด(เศษกระจก)ที่ฝังอยู่บริเวณปอดนั้น แพทย์ผู้รักษาแจ้งว่า จะต้องให้เด็กโตกว่านี้จึงจะสามารถผ่าตัดนำเอาเศษสะเก็ดออกมาได้ เนื่องจากเด็กยังอายุน้อยมาก โดยแพทย์จะประเมินการรักษาเป็นระยะ ๆ ต่อไป

ส่วนความคืบหน้าของคดี แม่ทัพภาคที่ 4 เผยว่า ได้พูดคุยติดตามคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุอย่างใกล้ชิด จากพยานหลักฐานซึ่งมีพอสมควร โดยเฉพาะปลอกกระสุนปืนของคนร้ายที่เชื่อว่าจะขยายข้อมูลไปสู่ความเชื่อมโยงของกลุ่มที่ก่อเหตุได้ คาดว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เคลื่อนไหว ในพื้นที่ อ.ยะรัง และ อ.มายอ จ.ปัตตานี อยู่ระหว่างการตรวจสอบให้มีความชัดเจน และต้องดำเนินการอย่างละเอียดรัดกุม

“การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจ ภาคประชาชนจากนี้ จะต้องพลิกแพลง ปรับเปลี่ยนแผนการทำงาน ไม่ใช้วิธีเดิม ๆ “ พลโท ศานติ กล่าว และว่า

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียชีวิต และขอให้เชื่อมั่น เจ้าหน้าที่รัฐ ตลอดจนทุกส่วนที่เกี่ยวจะช่วยเหลือ เยียวยาดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด และสิ่งสำคัญขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน

โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ผู้นำศาสนา ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่รัฐ หากพบสิ่งผิดปกติก็ให้ช่วยแจ้ง โดยทันที เพราะการสูญเสียไม่ใช่เกิดเฉพาะกับตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้น แต่ยังกระทบเป็นบุคคล ประชาชนผู้บริสุทธิ์ อย่างกรณีนี้ ผู้ได้รับผลกระทบเป็นเด็กน้อยไร้เดียงสา

ขณะที่ นายอูบิร ฮาเฮาะ พ่อของเด็กชาย เผยว่า ขณะที่ตนพาลูกชายไปซื้อขนม ระหว่างทางกลับบ้าน ก็มีเสียงดังขึ้นตรงบริเวณเสาไฟฟ้า ตนตกใจมาก ความคิดแรกกลัวว่าลูกจะเป็นอะไร จึงรีบนำลูกกลับบ้าน กระทั่งลูกร้องให้ดังมาก ตนเห็นว่ามีเลือดออกมาบริเวณหน้าอกขวาของลูก ตกใจ จึงรีบแจ้งกู้ภัย แต่ไม่มีใครรับสาย

“ผมรู้ว่าตอนนั้นมีการระเบิด ปะทะขึ้น เจ้าหน้าที่คงอาจจะวุ่นวายอยู่ จึงรีบนำลูกขึ้นมอเตอร์ไซค์ จากยะรัง ขับมาโรงพยาบาลปัตตานี ระยะทาง 20 กอโลเมตร” นายอูบิร กล่าว และว่า

ตนรู้ว่าตัวเองก็ถูกสะเก็ดระเบิดที่เท้า แต่ชีวิตของลูกสำคัญกว่า ไม่อยากให้ลูกเป็นอะไรไป

ด้าน นางอัสมีรา ฮาเฮาะ แม่เด็ก เผยว่า หลังทราบข่าวตกใจมาก ส่งสารลูกมาก กินก็ไม่ได้ นอนก็ไม่หลับ ต้องดูลูกตลอดกลัวว่าลูกจะเป็นอะไรไป

“รู้ว่า อาการลูกปลอดภัยแล้ว แต่หมดบอกว่ามีสะเก็ดระเบิดยังอยู่ในตัว ยังไม่สามารถนำออกได้ ต้องรอให้โตกว่านี้
“ นางอัสมิรา กล่าว และว่า

ช่วงที่พาลูดมา โรงพยาบาลใหม่ๆ ร้องให้หนักมาก กินอะไรไม่ได้ พอกินก็อ้วกออกมา

S 493969420 0

“เสียใจมากกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย อยากให้ลูกหายไว้ๆ ดูแล้วอยากเจ็บแทนลูกมาก ตอนนี้ลูกก็เปลี่ยนไปจากเดิม ที่เป็นเด็กร่าเริง กลายเป็นเด็กดูไม่มีความสุข”

ภาพ/ข่าว
มะอายือมิง สาแล๊ะ
ปัตตานี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *