ผู้นำหลายภาคส่วนจังหวัดสงขลา ตั้งวงแลกเปลี่ยน “รัฐมนตรีเดชอิศม์” ผลักดันการแก้ปัญหาและการพัฒนา รับการประชุมครม.สัญจร ทั้งในส่วนที่ของบประมาณและให้แก้กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค
วงเสวนา “ครม.สัญจร โอกาสของสงขลาบ้านเรา” 25 มกราคม 2568 ณ โรงแรมนิวซีซั่น สแควร์ หาดใหญ่ จ.สงขลาดำเนินการโดย นายภูวสิษฎ์ สุขใส บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคใต้โฟกัส/สื่อออนไลน์ สงขลาโฟกัส มีผู้นำองค์กรธุรกิจ และสังคมเข้าร่วม 20 คน เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนนำเสนอการพัฒนาจังหวัดสงขลา เสนอต่อที่ประชุมครม.สัญจร ที่จังหวัดสงขลา วันที่ 16-18 กุมภาพันธ์ 2568 ผ่าน นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข/เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และสส.สงขลา เขต 5
“การประชุมหารือวันนี้ถือว่า ไม่เป็นทางการ แต่ทุกประเด็นเป็นประโยชน์ทั้งหมด ถึงแม้ว่าช่องทางการของบประมาณครม. แม้ในครั้งนี้มีข้อจำกัดในเรื่องช่องทาง ก็ต้องได้ประโยชน์ และถ้าได้ประเด็นผมอาจต้องพบกับนายก ผมอยากให้ทุกคนมั่นใจว่าทุกประเด็นมีความสำคัญ โครงการอาจจะไม่ได้ครั้งนี้แต่ก็ได้ครั้งหน้า” นายเดชอิศม์ กล่าวเปิดการเสวนา และว่า อยากเห็นปัญหาของพี่น้องชาวสงขลาในทุกภาคส่วน โดยความสำคัญของแต่ละปีก็เปลี่ยนไปวันนี้เรื่องนี้อาจจะสำคัญแต่ปีหน้าเรื่องอื่นอาจจะสำคัญกว่า



นายวัชชพล บริสุทธิ์กุล (นายกแบงค์) นายกเทศมนตรีเมืองสะเดา นำเสนอในนามตัวแทนสันติบาตเทศบาลจังหวัดสงขลาว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสงขลา ได้หารือร่วมกันมีข้อเสนอต่อครม.เพื่อผลักดันให้จังหวัดสงขลาทั้งจังหวัด เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะกิจ
“จังหวัดสงขลาเสียโอกาสในการพัฒนาไม่ว่าจะเป็นในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ทำไมท้องถิ่นเราพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้ช้า ส่วนนึงก็เพราะว่าจังหวัดของเราไม่ได้อยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะกิจ ซึ่งหากผลักดันเรื่องนี้จะได้ประโยชน์ของภาครัฐในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน และภาษีต่างๆ ที่จะได้รับการสนับสนุน” นายกแบงค์ กล่าว และว่า
ประเด็นที่ 2 เรื่องโครงสร้างพื้นฐานหลัก ปัจจุบันถนนกาญจนวนิช ซึ่งเชื่อมระหว่างชายแดนไทย-มาเลเซียไปจนถึงตัวเมืองหาดใหญ่ มีสภาพรถติดมากและไฟแดงเยอะ อยากให้ท่านรัฐบาลช่วยผลักดันให้รัฐบาบสนับสนุนงบประมาณในเรื่องถนน จะทำให้การไปเที่ยวเมืองสงขลาสะดวกมากยิ่งขึ้น
ประเด็นที่ 3 นายสินธพ อินทรัตน์ นายก อบต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ กล่าวว่า การแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ในพื้นที่รอบลุ่มทะเลสาบสงขลา เนื่องจากการระบายน้ำเข้าสู่ทะเลสาบหรือออกสู่ทะเลสาบที่ขาดการดูแลอย่างจริงจัง ถ้าได้รับการดูเเลจะทำให้ผู้ประกอบการ จัดทำการท่องเที่ยวได้อย่างมากขึ้น
ประเด็นที่ 4 ถนนปุณณกันต์ หากได้รับการขยายให้เป็นสี่เลนท์ เชื่อมโยงกับอำเภอนาหม่อมจะเกิดความสะดวกมากยิ่งขึ้นนายสิทธิศักดิ์ ตันมงคล เลขาธิการสภาเศรษฐกิจหาดใหญ่ กล่าวว่า การที่เรามีเมืองอยู่ในทำเลที่ดีหรือยุทธศาสตร์ที่ดี แต่การที่เราดำเนินเรื่องต่างๆโดยไม่มีทิศทางนี่คือปัญหา ในยุคนี้ หากจะก้าวไปสู่อนาคตจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง และหาดใหญ่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจระดับอาเซียน ซึ่งหากเอาจุดเด่นทั้งหมดมารวมกันให้เกิดผลก็ต้องสร้างความร่วมมือกันเพื่อรองรับการขยายผลเมื่อเมืองได้รับการพัฒนา ควรรวบรวมเมืองที่เป็นจุดแข็งทั้งหมด ที่สภาเศรษฐกิจหาดใหญ่จะเสนอเข้าในครม.ครั้งนี้มี 9 โครงการคือ 1. โครงการเมื่องสุขภาพ, 2. โครงการศูนย์บริการด้านการเเพทย์และบริการสุขภาพหาดใหญ่, 3. โครงการนวัตกรรมอาหาร, 4.โครงการเมืองเเห่งการเรียนรู้, 5. โครงการทีเคปาร์ค, 6. โครงการพัฒนาย่านการค้าหรือผังเมือง, 7.โครงการขนส่งอัจฉริยะ, 8. โครงการโรงแรมเศรษฐกิจหาดใหญ่-กัวลาลัมเปอร์ และ 9. โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางพารา


นายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา ได้นำเสนอเรื่องศูนย์ภาษานานาชาติโดยสำนักงานกรรมการกลางอิสลามจังหวัดสงขลาได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเรียนรู้ภาษาต่างๆ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษามลายู ภาษาอาหรับ และภาษาจีน ซึ่งจังหวัดสงขลาเป็นเมืองหน้าด่านของภาคใต้ เป็นเมืองแห่งสังคมพหุวัฒนธรรม สันติสุข เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และประตูสู่อาเซียน ภาษามีความสำคัญยิ่งที่จะต้องส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของประชาชนให้มีความสามารถในการสื่อสารกับชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวหรือเข้ามาทำธุรกิจในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อันจะส่งผลให้มีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และส่งผลต่อประโยชน์โดยรวมของประเทศชาติสำนักงานกรรมการกลางอิสลามประจำจังหวัดสงขลาขอเป็นตัวกลางในการจัดสร้างอาคารศูนย์การเรียนรู้ภาษาวัฒนธรรม เป็นอาคาร 2 ชั้น บนเนื้อที่ 60 ไร่ ของมัสยิดกลางจังหวัดสงขลา
นายวรัชญ์ ปริสุทธิ์กุล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา กล่าวว่า สมาคมฯ สนับสนุนแนวคิดของผู้บริหารท้องถิ่น ถ้าเศรษฐกิจดี คนก็อยากจะเข้ามาอยู่สงขลา โครงสร้างพื้นฐานเป็นสิ่งที่สำคัญ ในโอกาสพิเศษนี้เรามีโอกาสที่จะนำเสนอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการโครงการมอเตอร์เวย์ชายแดนสะเดา-หาดใหญ่ เพราะถนนกาญจนาวณิชย์เป็นเส้นเลือดหลัก ในการนำนักท่องเที่ยวและนักลงทุนเข้ามาแต่การจราจรวันนี้ไม่ได้ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว การขนส่งเองก็ไม่มีประสิทธิภาพ
“ดีใจที่วันนี้ท่านรัฐมนตรีได้ช่วยผลักดันถนนสายฟรีเวย์ ที่กรมทางหลวงชนบทได้ดำเนินการไว้แล้ว ซึ่งถนนฟรีเวย์ที่จะทำให้ความเจริญขยายออก ไปรองรับความเจริญจากถนนกาญจนาวานิชย์ รวมถึงแก้ปัญหารถติด การจราจร ลดอุบัติเหตุ และน้ำท่วมด้วย” นายวรัชญ์ กล่าว และว่าขณะเดียวกัน ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ที่เป็นหน้าตาของบ้านเรา แออัดมาก จึงอยากจะได้มีการขยาย รวมถึงชอให้สนับสนุนรถไฟทางคู่ปาดังเบซาร์-หาดใหญ่ ให้เริ่มต้นในส่วนของภาคใต้
นายอภิยุทธ์ ศีลประชาวงศ์ เลขาธิการสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลานำเสนอเรื่องเมืองสุขภาพว่า หาดใหญ่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาตินิยม โดยเฉพาะชาวมาเลย์และสิงคโปร์ อีกทั้งหาดใหญ่ สงขลามีพร้อมทางการแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์มีเยอะและมีความสามารถเป็นที่ยอมรับ มองว่ามีความเป็นไปได้ที่จะสนับสนุนให้หาดใหญ่ สงขลาเป็นแหล่งที่ชาวต่างชาติมาเกษียณและเป็นการสร้างงานบุคลากรทางการแพทย์ อย่างเช่น ผู้ช่วยพยาบาล สามารถได้เงินเดือนที่ค่อนข้างสูง บุคลากรทางการแพทย์ยังสามารถพัฒนาที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ได้อีกด้วย
นายวรวิทย์ พงษ์จีน นายกสมาคมเอสเอ็มอีจังหวัดสงขลา เสนอให้ครม.สัญจรเร่งรัอนุมัติงบประมาณถนนวงแหวนรอบนอกหาดใหญ่ และการ พัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา จะนำเรียนอีกที
นายพิชัย จงไพรัตน์ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีภาคใต้ กล่าวว่า ถ้าธุรกิจเอสเอ็มอีแข็งแรง สงขลาก็จะเข้มแข็ง ในจังหวัดสงขลาเรามีธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพอยู่มาก ซึ่งทุกท่านก็ทราบว่าเป็นเมืองที่มี 5 มหาวิทยาลัย มีศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรม อุทยานวิทยาศาสตร์ ศักยภาพของสงขลาดีที่สุด แต่ที่เห็นปัญหาคือ การเชื่อมโยงศักยภาพเหล่านี้กับทรัพยากรของส่วนกลาง ที่ยังไม่ได้หยิบมาใช้ในเอสเอ็มอี“ผมขอเสนอโครงการสภาการค้าสากลที่เป็นสัมมนาแบบทวิภาคี อยากให้จังหวัดสงขลาและหาดใหญ่ดึงศักยภาพนักลงทุนที่เขาเลือกมาลงทุน เพราะจังหวัดสงขลาเป็นเมืองที่มีการค้าสากลแบบทวิภาคีกับเมืองต่างๆ ทั่วโลก กระทรวงพาณิชย์ กระจายอยู่ทั่วโลก มีหน้าที่เป็นเซลล์แมนให้กับประเทศไทย ถ้าเราสามารถตั้งสภาการค้าสากลขึ้นที่จังหวัดสงขลาที่เราแสดงศักยภาพเหล่านี้ผู้ประกอบการท้องถิ่นที่ผลิตสินค้าโดยเฉพาะสินค้าที่มีนวัตกรรมสินค้า” นายพิชัย กล่าว และว่า เราจะไปตั้งสภาการค้าสากลที่อุทยานวิทยาศาสตร์ และให้ทูตพาณิชย์ที่กระจายทั่วโลกได้รับโจทย์นี้ไปว่าในจังหวัดสงขลาหรือภาคใต้ตอนล่างเรามีสินค้าที่มีศักยภาพใดบ้าง ที่ให้ทูตพาณิชย์นำไปพัฒนาเชิงรุกร่วมกับสภาการค้าทั่วโลก โดยเชื่อมโยงสมาพันธ์เอสเอ็มอี หรือหอการค้าจังหวัดสงขลา “อยากให้ทูตพาณิชย์เชิญองค์กรของหอการค้า หรือสมาพันธ์เอสเอ็มอีในจังหวัดวันนั้น ๆ มาเยี่ยมเยียนเรา การท่องเที่ยวจะได้รับประโยชน์ด้วย”
ดร. สิทธิพงศ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดหาดใหญ่-สงขลา กล่าวว่า อยากให้ครม.สัญจรสนับสนุนในเรื่องที่ไม่ต้องใช้งบประมาณ เช่น การกระตุ้นการท่องเที่ยวตั้งแต่สะเดามาถึงสงขลา โดยให้มีจุดคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยวที่บริเวณด่านสะเดา และด่านปาดังเบซาร์ ให้นักท่องเที่ยวสามารถขอคืนภาษีได้ “เรื่องที่เราผลักดันมาตลอดคือ ซึ่งเราเข้าสู่ยุคออนไลน์แล้วคือ การเปลี่ยนรูปแบบการกรอกตม.2 มาใช้ QR Code เพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวและยกเลิกค่า OT ตรวจนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าออก รวมถึงฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยว 92 ประเทศอยู่ได้ 60 วัน ทั้งคนและรถ” ดร.สิทธิพงษ์ กล่าว และว่าขอให้มีมาตรการส่งเสริมกิจกรรมไมซ์ ในจังหวัดสงขลาให้ห้างร้านต่างๆ ที่มาทำกิจกรรมสามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้ รวมถึงการเอา “หอยสังข์”มาปรับเป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยวทางน้ำของทะเลสาบสงขลา
นายวิทยา ลิ่ม จากสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพจังหวัดสงขลา กล่าวว่า มัคคุเทศก์ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ปัจจุบันโรงแรมต่างๆ ในหาดใหญ่กว่า 20 แห่งรวมประมาณ 3,500 ห้องที่กู้เงินมาปรับปรุงไม่ได้ทำให้บางช่วงนักท่องเที่ยวไม่มีห้องพัก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลอีกทั้ง หากรถไฟของเราสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟมาเลย์ที่มาถึงปาดังซาร์ จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้มาก “นวดไทย ถ้าเราสนับสนุนได้จะช่วยเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้มาก ซึ่งนวดแผนโบราณสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย แต่ทุกวันนี้ต่างด้าวมาประกอบอาชีพและไม่ได้ผ่านการอบรม ทั้งยังตัดราคาของบริษัททัวร์ จากปกตินวดไทย 2 ชั่วโมง 500 บาท เขาลดเหลือ 300บาท” นายวิทยา กล่าว
นายสืบสกุล ศรีสุข เลขามูลนิธิสงขลาสู่มรดกโลก กล่าวว่า เท่าที่ทราบไม่มีรายงานว่า ครม.สัญจรพูดถึงการขับเคลื่อนสงขลาสู่มรดกโลก ทั้งเราได้ขึ้นทะเบียนเบื้องต้นจากยูเนสโกแล้ว
นายมาพ เพ็งครุฑ เลขานุการนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ กล่าวว่า เทศบาลนครหาดใหญ่ขอนำเสนอโครงการที่ต่อยอดนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในการลดโรค และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ทั้งสุขภาพความงาม และแพทย์แผนไทย ที่จะสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวศักยภาพสูงให้กับประเทศไทย ทั้งยังรองรับการเป็นเมืองไมซ์ซิตี้
นายนิยม ชูชื่น ประธานสมาคมผู้สูงอายุจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลามีผู้สูงอายุกว่า 250,000 คน อยากให้รัฐบาลสนับสนุนชมรมผู้สูงอายุ 308 ชมรม ที่มีสมาชิกประมาณ 50,000 คน ที่ยังมีสุขภาพดีและยังเป็นพลเมืองที่เป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาบ้านเมืองได้สนับสนุนให้เข้มแข็งเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยกันดูแล ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต และลดภาระโดยรวมของภาครัฐ
นายณรงค์ ขุ้มทอง นายกสมาคมคลองไทย นำเสนอการพัฒนาเชิงยุทธศาสตร์ ทั้งโครงการคลองไทย และเขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมถึงการส่งเสริมด้านกีฬา
ดร.ไพโรจน์ ชัยจีระธิกุล รองประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา กล่าวว่า โครงการฟรีเวย์ เป็นถนนเลี่ยงเมือง สาย 41 และ 45 ระยะทาง 15 กิโลเมตร ที่จะบรรเทาการจราจรถนนกาญจนวณิชย์ ไปจนถนสนามบินนานาชาติหาดใหญ่่ เป็นโครงการใหม่ที่ยังไม่ผ่านมติครม. จึวอยากขอให้เร่งรัด ให้เป็นถนนคู่ขนานกับถนนกาญจนาวณิชย์ เลี้ยวซ้ายออกมาจากด่านนอก ส่วนโครงการมอเตอร์เวย์ ได้รับอนุมัติในหลักการมาแล้ว แต่ติดขัดที่งบประมาณ
“ในการประชุมครม.สัญจรครั้งนี้ อยากจะให้พิจารณากลุ่มจังหวัดสงขลา ในการเป็นกลุ่มใหม่ร่วมกับพัทลุง และขอให้รวมจังหวัดสงขลาเป็นเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้” ดร.ไพโรจน์ กล่าว

ทั้งนี้ นายเดชอิศม์ ได้สรุปในตอนท้ายให้นำเสนอเป็น 2 ส่วนคือ โครงการหรือเรื่องที่ไม่ของบประมาณ โดยให้รัฐบาลพิจารณาเกี่ยวกับกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาจังหวัดสงขลาในด้านต่าง ๆ เช่น การให้ความเป็นธรรมกับจังหวัดสงขลาใกันการจัดซื้อจัดจ้างทั้งจังหวัด เช่นเดียวกับสามจังหวัดชายแดนใต้ และสตูล ไม่ใช่มาแบ่งจังหวัดสงขลาเป็น 2 ส่วนเช่นปัจจุบัน กับโครงการที่ของบประมาณ ซึ่งอยากจะให้กำหนดเป็นระยะที่ 1, 2 และ 3 เพราะทุกท่านเข้าใจว่างบประมาณมีข้อจำกัด โดยบางเรื่องตนสามารถนำไปหารือกับรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง โดยไม่ต้องเสนอต่อที่ประชุมครม.สัญจรในครั้งนี้ หรืออาจจะนำเสนอในครั้งต่อ ๆ ไป
“การประชุมวันนี้ ได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก ผมมายืนตรงนี้ จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ด้วยความเป็นลูกสงขลา และจะไม่ทำให้พี่น้องชาวสงขลาเสียหาย” นายเดชอิศม์ กล่าว