ชี้มูลอาญา-วินัย ปลัดจว.สงขลา

IMG 1450

ป.ป.ช ชี้มูลปลัดจว.สงขลา คดีทุจริตนำเงินรายได้ปาล์มน้ำมันไปใช้ส่วนตัว ช่วงนายอำเภอ จ.ตรัง อ.วังวิเศษ

...ตรัง เผยมติคณะกรรมการชุดใหญ่ ชี้มูลความผิดอาญาวินัยร้ายแรง ‘วรพันธุ์ สุวรรณยุหะ‘ ปลัดจังหวัดสงขลาเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายอำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง คดีกล่าวหาทุจริตเงินรายได้ปาล์มน้ำมันไปใช้ส่วนตัว ส่งสำนวนอสส.ฟ้องร้องตามขั้นตอนกม.แล้ว 

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2568 ที่ห้องประชุมสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง พร้อมด้วย นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีร้องเรียนกล่าวหา นายวรพันธุ์ สุวรรณยุหะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายอำเภอวังวิเศษ จ.ตรัง ว่าทุจริตเงินรายได้ปาล์มน้ำมันของอำเภอวังวิเศษ จ.ตรัง โดยนำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว

นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ กล่าวว่า จากการไต่สวนข้อเท็จจริงปรากฏว่า กรมธนารักษ์ ได้อนุญาต ให้กรมการปกครองครอบครองใช้ประโยชน์ในที่ดินราชพัสดุ ในพื้นที่ ต.วังมะปรางเหนือ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง เป็นศูนย์ราชการอำเภอวังวิเศษ ที่ว่าการอำเภอ และบ้านพักข้าราชการกรมการปกครอง โดยมีเนื้อที่ทั้งหมด 154 ไร่ 1 งาน 74 ตารางวา ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2554 นายอำเภอขณะนั้น เห็นว่าพื้นที่บริเวณด้านข้างที่ว่าการอำเภอวังวิเศษ ซึ่งอยู่ติดกับบ้านพักนายอำเภอ ยาวไปจรดกับเทศบาล ต.วังวิเศษ เนื้อที่ประมาณ 20 กว่าไร่ เป็นพื้นที่ว่างเปล่าไม่ได้ใช้ประโยชน์ จึงได้ใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นแปลงสาธิตด้านเกษตร และทำการปรับพื้นที่ปลูกต้นปาล์มน้ำมัน ประมาณ 400 ต้น โดยไม่ได้ใช้งบประมาณของทางราชการและก็ไม่ได้แจ้งขอเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้ที่ราชพัสดุดังกล่าว

จากนั้น เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2558 นายวรพันธุ์ สุวรรณยุหะ ผู้ถูกกล่าวหารายนี้ ได้มาดำรงตำแหน่งนายอำเภอวังวิเศษจึงเข้ามาดูแลบริหารจัดการสวนปาล์มน้ำมันของอำเภอวังวิเศษดังกล่าว โดยมีอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอวังวิเศษ (อส.) ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นหน้าของของนายอำเภอรายนี้ เป็นผู้ดูแลจัดการให้ และเมื่อได้รับเงินจากการขายผลปาล์มน้ำมันแล้ว จะนำเงินมามอบให้แก่ นายวรพันธุ์ ผู้ถูกกล่าวหา โดยในเริ่มแรกตั้งแต่เดือน พ.ย. 2558 จนถึงประมาณกลางปี 2560 โดยได้มีการเก็บผลปาล์มน้ำมัน เฉลี่ย 15 – 20 วัน/ต่อครั้ง มีรายได้เป็นเงินประมาณ 6,000 – 10,000 บาท/ต่อครั้ง เมื่อคำนวณเงินรายได้จากการขายผลปาล์มน้ำมันในช่วงเวลาประมาณ 2 ปี จะมีรายได้เงินประมาณ 200,000 – 300,000 บาท ซึ่งปรากฏว่า นายวรพันธุ์ ผู้ถูกกล่าวหา ได้ชี้แจ้งว่าได้นำเงินรายได้ดังกล่าว ไปเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลสวนปาล์มน้ำมัน เช่น ค่าซื้อปุ๋ยบำรุงต้นปาล์ม จำนวน 39,000 บาท ค่าคนงานใส่ปุ๋ยจำนวน 1,500 บาท ค่าคนงานตัดหญ้า/ตัดทางปาล์ม จำนวน 15,000 บาท รวมเป็นเงิน 55,500 และนำไปเป็นค่าใช้จ่ายจัดกิจกรรมต่างๆของอำเภอเป็นเงินจำนวน 70,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 125,500 บาท โดยยังมีเงินส่วนที่เหลืออีก เป็นเงินประมาณ 74,500 – 174,500 บาท ที่ไม่ปรากฏพยานหลักฐานที่แน่ชัดว่า นายวรพันธุ์ ผู้ถูกกล่าวหาได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการใดของทางอำเภอวังวิเศษหรือทางราชการ ไม่สามารถรับฟังหรือชี้แจ้งได้

โดยที่นายวรพันธุ์ ผู้ถูกกล่าวหา เป็นผู้เก็บเงินรายได้ดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งไม่มีการจัดทำบัญชีรายรับร่ายจ่ายหรือมีหลักฐานการใช้จ่ายที่ทำให้สามารถตรวจสอบได้ในภายหลัง อีกทั้งขณะที่นายวรพันธุ์ ผู้ถูกกล่าวหา ดำรงตำแหน่งนายอำเภอวังวิเศษในขณะนั้นก็ได้มีหนังสือลงวันที่ 14 .. 2558 แจ้งให้อำเภอวังวิเศษ ทำการตรวจสอบว่ามีการนำที่ราชพัสดุไปจัดหาประโยชน์ถูกต้องตามที่ได้รับอนุญาตหรือผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ หรือนำไปใช้นอกเหนืออำนาจหน้าที่ หรือนำที่ราชพัสดุไปใช้ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในราชการ ไปจัดหาประโยชน์โดยไม่ถูกต้อง ซึ่งหากใช้ที่ราชพัสดุไม่ถูกต้องให้แจ้งขอเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้ แต่ปรากฏว่า นายวรพันธุ์ ผู้ถูกกล่าวหา กลับไม่ดำเนินการตามหนังสือที่ได้สั่งการไปแต่อย่างใด

 ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง พร้อมด้วย นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต ร่วมกันแถลงข่าว 

คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล การกระทำของ นายวรพันธุ์ สุวรรณยุหะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายอำเภอวังวิเศษในความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และมาตรา 157 และในฐานความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 และเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 82 (1) (2) (3) ประกอบมาตรา 85 (7) มาตรา 83 (3) ประกอบมาตรา 85 (7) และมาตรา 85 (1) (4) และสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง ได้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งสำนวนการไต่สวนและเอกสารหลักฐาน พร้อมความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ โดยไม่ต้องแต่งตั้ง คณะกรรมการสอบสวนอีก และพิจารณาโทษภายใน 30 วัน

โดยปัจจุบันนี้ นายวรพันธุ์ สุวรรณยุหะ ยังคงดำรงตำแหน่งทางราชการ ในตำแหน่ง ปลัดจังหวัดสงขลา

อย่างไรก็ตาม การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ..ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึง

ขอบคุณข้อมูล : สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *