“รองฯสุขทัศน์” เร่งแก้ปัญหาราคายางพาราหลังทำหน้าที่ “รักษาการผู้ว่าการกยท.” ด้วยโครงการรักษาเสถียรภาพราคา-ชะลอยางออกสู่ตลาด และพบผู้ผลิตยางขยายตลาดยาง EUDR ขณะที่ประธานภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางฯระบุเป็นคนที่รับฟังเกษตรกร แนะเร่งแก้ปากท้อง-สวนยางยั่งยืน-ใช้ยางพาราทำถนน

หลังจากที่ คณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย(บอร์ด กยท.) มีคำสั่งแต่งตั้ง นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ เป็นผู้รักษาการผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2567
นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล เปิดเผย “ภาคใต้โฟกัส” ว่า เรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการคือ ราคายางที่ลดลงมาจากวันที่ราคาสูงสุดที่ 80 กว่าบาทต่อกิโลกรัม ตอนนี้เหลือ 60 กว่าบาทต่อกิโลกรัม
“กยท.ต้องเข้าไปดำเนินการให้ราคามีเสถียรภาพ และปรับตัวสูงขึ้นในราคาที่เหมาะสม”
โดยใช้ 2 โครงการที่ กยท.มีคือ โครงการรักษาเสถียรภาพราคายาง นั่นคือ ถ้าหากราคายางต่ำกว่า
ราคาที่กยท.ประกาศในแต่ละวันเกิน 2 บาทต่อกิโลกรัม ทาง กยท.จะเข้าไปประมูล
“ถ้าวันไหนไม่มีคนซื้อยางในตลาดกลาง กยท.ก็จะเข้าไปประมูล โดยกยท.มีการซื้อขายล่วงหน้าไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งน้ำยางสด และยางแผ่นรมควัน”
กยท. จะขยายโครงการนี้เพื่อเพิ่มปริมาณการรับซื้อ โดยเฉพาะน้ำยางสด ซึ่งเป็นวัตถุดิบต้นทาง โดยขณะนี้ได้ส่งน้ำยางข้นไปต่างประเทศเดือนละ 1,050 ตัน ก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก 2 เท่า
“ยางแผ่นรวมควันก็จะดำเนินการเช่นเดียวกัน”
และโครงการชะลอยาง ถ้าราคาต่ำ เกษตรกรจะเอาเงินจากยท. 80% เข้าไปซื้อยางเก็บไว้ แล้วก็นำออกมาขายผ่านตลาดกลางในราคาที่เหมาะสม
โดย กยท.ให้เงินอุดหนุนมาตรา 49 (3) ไปให้สถาบันเกษตรกรไปรวบรวมยางก้อนถ้วย และมีห้องเก็บยางแผ่นรมควันดูดความชื้น ที่สามารถเก็บได้นานกว่า 60 วัน
นายสุขทัศน์ กล่าวว่า จะขยายวงเงินเพิ่มขึ้นเพื่อให้ชาวบ้านสามารถซื้อยางเก็บไว้ได้มากขึ้น รวมไปถึงการขยายตลาดยาง EUDR (European Union Deforestation-free Regulation) กฎหมายห้ามการทำลายป่า โดยกยท.จะคุยกับผู้ซื้อโดยตรง ไม่ว่าจะเป็น มิชลิน, บริดจสโตน และ ซูมิโตโม
“ผมจะเดินสายไปพบผู้บริหารสูงสุดของแต่ละบริษัท เพื่อให้ทราบปริมาณความต้องการของแต่ละบริษัทว่า มีความต้องการยาง EUDR เท่าไหร่ เพื่อจะได้วางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการ ไม่ใช่ผลิตจนเกินความต้องการ มันก็จะไม่มีประโยชน์” นายสุขทัศน์ กล่าว และว่า
แนวทางสุดท้าย คือการจัดหาปัจจัยการผลิต ที่เป็นยี่ห้อของ กยท. ไม่ว่าจะเป็นน้ำกรด ปุ๋ย ในราคาที่เป็นธรรมกับเกษตรกร
“นี่คือเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการในขณะนี้” นายสุขทัศน์ กล่าว
ขณะที่ นายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพารา-ปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย(คยปท.) กล่าวถึงรักษาการผู้ว่าการกยท.ว่า เป็นคนที่มีความเข้าใจและเห็นใจเกษตรกร

“หลังจากที่ท่านมาทำหน้าที่ในตำแหน่งรักษาการผู้ว่าการการกยท. หลาย ๆ เรื่องก็น่าจะดีขึ้น และผมคิดว่าได้ท่านมาทำงาน ผมว่าจะได้รับฟังเสียงเกษตรกรบ้าง” นายทศพล กล่าว และว่า
เรื่องการแก้ไขปัญหาต้องใช้เวลา ต้องดูว่าฝีมือท่านจะแก้ปัญหาได้มากน้อยแค่ไหน โดยเรื่องเร่งด่วนสำหรับเกษตรกรที่หนักมากคือ เรื่องปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจ
“อยากให้ท่านเข้ามาสานต่อเรื่องสวนยางผสมผสาน เรื่องสวนยางยั่งยืน อยากให้ผลักดันให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกรเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการแก้ไขปัญหา เพราะดูแล้วแนวโน้มเศรษฐกิจปีนี้ประมาณนี้ และคิดว่าปีหน้า (2568) หนักแน่นอน เป็น
วิกฤติของคนระดับกลางและล่าง ซึ่งจะต่างกับวิกฤติปี 2540”
ซึ่งผลกระทบเศรษฐกิจเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ถึง 2 ปี ตอนนั้นทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งได้รับกระทบมาก แต่รอบนี้คนที่จะได้รับผลกระทบมาที่สุดคือ ระดับกลางและระดับล่างหรือฐานรากจึงอยากฝากท่านรักษาการผู้ว่าการกยท. เรื่องสวนยางยั่งยืน สวนยางผสมผสาน ป่าเศรษฐกิจ แหล่งอาหาร ซึ่งเกษตรกรได้ดำเนินการ แต่อยากให้จะ กยท.เข้ามามีบทบาท เข้ามาส่งเสริมใช้ปราชญ์ชาวบ้านแนะนำชาวบ้าน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือสนับสนุนงบประมาณลงมา ให้เกษตรกรได้ลืมตาป้าปาก
ส่วนเรื่องราคายางที่ตกต่ำในขณะนี้ ซึ่งถือว่าค่อนข้างจะแย่ ราคาปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง เกษตรกรค่อนข้างจะอึดอัด สวนทางกับราคาสินค้าที่แพงขึ้นทุกอย่าง สินค้าเกษตรไม่ว่าจะเป็นยางพารา หรือปาล์มน้ำมัน โดนกดราคาเสียจน อยากให้ท่านเข้ามาช่วยผลักดันเรื่องการใช้ยางภายในประเทศมากขึ้น

“เหมือนกับช่วงประมาณ ปี 2558-59 และ 2560 ที่ผมพยายามให้กรมทางหลวงนำยางพารามาเป็นส่วนผสมในการทำถนนลาดยาง แล้วก็เร่งการใช้ยางในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่ายางล้อ ซึ่งใช้ยางธรรมชาติเยอะมาก”
นายทศพล กล่าวด้วยว่า ทาง กยท.ประกาศทำยางล้อของ กยท. ซึ่งถ้ากยท.เอาจริงเอาจัง จะช่วยดึง ยางออกจากตลาดได้เป็นจำนวนมาก และสามารถถ่วงดุลพ่อค้าที่กดราคาในรูปแบบต่าง ๆ รวมไปถึงการปราบปรามยางเถื่อนที่เข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีการปราบปรามอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนที่จะเงียบหายไป จึงอยากให้กยท.เอาจริงเอาจังต่อเนื่อง
ปัจจุบัน พบว่ายังมีการลักลอบนำยางพาราจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก จึงอยากฝากท่านรักษาการผู้ว่าการกยท.ได้ตรวจสอบดูแลตรงนี้ แล้วเร่งแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
“นี่คือสิ่งที่อยากฝากให้ท่านรักษาการผู้ว่าการกยท.ดำเนินการเร่งด่วน”
สรุปสิ่งที่อยากให้ท่านรักษาการผู้ว่าการกยท.เร่งดำเนินการคือ เร่งการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง เรื่องสวนยางยั่งยืน เกษตรผสมผสาน วนเกษตร ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ ประมง
“กยท.จะต้องเร่งดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาเสถียรภาพราคายาง เพราะไม่เช่นนั้นเดือดร้อนแน่ ถ้าราคายางพาราลดลงมากกว่านี้ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นสำหรับรัฐบาล” นายทศพล กล่าว
